พาเที่ยวบ้านเกิดผมบ้างดีกว่า.... ^_^

[kamolwat_t]

เมื่อวันที่10 ที่ผ่านมาได้กลับไปถวายสังทานให้ช่างทราย และไปไหว้กระดูกตระกูล ที่วัดช่างเหล็กครับ วัดที่บ้านเกิดผมตรงตลิ่งชัน....

ดูจาก...รูปข้างล่าง..หรือไปเซริท เฮีย goo นะครับ...

[kamolwat_t]

คือ ถ้าดูจากในรูป...

บ้านเกิดผมที่อยู่ตอนเด็กๆยัน ป. 5 คือ"บ้านสวน"ครับ เวลาจะไป รร. ต้องพายเรือไปตรง ร้านแปะตือ เพื่อเดินไปขึ้นรถ 2 แถว (หลังๆขับรถไป) แฮะๆๆ

ไม่ได้กลับไปนาน... คิดถึงมากๆครับ...

ด้านบนคือ ตลาดน้ำตลิ่งชัน...ที่ผมเคยพา เป้ย และพี่วิน กลับมากินส้มตำกับปลาช่อนย่าง ตอนงานบวชโค้ชครับ..

ไหนๆก็พูดถึงตลาดน้ำ... เมื่อก่อน มันจะเป็นแพไม้ไผ่มีหลังคามุงจากครับดูดีมี CI มากๆ แต่ตอนนี้เป็นโปีะเหล็กหลังคาสังกะสี...ไม่ชอบเลยไม่ได้สื่อถึงความเป็น ธรรมชาติของท้องถิ่น หลังๆนี้ก็มีแต่ของกินมาเกาะขาย แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อน จะมีชาวสวนจริงๆเจ้าของสวนจริงๆ พายเรื่อเอาผลไม้(แถวนั้นมะไฟ กระท้อน ชมพู และมะเหมี่ยวขึ้นชื่อครับ) และพวกผักสวนครัวมาขายทุกวันเสารือาทิตย์ ตลาดคึกคักมากๆๆๆ มีของกินโบราณ เช่นขนมเบื้องโบราณ คล้ายๆบน มาบุญคลองครับ แต่ว่าเป็นของจริงไม่ได้แปลงสูตรแบบข้างบนห้าง ตอนนั้นยังเด็กเลยจำไม่ได้ว่ามีใส่อะไรบ้างแต่ว่ามันอย่อยโคตรๆฮะ กระท้อนก็ลูกละ 2โล... กินได้ทั้งบ้าน แต่เดี๋ยวนี้ ตรงตลาดน้ำจะมาขายของต้องเสียค่าระวางลำละ 50 บาทครับ ขายผักขายผลไม้มันไม่ได้กำไรเท่าไรหรอก... ยังจะมาเก็บเงิน ผมโคตรเกลียดเลย.. เอาไว้มีตังจะมาทำตลาดน้ำในคลองของผมแข่งบ้าง... เมื่อก่อนเขาเล่าว่า... ตลาดน้ำจริงๆมันมีเริ่มตั้งแต่ตรง "ร้านแปะตือ"หน้าวัดช่างเหล้กยาวไปยันทางรถไฟ หรือตรงตลาดน้ำในบัจจุบันครับ ผมไม่ชอบกลุ่มคนที่ไม่รุ้ว่าตัวเองกำลังดูแล อะไรอยู่ดีแต่หาประโยชน์เข้าตน และพวกพ้องจนทำให้ระบบที่มันดำเนินมาแต่โบราณโดนทำลายไปครับ โตขึ้นผมจะทำโฮมสเตย์ ตรงบ้านสวนของผมจริงๆด้วย...

และตรงนี้สมัยเด็กๆ ผมจะเดินผ่านตรงนี้ทุกวันครับเมื่อก่อน เรียน โรงเรียนวัดตลิ่งชัน ตรงนี้ เป็นที่ทำการเขตมีสนามหญ้าผมชอบมากลิ่งๆเล่นบ่อยๆ

มาต่อตรงอื่นดีกว่าครับ เป็นเกร็ดความรู้แล้วกัน.... ทางรถไฟสายนี้จะไปยังเมืองกาญครับ... สถานีต้นทาง ธนบุรี คือที่ๆ โกโบริโดน ระเบิดครับ แต่บ้านอังสุมารินอยู่ไหนผมไม่รู้นะ   อิอิ

คลองชักพระ เมื่อก่อนคือแม่น้ำเจ้าพระยาเดิมครับ ดูจากสี น้ำตาล... แล้ว ในสมัย.....ผมไม่รู้แฮะ ในหลวงได้มีดำหริให้ตัดผ่านแม่น้ำครับ เพื่อย่นระยะทางการเดินทางทางเรื่อ...(ตอนขุดแม่น้ำ เห็นพ่อบอกว่าเจออะไรเพียบเลย...และแม่น้ำช่วงนี้จะตื้นมาก)

พ่อผมอีกเล่าว่า... เมื่อก่อน เวลาเรือเดินทางมาจากทางตอนเหนือของกรุงจะมาจอดแวะกันตรง บางพลัด ครับ(เหมือนชื่อ) แล้วก็ ค้างแรมกันตรงนั้น เพื่อที่จะเดินทางผ่าน แม่น้ำเจ้าพระยาเก่า(คลองชักพระในปัจจุบัน) ในตอนรุ่งสาง... เวลาเดินทาง แต่เดิม 14 กิโลเมตร ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง ถ้า ลืมหม้อข้าว... ก็จอดตรงวัดอรุณ.. แล้วเดินลัดไปเอาตรงที่จอดเรือ ไปกลับ 4 กม เดินชั่วโมงเดียว...  

[kamolwat_t]

อ่า...มาดู ร้านโบราญในย่านกันบ้าง... ร้านแปะตือ... คือร้านที่ขายของชำและ ขายอาหารในย่านนั้นครับ มีมาตั้งกะผมยังไม่เกิด... หน้าตาร้านก็มีมาแบบนี้ตั้ง 30 ปีแล้ว... ตู้ ที่วางข้างหน้านั้น... ผมจำความได้ก็มีแล้วครับ สงสัยจะไม่ต่ำกว่า 30 ปี โอ่ง ข้างๆร้าน ที่วางเรียง... เมื่อก่อน น้ำประปาไม่แรงครับ ต้องมีการรองน้ำ(สมัยโบราณใช้รองน้ำฝนนะครับ) ไหอันเล็กๆ เมื่อก่อนใช้ใส่เกลือครับ จะมีเรือขายเกลือผ่านมาบ่อยๆ

รูปแรก บรรยากาศหน้าร้านครับ มีเก้าอี้ยาว...

ป้ายเป๊ปซี่โบราณ จริงๆมีโบราณกว่านี้...แต่เอาออกไปแล้ว... มันเขียนว่าขวดละ25สตางค์... คิดดูครับว่าเก่าม่ะเก่า ตรงนี้เป็นจุดที่ใช้ส่งเป็ปซี่ และโค้ก ครับ งงป่าว..

เมื่อก่อน โค้กอยู่ตรงวัดเจ้าอามครับ ตอนนี้ก็ยังมีอยู่ เวลาขนส่งมาจากโรงงาน(ไม่รู้อยู่ไหนนะัครับ) มันจะมาทางเรือ แล้วมาพักที่ คลังตรงวัดเจ้าอาม แล้วก็จะจัดส่งทางเรื่อ(เป็นเรื่อลำใหญ่ๆครับไม่รุ้เรียกว่าอะไร) เพื่อขึ้นรถส่งตามท่าต่างๆ ที่วางจุดส่งของเอาไว้... โดยจะมีรางเหล็กชุบน้ำมันพาด..แล้วเอา ลังโค้กเหวี่่ยง ให้ไหลไปตามรางเหล็กครับ ถ้าน้ำขึ้น เรือจะลอยสูงตามรากก็สูงกว่าบนบก ก็จะเป็นการส่งของใหม่ครับ แต่ถ้่า น้ำลง บนบกสูงกว่า ก็จะเป็นลังเปล่าจากบนบกส่งกลับลงเรื่อเพื่อบรรจุใหม่ครับ... ฉลาดมักๆ แต่ตอนนี้มีการทำประตูระบายน้ำ เพื่อกันน้ำท่วม กรุงเทพชั้นใน เลยไม่มีเรือแบบนั้นแล้ว... เหลือแต่รางเหล็กวางไว้ข้างๆทางเดินเป็นอณุสรณ์ (ผมก็ลืมถามว่าเลิกขนแบบนี้กันมากี่ปีแล้วซะด้วย)

ช่องเล็กๆ ที่เป็นสังกะสี รูปที่ 3 คือ ช่องทางลัดไปห้องน้ำครับเวลามากินเหล้า... ก็ฉี่ตรงนี้เลย..(ไม่ได้ล้อเล่นนา...เขาสร้างมาไว้ฉี่จริงๆ)

รูปที่ 4 ตู้ 2 ใบที่ผมบอกว่ามันมีมาก่อนผมเกิดฮะ.... ใบเล็กเมื่อก่อนจะมี บ๊วยเค็ม(พูดแล้วน้ำลายไหลเลย) วางขายอยู่ เวลาซื้อ 3เม็ด2 บาท ซื้อมาแล้วแปะตือ จะเอาห่อใส่กระดาษหนังสือพิมพ์ครับ เอากลับมาอมที่บ้าน... เคยมีวีรกรรม... ผมอมแล้วหลับไป... ตื่นเช้ามา...ปากเปื่อย...เลย...เพราะว่ามันเค็มจัด... ดูลักษณะการแขวน/วางของ ยังเหมือนกับเมื่อตอนผมเด็กๆครับ ไม่ค่อยเปลี่ยนเลยดีจัง..

รูปที่ 5 ลักษณะของการแขวนของครับ และจะมีบานเปิดปิดร้าน... เวลา เก็บร้านก็ปิดเลย.. ไม่ต้องขนของเข้าๆออกๆ ฉลาดโคตรๆ ชอบงาน เตค สมัยเมื่อก่อนจัง ฟังค์ชั่น แบบการเรียนรู้ ผมจะเอาร้านนี้เป็นโครงสร้างต้นแบบของ ฟร้อนใน โฮมสเตย์ผมในอณาคตครับ อยากจะคงลักษณะ ของร้านโบราณแบบนี้เอาไว้ และอาจจะเอามาใช้ที่ร้านกาแฟที่เชียงใหม่ผมบางส่วนด้วย...

[kamolwat_t]

ออ ต่อๆจากข้างบน รูปที่ 4 จะเห็น อาม่า เจ้าของร้าน(แฟนแป๊ะตือ) ทำใส้เด็กให้ผมกินครับ   (งงอ่ะจิเดียวบอกข้างล่าง...)

รูปที่ 5 เห็น เก้าอี้โบราณม่ะครับ มีมานานมากแย้ว... ข้างบนมันจะเป็นไม้ ข้างล่างเป็นเหล็กครับ ทนโคตรๆ

อ่า... มาต่อกันที่ อาหารขึ้นชื่อครับ... ไส้เด็ก... รูปที่ 1 เลย..

จริงๆมันคือไส้หมุล้างสะอาดแล้วต้มพะโล้ครับ... สิ่งที่ไม่เหมือนที่อื่นคือ กลิ่นของเครื่องเทศที่เป็นกลุ่นเฉพาะของร้าน มันจะไม่แรงครับ แล้วก็ น้ำปลาพริก... จริงๆต้องเรียกว่ามะนาวพริกน้ำปลาเพราะว่า มีรสเปรียวนำครับ มีมะนาวมากกว่าน้ำปลาฮะ...

ที่มาของชื่อ... คืออาผมที่เลี้ยงผมตั้งแต่เด็ก ตั้งชื่อเอาไว้ตอนขู่ผมเวลาดื้อๆซนๆ กลับจาก โรงเรียนมาเมื่อก่อนต้องกิน เกือบทุกวันครับ เลยกลายเป็นชื่อที่ชาวบ้าน(เมื่อก่อนนะ) เขารู้กันไปแล้ว...แฮะๆๆ วีรกรรมเยอะจริงๆเลย..

แล้วก็จะมี ต้มยำ อุตลุดครับ... ได้สูตรมาจาก รายการอะไรสักอย่างเนี้ยแหละ...อย่อยดี... แต่วันนั้นไม่ได้ทาน... แล้วก็ ซุปเนื้อครับ คล้ายๆของอิสลามที่มันมีมะเขือเทศด้วย... รสเปรี้ยวนำตามด้วยเผ็ดและกลมกล่อม(ช่วงที่กลับมาเที่ยว กทม หลังๆยังได้ทานอยุ่จำรสชาดได้ )

ส่วนที่เหลือก็จะเป็นอาหารที่เขาขับเรือ ผ่านครับ..มีทั้งเป็ดพะโล้... โจ๊ก โจ๊กนี้ขอแนะนำเลยคัรบ... เป็นโจ๊กโบราณ ครับ เวลาทำเขาจะมี หม้อที่มีแต่ข้าวข้นๆ ข้นในระดับข้าวหมาที่บ้านผมเลย ข้นมากๆ และหม้อซุป อีกหม้อครับ แล้วก็จะมี เครื่องต่างๆวางอยู่ในเรือ เวลาสั่งก็จะทำชามต่อชาม อย่อยกว่า โจ้ก กวนๆที่ขายตามร้านมาก.... แล้วทีเด็ดคือเกาเหลาโจ็กครับ... คือทำแบบโจ้กทุกอย่างแต่ว่าไม่ใส่ข้าว... รสชาดไม่เหมือนเกาเหลาของก๋วยเตี๋ยวนะครับ เพราะว่าน้ำซุปมันคนละแบบกันอยากรู้ต้องจัดทริปมาลอง...อิิอิ ที่เหลือก็ หมูสะเต็กครับ มาช่วงค่ำๆ หนมปังปิ้งกับน้ำจิ้มอาจาด..อาย่อยมากกกกก เหมาะที่จะเป็นกับแกล้มอย่างยิ่ง... อิอิ 

รูปที่ 2 ข้างๆร้านครับ... มีโอ่งเพียบเลย... ไว้รองน้ำ.. และตู้โบราณที่ผมว่า..

รูปที่ 3 ไหที่ผมบอกว่าเอาไว้ใส่เกลือครับ... เชื่อไหมฮะว่าผมมาร้านนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้วมันก็อยู้ตรงนี้... ไม่รู้ว่าใส่อะไรอยู่...อิอิ แต่ไม่ได้ย้ายไปไหนเลย...

ออพื้นของร้าน..เป็นไม้ เก่ามากครับ สมัยเด็กๆ ช่วงลอยกระทง... น้ำจะท่วมเสมอ...ยันกระดานเลย... จำได้ติดตา...ลอยกระทงตรงนี้แหละ... :-*

รูปที่ 4 ด้านข้างของร้านที่เป็นทางเข้าครับจริงๆ ถ้าเอาต้นไม้ออกมีโอ่งอยู่ร่วมๆ10 ใบได้ครับ.. สะท้อนชีวิตการเป็นอยู่ชัดมาก ยังมองเห็นรางน้ำฝนที่ดักลงมาที่โอ่งอยู่เลย เฮ้ย..เรียกผิด... นี่มันตุ่มครับ อ้วนกว่าโอ่ง...และไม่มีลาย(จริงๆนะ)

เกร็ดอีกนิดฮะ... จำได้คุ้นๆว่า... ตุ่มเนี่ย มันมาจากราชบุรี..มาทางเรือครับ ใช้ถ่วงเรือมา แล้วก็ขายไปเรื่อยๆ ขากลับก็เอาสินค้าในกทม ล่องกลับไป.... พ่อเคยบอกไว้

รูปที่ 5 ประตูบานเซี้ยม และระแนงในบ้านครับ.... บ้านแบบนี้ไม่ต้องกลัวยุง... เพราะว่า เวลานอนก็ขึ้นไปนอนชั้น 2 ครับลมโกรก เวลายุ่งเยอะก็จุดยากันยุงเอา.. สมัยผมเด็กๆก็เงี้ย.อ่ะ

[kamolwat_t]

โอ่ะ... ลืมไป ข้าวไส้เด็กของแท้.. ต้องมีแตงกว่าเหลืองๆครับ แต่ผมไม่กินแตงกว่า... มันเลยเหลือตลอดเลยฮะ... แฮะๆๆ

รูปแรก... ชั้น 2 ของร้านครับ มีระเบียง... เหมาะกับการร่ำสุรามาก... ลมเย็นตลอดแน่นอน... แต่ผมไม่เคยขึ้นไปนะ...แฮะๆๆ

สังเกตุลักษณะการวางขื่อ และแปล ของบ้านที่ชั้น 2 ไหมครับ... ไม้สมัยเมื่อก่อนมันคุณภาพดีมากครับ หลังนี้.. มีน้อยๆก็ 40 ปีแน่นอน...ไม้ยังหน้าตาดีอยู่เลย...ทั้งๆที่โดนแดดโดนฝน..ตลอด...

ออชั้นล่างจะเพดานสูงกว่าชั้นบนครับ ถ้าจำไม่ผิดสูง ประมาณ 3 เมตร มั้งครับ พื้นที่ภายในตัวบ้านก็ยกสูงจาก พื้นร้านข้างนอก ประมาณ 30 cm ครับ.. แต่แค่นี้น้ำก็ไม่ท่วมแล้ว... ท่วมครั้งสุดท้ายปี 25 ปีเกิดผม... สวนทุเรียนที่บ้านผมตายเรียบ....

รูปต่อมา.. เห็นลักษณะการเข้าไม้่ของผนังไหมครับ..การทำแบบนี้จะทำให้

1. ไม้ชิดกันไม่มีช่องว่างเวลาไม้หด

2. เวลาฝนตกไม่เข้าบ้านแน่นอน... บ้านสวนผมก็เข้าไม้แบบนี้ครับ มันจะมี แปน่าจะทุกๆ50 ผมปีนบ้านตัวเองเล่น เอาของเล่นไปซ่อมบ่อยๆ อิอิ

ฝาบ้าน จุดที่อยู่เหนือบานเซี้ยม ยังคงแสดงให้เห็นถึงการระบายลมในตัวบ้านครับ... บ้านแบบนี้ไม่ร้อน...แน่นอน... 

รูปที่ 3-4 บานเซี้ยมฮะ... ผมนึกออกแล้วว่าทำไมถึงได้ชอบบานเซี้ยมมากเวลาจะออกแบบ เพราะว่ามันติดตานิเอง...

[kamolwat_t]

ต่อๆ ใกล้หมดรูปล่ะ... มาดูคลองบ้านผมกันบ้างฮะ... ตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าคลองที่เข้าบ้านผมอ่ะชื่อว่าอะไร... 

เมื่อก่อนมันไม่มีสะพานคนเดินแบบนี้นะครับพึ่งมีได้ 5-6 ปี... เดินๆเข้าไปในบ้านยังเจอตัว เงินตัวทอง ว่ายน้ำ+เกาะต้นมะพร้าว อยู่เลย...

รูปที่ 2 ตรงช่องของเสาสะพาน จะเห็นตลาดน้ำอยู่ลิบๆครับ 

รูปที่ 3  ตอนนี้ แถววัดมีปลาสวายเยอะมากครับ... มีการเอาอาหารปลามาให้ด้วยมีขนมปังด้วย ในคลองผมก็ห้ามจับปลานะครับใครจับโดนยิง... เมื่อก่อนสมัยป.3 ยังมีนกเงือกอยู่เลยครับ... เขาจับได้ในสวน แล้วเอามาเลี้ยง(พี่ผมเอง) เลี้ยงแบบเปิดกรงนะครับ ถึงเวลามันก็บินกลับมากรง ปรากฏว่า วันนึงมันไม่กลับมาอีกเลย... สงสัยว่าจะโดนดักโดนชาวบ้านนอกหมู่บ้านที่มายิงนกตกปลาครับ.. ในสวนผมก็มี ไอ้ด่าง.... ตะพาบยักษ์ครับ ตอนเด็กๆ ย่าผมจะซื้อเลือดหมุวันละก้อน...มาโยนให้มันกินตรงประตูครัว...เรียกชื่อสักพักก็มาฮะ... แต่สุดท้ายก็โดน จับไปตอนผมย้ายไปเชียงใหม่แล้วครับ... ตัวหลาย 10โลอยู่อ่ะฮะ ผมว่านะ ย่าก็โยนให้อาหารทุกวันตั้งนาน... จนกลายเป้นสัตว์เลี้ยงที่บ้าน... แต่ไม่กล้าเข้าใกล้นะครับกลัว...  

มีอีกเรื่อง...ตอนเด็กๆเลี้ยงไก่ครับ จำได้แม่นๆก็มี 2 รุ่น ร่นแรก... ก็เลี้ยงลูกเจี๊ยบสีๆในกะละมังครับไปซื้อมาจากตลาดน้ำ... เลี้ยงใส่กรงจนมันโต.. ต้องทำเล้าให้ใต้ถุนบ้าน.... มี 2-3 ตัว ตัวอ้วนๆเลย...ขนาดประนาณยัดเข้าลังเบียร์แน่นๆ เหตุมันเกิดในคืนที่ผมไปนอนบ้านพ่อ ครับ ที่ข้างวัดเจ้าอาม(มันเดินทางสะดวกกว่าเวลาพ่อกับแม่ไปทำงาน เวลาวันเสาร์อาทิตย์ถึงจะกลับบ้านสวนทีนึง) ผม กับน้องอีก 2 คนพ่อแม่แยกกันอยู่คนละบ้านครับ ผมอยู่บ้านสวนกับอา ปู่ย่า 4 คนครับ  อ่ะ ต่อๆๆๆ ปรากฏว่ามีไอ้เหลือม... ขนาด งับไก่ได้พอดีตัว... ยาว สัก3 เมตร เห็นอาผมบอก...มาย่องกินไก่ผมฮะ... เพราะว่า ไก่มันตื่นตอนกลางคืน... แต่ทำไรม่ะได้... เป็นผู้หญิง.. เลยโทรไปบอกผมที่บ้านพ่อ...ผมร้องไห้ใหญ่เลย...

แล้วก็มารุ่นที่ 2 เลี้ยงใหม่ฮะเลี้ยงตัวเดียว... เลี้ยงจนโตเท่าเดิมแต่ว่าไม่ยอมทำกรงข้างล่างแล้ว... ทำมันบนบ้านแต่ยื่นออกไปนอกบ้าน แต่อยู่ในชายคาอยุ่... อิิอิ  โตมาก.. ขนาดที่ว่า..มันหลุดออกมาครับ... แล้วก็ตกไปในคลอง... เวรแน่ๆ ไก่ กรุจาจมน้ำ... ปรากฏว่า... ลอยเป็นเป็ดเลยครับ... แต่ว่าไปไหนไม่ได้...  ลอยวนๆ ก็ปล่อยให้มันหายซ่า... แล้วค่อยพายเรือไปเก็บ...  กดน้ำยังม่ะจมอ่ะ...อิอิ แต่ตัวนี้ ตอนที่ผมจะย้ายมาเชียงใหม่... มีคนมาขอเลี้ยงครับ บอกว่าจะเอาไปเลี้ยงที่บ้านนอก... เป็นพี่ที่ขับเขาขายไก่ย่าง..ในคลอง... ไก่ผมจะรอดหรือว่าโดนหั่นม่ะรู้อ่ะ... แต่ขอให้รอดกลับไปบ้านนอกนะครับ..มะโดนย่างไปซะก่อน...

ตอนเด็กๆยังเคยเจอผีเสือกลางคืน ตัวเท่าถาดพิซ่า ครับ ใหญ่จนน่ากลัว.. แต่ก็ไล่จับ.. แต่ก็ม่ะรอด.. แฮะๆๆ บินหนีมือมารได้ทัน... ในปัจจุบัน เมื่อ2 ปีที่แล้วตอนอยู่บ้านอาตั้ม(บ้านที่เพื่อนๆเคยไปเที่ยว) ผมเคยเดิน ออกมาบ้านสวนตอนตี 4 ครับ เพราะว่า นอนไม่หลับ โดนนกมันปลุก เสียงนกเยอะมากๆๆๆๆๆๆครับตอนแรกๆยังไม่ชิน... ในบ้านอาตั้ม ตอนลอยกระทงอุณอภูมิลงไปที่ 20 ครับ นอกบ้าน น้ำค้างแรงมาก... ขนาดอยู่ใกล้ถนน แต่ถ้าเป็นตรงบ้านสวนผม...มันจะอยู่ตรงกลางของสวนระแวกนั้น... ถ้าเดินร้อนๆจากร้านแปะตือเข้าไปสัก200เมตร..มันจะเย็นสบายแล้วครับ...ทำเป้นเล่นไป... ว่างๆจะแวะไปถ่ายรูปข้าวในมาให้ดูฮะ...อิอิ จะว่าไปก็กลัวความเจริญที่เข้ามานะครับ ฟั่งนึง ติดจรัญ 35 ฝั่นนึงติด จรัญ 37(ฝั่งบ้านอา่ตั้ม) ฝั่งนึงติดร้านแป๊ะตือ ฝั่งนึงติดทางรถไฟ.... ซึ่งตอนนี้มีโลโคโรดมาแล้ว... ไม่พ้นคอนโดมาสร้างแน่ๆครับ... ผมมองว่าความเจริญจะมาจากทางนี้แหละ... 1 ตารางกิโลเมตรของบ้านสวนผม ฮือๆๆๆ (บ้าผมจิ้ดเดียวนะครับ แต่ว่า สวนข้างๆติดๆกันรวมแล้ว 1 ตารางกม พอดีฮะ พท สีเขียว... อยากให้ใครมาอนุรักษ์จังเลย.. ผมเองก็ทำท่าว่าจะเก็บตังไม่ทัน....

ต่อๆๆ

รูปแถมครับ... มีแอสต้าด้วยแฮะ... ของบ้านไหนไม่รู้.... สงสัยบ้านที่ติดกับแป๊ะตือแน่ๆเลย...

[kamolwat_t]

ออ แนะนำ เรื่องการท่องเที่ยวบ้างครับ...

ที่ตลาดน้ำจะมีเรือวิ่งชมสวนผลไม้ ชมรังกล้วยไม้(เป็นดัจฉนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์เลยนะครับ) ชมชีวิตริมคลองครับ ผมยังไม่เคยเที่ยวเลย..

ว่าแล้ว.. เสาร์นี้ ไปดีกว่า... บ่ายๆไปกินข้าวที่ตลาด+ลงเรือเที่ยว เย็นๆ เดินเล่นดูบ้านต้น (ไปกลับ 1 กม) แล้วค่ำๆก็ กินเหล้าที่ร้านแป๊ะตือครับ... อิอิ ติดๆรถกันไปนะ จะได้ไม่ต้องเอาไปหลายคัน เผื่อกินเหล้าด้วย... ต้นไปกับจี๊ดดีกว่า จะกินเหล้่า... อิอิ  

คลองชักพระ จะมีงานประจำปีครับ เป็นการชักพระทางน้ำ เกิดมายังไม่เคยดูเลยฮะ.... มัวแต่เล่นอยู่ในบ้าน... ว่าจะแวะไปดูก่อนที่จะไม่มี...

รายละเอียด http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0

มีก๋วยเตี๋ยวที่ยังไม่เคยกินด้วย เจ็กสูง

http://www.pantown.com/board.php?id=16359&area=3&name=board2&topic=11&action=view

ของกินอาหย่อยมีเยอะ..ครับ... ไล่มาจากปากทางบางขุนนนท์

มาข้างๆหอนักศึกษาของศิริราษ มีร้านก๋วยเตี๋ยว ตัง(ร้านเพื่อนสมัยอนุบาลของต้นฮะ จำชื่อร้านจริงไมไ่ด้ เรียกแต่ชื่อลูก)

ข้างวัดเจ้าอาม เลยมาเจอโกดังโค้ก(ที่บอกไปข้างต้น) แล้วมีข้างซอยขุมทรัพย์ซ้ายมือ มีร้านโจ๊ก (น้องของร้านที่ผมบอกว่าขายในคลอง)

เลยมาอีกหน่อย สะพานชักพระ ตีนสะพานฝั่ง ซ้ายมีร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำอาหร่อยมาก(บ้านผมเรียกหมวย เพราะว่าเป็นเพื่อพ่อครับไม่รู้ชื่อร้านจริงๆอีกแล้ว)

ข้ามสะพานมา...เจอ 3 แยกตลาดโต้รุ่ง...ถ้าตรงไปออกวัดไก่เตี้ย.. ตรงไปขวามือจะมีร้านกาแฟชื่อ แกลอรี่คอฟฟี่ ซ้ายมือมีร้านก๋วยเตี๋ยว ทำมาตั้งแต่รุ่น พ่อของพ่อครับ... เวลาพ่อผมไปรู้จักกันหมดเลย...

กลับมาที่ 3 แยก ถ้าเลี้ยวซ้าย...จะมาทางตลาดน้ำครับ... ขับจาก 3 แยกมาขวามือจะมีร้านหมอฟัน ในร้านหมอฟันจะมีร้านซาลาเปาของลุงผมเอง(พ่อพี่หมอ) อาหย่อยเช่นกัน อิิอิ

จากนั้นไปไม่ค่อยรุ้แล้วครับ.. เกินระยะทำการ...

ในซอยย่อยแถวนั้นมีเส้นทางขี่จักรยานมากมายครับ ลัดตัดผ่านสวนผลไม้ เยอะแยะ... หลังๆเห้นว่ามีขี่ผ่านคลองผมเยอะขึ้น...แฮะๆๆๆ

นึกม่ะออกล่ะ ภาคต่อไป..เข้าไปบุกบ้าน...ครับ... เย้ๆ 

[ป๊ะเปิ้น]

ู^^ *~


 

[chanat]

นายต้นๆ เห็นรูปแนวๆนี้แล้ว ทำให้นึกถึง บ้านเก่าที่ปากเกร็ดมากมายครับ มีบรรยากาศ คล้ายๆแบบนี้เลย สมัยนั้น เกาะเกร็ด ยังไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเหมือนปัจจุบัน แล้วก้ยัง ไม่มีสะพานพระรามสี่ มาบดบังทัศนียภาพ และทำให้ย่านตลาดเก่าเปลี่ยนไป   

[PeeSard]

ถ้าพูดถึงเกาะเกร็ด ตอนนี้คงว่ายลัดคลองตรงวัดฉิมพีไม่ได้แล้ว คงเหนื่อยโครตๆ

[Nu_Paiy]

วันเสาร์นี้ทำงานอ่ะ
 

[มะนาวเปรี้ยวปี๊ด]

ยาวจัง . . . จะค่อยๆอ่านดูบรรทัดเว้นบรรทัดนะ . . ว่าแต่คลองเนี่ย ใช่ที่เธอลงไปแหวกว่ายยยยรึป่าว 

(ติดตามภาคต่ออยู่)

[kamolwat_t]

ยาวจัง . . . จะค่อยๆอ่านดูบรรทัดเว้นบรรทัดนะ . . ว่าแต่คลองเนี่ย ใช่ที่เธอลงไปแหวกว่ายยยยรึป่าว 

(ติดตามภาคต่ออยู่)

ช่าย..ฮะ... สมัยเด็กๆ ยังมี ปู... มีปลาตีน(ตัววัดคุณภาพน้ำ) และ หนอนน้ำ(ตัววัดคุณภาพน้ำ) ปลาเข็มยักษ์ ตัวยาวสักคืบได้ อยู่เลย... อิอิ 

[ยัยแมวอ้วน]

มาดู ๆ ๆ ๆ มาชม ๆ ๆ ๆ

ยังคงสงสัยเรื่องคลอง   มานช่ายคลองที่ไว้ดูสาวฝั่งตรงข้าม  เหมือนหนังไทยสมัยก่อนมั้ยอ่า....อิอิ

(แซวเล่นคร้า....รอดูภาคต่อ)

 

[kamolwat_t]

มาดู ๆ ๆ ๆ มาชม ๆ ๆ ๆ

ยังคงสงสัยเรื่องคลอง   มานช่ายคลองที่ไว้ดูสาวฝั่งตรงข้าม  เหมือนหนังไทยสมัยก่อนมั้ยอ่า....อิอิ

(แซวเล่นคร้า....รอดูภาคต่อ)

 

สร้างงานนิ.... อิอิอิ

ตอนเด็กๆไม่สนใจเรื่องสาวๆเลย... เล่นโดดน้ำคลอง โดดท้องร่องไปวันๆ ดีดลูกแก้ว มังกรพ่นไฟ... ปีนต้นไม้ ไม่ก็ เล่นหุ่นอยู่ในห้องคนเดียว.. ออมีเป่าดินน้ำมันด้วย... 

[ช่อบุญ]

 :-*นายต้น นายน่ะเริ่มจะแก่แล้วนะ เพราะอารัยรู้ป่าว คนแก่ๆ น่ะ ชอบเล่าเรื่องเก่าๆ ไง แต่เค๊า ไม่ชอบเล่าเรื่องเก่าๆก็หมายฟามว่า เค๊ายังม่ายแก่ จิงแมะ :-*

[ยัยแมวอ้วน]

:-*นายต้น นายน่ะเริ่มจะแก่แล้วนะ เพราะอารัยรู้ป่าว คนแก่ๆ น่ะ ชอบเล่าเรื่องเก่าๆ ไง แต่เค๊า ไม่ชอบเล่าเรื่องเก่าๆก็หมายฟามว่า เค๊ายังม่ายแก่ จิงแมะ :-*

อิอิ

ถูกกกกกกกก...คะพี่ช่อ

 

[kamolwat_t]

:-*นายต้น นายน่ะเริ่มจะแก่แล้วนะ เพราะอารัยรู้ป่าว คนแก่ๆ น่ะ ชอบเล่าเรื่องเก่าๆ ไง แต่เค๊า ไม่ชอบเล่าเรื่องเก่าๆก็หมายฟามว่า เค๊ายังม่ายแก่ จิงแมะ :-*

อิอิ

ถูกกกกกกกก...คะพี่ช่อ

 

ง่ะ... มันแปลว่าความจำดีตะหาก...

เรื่องบางเรื่องปล่อยไว้มันหายไปพร้อมคนฮะ... นี่ยังมีตั้งหลายอย่าง..ที่ผมถามปู่ไม่ทัน...