เห็นว่าเป็นประเด็นที่ยังมีคนสนใจอยู่เยอะ พอดีไปอ่านเจอเข้าจึงนำมาฝากทุกคนครับ เหมือนเคยครับ
ใช้วิจารณญาณของตัวเองนะครับ
คัดลอกมาจากหนังสือ Popular Mechanics ภาคภาษาไทย ฉบับ พฤษภาคม 2005
คอลัมน์ รู้เท่า...ก้าวทัน...
โดย ศิริบูรณ์ เนาว์ถิ่นสุข
“ถามกันอยู่นั่นแหละว่าใช้แก๊สโซฮอลแทนเบนซินได้จริงหรือ?”
อีกครี่งปีนับจากเดือนนี้ (พฤษภาคม 2548) พวกเราจะแวะเข้าปั๊มแล้วสั่งเติมเบนซินออกเทน 95 ไม่ได้อีกแล้ว พวกเราต้องเปลี่ยนคำสั่งใหม่ว่า แก๊สโซฮอล 95... ข่าวนี้ทำเอาหูของผมระบมด้วยคำถามที่ยิงมาจากทั่วสาระทิศ ภาษาอินเทอร์เน็ตคงจะจัดเข้าข่าย FAQ’s (Frequently Asked Questions) ของประเด็นแก๊สโซฮอลดังตัวอย่างต่อไปนี้
- ไม่มีเบนซินออกเทน 95 แล้วรถของผมจะทำยังไง?
ก็เติมแก๊สโซฮอล 95 ไปสิครับ ขืนไม่เติม คุณก็ต้องจอดไว้ดูเล่นในบ้านเท่านั้นเอง
- อ้าว ทำยังงั้นแล้วเครื่องผมไม่พังหรือ?
ทำไมต้องพังล่ะ ผมไม่เห็นรถในอเมริกาที่ซื้อแก๊สโซฮอลใช้กันปีละตั้งหมื่นกว่าล้านแกลลอน (เท่ากับประมาณ 5 หมื่นล้านลิตร) มันบ่นว่ากินแก๊สโซฮอลไม่อร่อยเหมือนเบนซินเลย ตั้งแต่เริ่มต้นในมลรัฐ Nebraska เมื่อ 34 ปีก่อน (ค.ศ.1971) จนบัดนี้ แก๊สโซฮอลก็กลายเป็นเชื้อเพลิงมาตรฐานเกือบจะทุกมลรัฐของอเมริกาไปแล้ว (ยกเว้นเพียง Alaska, Delaware, Hawaii, Maine, Maryland, New Hampshire, Oklahoma, Rhode Island, South Carolina, Vermont เท่านั้น)
- ส่วนผสมของ Ethanol ในอเมริกาเหมือนกับของเราหรือ?
เหมือนก็มี ไม่เหมือนก็มี กล่าวคือที่นั่นเขาใช้ส่วนผสม 3 สูตร สูตรที่ขายเกลื่อนประมาณ 80 % -ของยอดขายทั้งหมดเป็น Ethanol 10% เหมือนกับที่พวกเราบางคนลองใช้กันแล้ว (8 ล้านกว่าลิตรในเดือน กุมภาพันธ์ 2548) สูตรที่สองคือ Ethanol 7.7% สูตรที่สามคือ Ethanol 5.7% (คุณคิดว่าสูตรของเราจะยืนหยัดอยู่ที่ Ethanol 10% ตลอดไปหรือ? ผมมีลางสังหรณ์ จึงขอถามไว้ก่อน)
- ใช้แล้วกินน้ำมันเปลืองกว่าหรือเปล่า?
Ethanol เพียว ๆ แต่ละกรัมมีค่าความร้อนของการสันดาปน้อยกว่า เบนซินประมาณ 3% ครึ่ง แต่ว่าเมื่อคุณซื้อแต่ละลิตร คุณได้น้ำหนัก 796 กรัม แทนที่จะเป็น 720-730 กรัม (หนักกว่าประมาณ 9%) แต่แก๊สโซฮอลสูตร E10 มันเป็นเบนซิน 9 ส่วนบวก Ethanol 1 ส่วน จึงหนักเพียงประมาณ 730-740 กรัม และด้วยค่าความร้อนต่อกรัมเพียงไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ ฟังดูเหมือนเจ๊ากันไปเกือบพอดี แต่ตรงที่ Ethanol เสียปรียบหนักคือ ความเข้มที่ต้องผสมกับอากาศ (Air-fuel Ratio) ในอัตรา 9:1 (อากาศ 9:Ethanol 1 โดยน้ำหนัก) แทนที่จะเป็น 14.7:1 อย่างของเบนซิน (อากาศ 14.7:เบนซิน 1 โดยน้ำหนัก) แก๊สโซฮอลสูตร E10 จึงต้องการ AFR ประมาณ 14.2:1 (ซึ่งเข้มกว่า 14.7:1 ของเบนซิน)... วัดกันเป็นกิโลเมตรต่อลิตร แก๊สโซฮอลต้องเปลืองกว่าแน่... แต่ถ้าวัดกันว่ากิโลเมตรละกี่บาท แก๊สโซฮอลจะเปลืองเงินน้อยกว่า เพราะราคาปัจจุบันต่ำกว่าเบนซิน 95 ตั้ง 6% กว่า ๆ
- เครื่องเดินเรียบเหมือนเดิมหรือ?
เครื่องยนต์ที่ใช้หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็น Close-loop อย่างในปัจจุบันไม่เป็นปัญหา เพราะ Oxygen-sensor ที่คอยวัดปริมาณออกซิเจนในไอเสียว่าขาดหรือเกิน จะสื่อสารให้กล่องสมองปรับให้ได้ส่วนผสมที่เป็น Stoichiometric Equilibrium เกือบตลอดเวลา ยกเว้นจังหวะที่กดคันเร่งลึกมาก (เกิน 70-75%) ที่ออกจาก Close-loop ชั่วคราว ที่อาจจะพลาดไปจาก AFR สำหรับการเร่ง (Acceleration Mode)
...นั่นคือคำอธิบายว่าทำไม แก๊สโซฮอลจึงผสม Ethanol ไว้เพียง 10% ก็เพื่อให้โปรแกรมสำหรับใช้กับเบนซินยังพอจะใช้ต่อไปได้โดยไม่ต้องแก้ไข (ถ้าเกินกว่านี้ต้องแก้โปรแกรมแน่ เครื่องที่ใช้คาร์บูเรเตอร์ก็เช่นกัน ต้องจูนใหม่ แต่ง่ายระดับที่เรียกว่า “หลับตาข้างหนึ่ง หรี่ตาอีกข้างหนี่งก็ทำได้”
- เครื่องที่ไม่เคยน็อคจะน็อคไหม?
น็อคหคือไม่น็อคมันอยู่ที่ค่าออกเทน ถ้ามันเป็น 95 เหมือนกันก็ป้องกันอาการน็อคได้เท่ากัน ไม่เกี่ยวสักหน่อยว่าเป็นแก๊สโซฮอลหรือเปล่า อันที่จริงแล้ว Ethanol เพียว ๆ มีค่าออกเทนตั้ง 108 RON จึงเป็นตัวเลือกที่เอามาใช้เป็นตัวเพิ่มค่าออกเทน (Octane-improver) ให้กับเบนซินแทนที่จะใช้ MTBE ที่เป็นของแพงและต้องนำเข้า
- เขาว่า Ethanol ดูดความชื้นเก่งไม่ใช่หรือ?
เป็นความจริงว่า Ethanol ดูดความชื้นที่มีอยู่ในบรรยากาศเก่งกว่าเบนซิน ไม่ใช่ว่ามันสร้างน้ำเองได้ มันแค่ขยันชวนเอาความชื้นในอากาศมาอยู่กับมันได้เก่ง ดังนั้น ถ้าถังน้ำมันของคุณปิดได้สนิท และมีรูหายใจรูเล็กเท่าที่จำเป็น อากาศภายนอกก็นำความชื้นจากภายนอกเข้าไปในในถังได้ไม่มาก... นี่ก็เป็นสาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่จำกัดสัดส่วนของ Ethanol ไว้เพียง 10%
- เขาว่า Ethanol กัดท่อยางเก่งไม่ใช่หรือ?
Ethanol กัดท่อยางเก่ง เบนซินก็กัดท่อยางเก่ง ดีเซลก็กัดท่อยางเก่ง ท่อยางสำหรับใช้เป็นท่อเชื้อเพลิงทั้งหลายจึงไม่ใช้ยางธรรมชาติ แต่เป็นยางสังเคราะห์สำหรับใช้กับงานนี้โดยเฉพาะ
ถ้าท่อยางยี่ห้อใดสู้แก๊สโซฮอลไม่ได้ ท่อยางยี่ห้อนั้นก็ไม่สมควรจะใช้กับเบนซินอยู่แล้วล่ะคุณเอ๋ย
ในขณะที่ยังมีเบนซิน 95 ขายอยู่ จะเติมแก๊สโซฮอลบ้าง สลับกับเบนซิน 95 บ้างจะเป็นอะไรไหม? ... มันก็แค่การผสมแก๊สโซฮอลสูตรส่วนตัวของคุณที่มีสัดส่วน Ethanol ต่ำกว่า 10% ในบางคราวเท่านั้น ถ้าวิ่งด้วย E10 (ที่คุณเคยหวาดกลัว)ได้แล้ว คุณจะมากลัวทำไมกับ E3 หรือ E4 หรือ E5 ล่ะ?
- เครื่องเทอร์โบจะไม่เป็นปัญหาหรือ?
เครื่องเทอร์โบมันวิเศษมาจากไหน มันถึงจะต้องเกรงกลัวแก๊สโซฮอล คุณรู้ไหมว่ารถแข่งที่ใช้เทอโบแรงดัน (Boost) สูงมาก ๆ น่ะกลับแสวงหา Methanol หรือ Ethanol เพียว ๆ ด้วยซ้ำ
ผมเองไม่ตื่นเต้นกับปัญหาพวกนี้ ผลกลับไปเป็นห่วงว่า เราจะผลิต Ethanol ได้มากพอจะผสมเป็น E10 ได้จริงหรือ? เราจะสูญเสียความร้อนไปในกระบวนการผลิต Ethanol กี่เปอร์เซ็นต์ (15%?)? เราจะต้องสูญเสียน้ำมันดีเซลไปเท่าใด เพื่อขนส่งวัตถุดิบหนัก ๆ อย่างอ้อย หรือมันสำปะหลังไปส่งโรงหมัก Ethanol (1 ตันของมันสำปะหลังเบอร์ 3 กลายเป็น Ethanol ได้ 170 ลิตร)? เราจะสูญเสียน้ำมันดีเซลอีกเท่าใดนำส่ง Ethanol ไปผสมกับเบนซินที่โรงกลั่นน้ำมัน? เราจะต้องทำลายป่าอีกสักกี่ล้านไร่เพื่อจะเพิ่มการปลูกอ้อยและมันสำปะหลัง ให้พอจะเอามาเผาในกระบอกสูบเครื่องยนต์ ราคาที่รัฐบาลประกันไว้ว่าผู้ผลิต Ethanol จะขายให้โรงกลั่นได้12.75 บาท จะต้องขยับขึ้นวันใด (เพราะวัตถุดิบมันแพงขึ้น)? ผู้ผลิต Ethanol ไม่ต้องเสียภาษี แต่งบประมาณรายจ่ายของรัฐเพิ่มขึ้นทุกปี ใครจะเป็นคนแบกภาระภาษีแทนผู้ผลิต Ethanol? .... ผมและท่านไง!