ลองอ่านเว็บรถผมในอนาคตดูคับ
http://www.siamsubaru.com/board/index.php?topic=41311.0ยกของเค้ามาให้อ่านนนะครับ
http://www.siamsubaru.com/board/index.php?topic=6880.0ข้อแนะนำในการขับ
1. SAFETY FIRST
1.1 ตัวรถ
เช็คให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ตรวจเช็คสภาพรถโดยทั่วๆไป ระดับน้ำในหม้อน้ำ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค สภาพสายพาน สายเบรค จุดยึดต่างๆลองโยกดูว่ามีหลวมหรือหลุดหรือไม่ เช็คสภาพยาง ลมยาง (ควรเติมประมาณ 36 ปอนด์) เช็คว่า safety belt ยังงานได้ดีหรือเปล่า ที่สำคัญคือว่าให้เอาสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากรถให้หมดก่อนออกจากบ้านนะครับ อย่าให้มีสิ่งของที่กลิ้งได้อยู่ในรถหรือท้ายรถแม้แต่อย่างเดียวนะครับอย่าคิดว่าจะเอาออกที่สนามนะครับเพราะว่าเอามากองๆกันที่สนามโอกาสหายสูง ดังนั้นเอาออกให้หมดก่อนออกจากบ้านนะครับ ก่อนเข้าสนามแนะนำให้เติมน้ำมันให้เต็มถังครับเพราะว่าเราอยู่ทั้งวันเดี๋ยวต้องออกไปเติมบ่อยๆ ปั๊มน้ำมันก็ไกล
1.2 ผู้ขับ
เตรียมร่างกายให้พร้อมโดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ห้ามดื่มของมึนเมา ควรแต่งการด้วยชุดสบายๆ เตรียมผ้าขนหนูมาซักผืนเอาไว้เช็ดหน้าซักผืน รองเท้าควรเป็นผ้าใบหุ้มข้อ ห้ามส้นสูงหรือรองเท้าแตะ หากสวมหมวกกันน็อคได้จะดีมาก
1.3 สภาพสนาม
ในการขับสามรอบแรกควรใช้ความเร็วต่ำเพื่อสำรวจสภาพสนามเสียก่อนว่ามีอุปสรรคอะไรบ้าง โค้งไหนที่อันตราย พื้นสนามเป็นอย่างไร มีน้ำหรือดินอยู่บนสนามหรือไม่
2. ศึกษาสนามและ line การขับ
ก่อนจะมาซ้อมควรศึกษา line มาล่วงหน้าเพื่อเป็นการประหยัดเวลา
3. กฎ กติกา มารยาท
3.1 การลงไปขับในสนามต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ทั้งผู้ขับและผู้นั่ง
3.2 ต้องขับตาม line ที่กำหนดให้เท่านั้น ห้ามสวนทางโดยเด็ดขาด
3.3 ต้องเข้าออก pit ตามจุดที่กำหนดให้เท่านั้น ห้ามใช้ความเร็วใน pit lane โดยเด็ดขาด
3.4 ถ้ารถเกิดมีปัญหาให้จอดข้างทางโดยล้อทั้งสี่ต้องอยู่นอกเลนวิ่ง แล้วเปิดไฟฉุกเฉิน
3.5 การแซง คันหน้าที่ช้ากว่าควรจะให้คันหลังที่เร็วกว่าแซง โดยจะทำได้ต่อเมื่อคันข้างหน้าทำสัญญาณให้แซง โดยการเปิดไฟเลี้ยวและขับชลอชิดข้าง แล้วเท่านั้น ผู้ที่ปล่อยให้แซงควรลดความเร็วลงเล็กน้อยแต่ไม่ควรเหยียบเบรคกระทันหันและไม่ควรเปลี่ยนไลน์การวิ่ง ให้อยู่ในไลน์ที่วิ่งอยู่เพราะคันหลังอาจสับสนจนเกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าอยู่ในโค้งให้รอจนถึงทางตรงแล้วถึงปล่อยให้แซง
3.6 ถ้าเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน คันที่อยู่ด้านหลังผิดทุกกรณี ผู้ที่ผิดต้องชดใช้ค่าเสียหายเต็มจำนวนโดนไม่มีข้อแม้ใดๆ แม้ว่าคันหน้าจะหมุนก็ตาม ดังนั้นจึงไม่ควรขับจี้คันหน้าใกล้เกินไป
3.7 ให้สังเกตุสัญญาณธง หากมีธงแดงให้ชลอและเข้า pit หามีธงเหลืองให้ขับช้าลงในบริเวณนั้นๆ
3.8 ใครชนไพล่อนปรับไพล่อนละ 100 บาท เงินที่ได้นำไปทำบุญ
4. ข้อควรปฏิบัติก่อนลงทำการขับ
4.1 ปรับตำแหน่งเบาะนั่งให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ขาต้องไม่เหยียดตึงเมื่อเหยียบแป้นต่างๆจนสุด แขนต้องไม่เหยียดตรงเมื่อทำการเลี้ยวเพราะจะเป็นการโหนพวงมาลัยทำให้บังคับได้ไม่ดีและไม่ปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุ
5. ข้อควรสังเกตุระหว่างขับ
ควรมองเกจ์ต่างๆบนหน้าปัดว่ามีสิ่งใดผิดปรกติดอยู่เสมอๆเช่นเข็มความร้อน ไฟเตือน engine check และคอยฟังเสียง สังเกตุอาการต่างๆที่ผิดปรกติ ถ้ามีสิ่งปรกติเกิดขึ้นให้ลดความเร็วและนำรถเข้า pit อย่าฝืน หากมีน้ำมันเครื่องรั่วไหลให้รีบนำรถเข้าข้างทางทันทีและดับเครื่อง ห้ามฝืนขับต่อเนื่องจากจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่น
5. ในกรณีที่รถเกิดหมุน
ถ้าเกิดรถควบคุมไม่อยู่แล้วรถหมุนให้เหยียบเบรคค้างไว้เลยจนกว่ารถจะหยุดนิ่งจริงๆนะครับ ช่วงก่อนหยุดมักจะชอบปล่อยเบรคให้รถมันเลี้อยเล่น ยิ่งถอยหลังยิ่งไม่ยอมเบรค ถ้าช่วงที่เอาไม่อยู่จริงๆแล้วไม่ต้องไป countersteer ให้เสียเวลานะครับ ทำล้อตรงๆแล้วเบรคให้สุดไปเลย
4. การขับอย่างถูกวิธี
4.1 การจับพวงมาลัย
ห้ามโหนพวงมาลัยหรือหงายสอดมือสาวพวงมาลัย เวลาคืนพวงมาลัยให้ใช้มือส่งอย่าปล่อยแล้วจับ
เทคนิคการจับพวงมาลัยมีสองแบบคือ
4.1.1 Crosshand การ จับไม่ปล่อย ปล่อยเมื่อมันไขว้กัน
4.1.2 Push and pull การ ปล่อยจับ ตามๆกัน ไม่มีไขว้แขน
4.2 การเบรค
โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้ประสิทธิภาพของรถจาก 100% ในด้านต่างๆดังต่อไปนี้
เครื่องยนต์ 70-100%
ช่วงล่าง 50-70%
เบรก 30-50%
การเบรคที่ดีนั้น ไม่เพียงแต่ได้ระยะสั้นที่สุด แต่ต้องควบคุมทิศทางขณะเบรคได้ด้วย
การเบรคที่ดีคือการเบรคที่รุนแรงแต่อยู่ในลิมิตของยางและช่วงล่าง
reaction ในขณะที่ยกเท้าจากคันเร่งมากดเบรคก็ทำให้ระยะเบรคต่างกันได้เยอะ
4.3 การเข้าโค้ง
การเข้าโค้งนั้นควรจะศึกษา line และความเร็วที่รถของเราสามารถเข้าโค้งได้ เริ่มต้นควรจะเบรคในทางตรงและถ้าต้องมีการลดเกียร์ควรทำให้เรียบร้อยก่อนจะเริ่มเลี้ยว
การใช้ eye technics ควรจะกำหนดจุดมองให้ห่างจากหน้ารถไปยังเส้นทางที่จะไปเท่าที่จะทำได้ มองจุดเบรคจุดเลี้ยวล่วงหน้า เมื่อถึงจุดเบรคให้มองจุด apex ไว้เลย เมื่อเลี้ยวเข้าใกล้จุด apex ให้มองไปยังจุดทางออกโดยใช้หางตามองว่าเข้า apex ถูกต้องไหม
การทำ downshift เพื่อทำ engine break จะเป็นการใช้แรงเครื่องช่วยฉุดให้เบรคได้สั้นขึ้น แต่ข้อควรระวังคือรถอาจเกิดอาการล้อล็อคได้ทำให้ควบคุมทิศทางไม่ได้ ยิ่งถ้าถนนลื่นหรือฝนตกต้องระวังให้มาก การใช้ควรดูรอบเครื่องที่เหมาะสมว่าตอนเบรคแล้วรอบที่เท่าไหร่ถึงควรจะ downshift เกียร์ลง
สังเกตุจากอาการของรถว่าไม่มีการล็อคของล้อ เวลาปล่อยครัชต์ควรผ่อนช่วยไม่ให้ล้อล็อคด้วย
- ในขณะที่เลี้ยวห้ามเหยียบครัชต์ค้างไว้
- ควรมีการเดินคันเร่งเพื่อกระจายน้ำหนักของรถและเพิ่มแรงยึดเกาะถนน
- การออกจากโค้งไม่ควรกระทืบคันเร่งอย่างรุนแรง ควรจะค่อยๆเร่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
การหักพวงมาลัยควรจะหักให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น ใช้พื้นที่ของสนามให้เต็มที่ ใช้ eye technic ดูจุดเบรค จุดเลี้ยว จุดที่ออกจากโค้งเพื่อให้ใช้สนามได้เต็มที่
อาการ Understeer และ Oversteer
ถ้ารถมีอาการ over หรือ understeer นั้นแปลว่าเราเข้าโค้งด้วยความเร็วที่มากเกิน หรือมุมเลี้ยวแคบเกินกว่าที่ช่วงล่างและยางจะรับได้ การขับที่ดีนั้นคือจุดที่รถเกือบจะออกอาการข้างต้น (คุมได้เต็มที่)
ถามว่ารู้ได้อย่างไรให้ฟังอย่างเสียงของยาง อาการของรถโดยใช้ความรู้สึกจากพวงมาลัยและสะโพก ถ้ามีอาการoversteer ให้หักพวงมาลัยไปทางตรงข้ามแล้วเดินคันเร่งเบาๆพร้อมเลี้ยงพวงมาลัย แต่ถ้า under ให้หักพวงมาลัยเพิ่มถ้าไม่อยู่ให้เบรคเบาๆ แต่ถ้าคิดว่าเอาไม่อยู่แล้วให้เหยียบเบรคจนกว่ารถจะหยุดนิ่งสนิทโดยทำพวงมาลัยให้ตรง
เครดิต - คุณ OKUMI จาก สยามซูบารุครับ
แถมๆๆ อุธาหรณ์ สอนจิต ประสพการณ์ ที่เค้าเอามาแชร์ครับ
http://www.siamsubaru.com/board/index.php?topic=41887.0ต้องมี STI = สติ