หากใครขับรถไปต่างจังหวัดบ่อยๆ คงเคยเห็นสัญญาณไฟจากรถบรรทุกที่วิ่งสวนมา หรือจากรถคันที่นำหน้าเราอยู่ วันนี้ Lisa ชวนมารู้ความหมายและการดูสัญญาณไฟแบบเข้าใจง่าย โดยแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ
รถที่ขับตามกันอยู่และรถที่ขับสวนกัน #
เปิดไฟเลี้ยวสลับซ้ายทีขวาที หมายความว่า ให้ระวังอาจจะเบรกหรือข้างหน้ามีด่าน มีอุบัติเหตุ หรือข้างหน้าเบรกกะทักหัน อย่าเพิ่งแซงขึ้นไปในตอนนี้
#
เปิดไฟผ่าหมาก ถ้าใกล้แยกหมายถึงเค้าจะตรงไป หรืออีกนัยหนึ่งแสดงว่าเค้ากำลังจะหยุดรถแล้วนะ ให้ระวังไว้
#
เปิดซ้ายอย่างเดียว ถ้ากรณีนี้รถวิ่งตามกันอยู่ในทางและเค้าไม่ได้เข้าจอด หมายความว่าเค้ายินดีให้เราแซงขึ้นไปได้
#
เปิดขวา อาจเปิดค้างหรือเปิดเป็นจังหวะ ถ้ารถวิ่งตามกันอยู่แสดงว่าเค้าไม่ให้เราแซงหรือเค้าอาจกำลังจะแซงรถคันหน้า ถ้าเป็นเลนสวน หมายถึง กำลังมีรถสวนมาห้ามแซงเด็ดขาด ให้รอจนกว่าเค้าจะแซงผ่านไป
#
กรณีขับรถตามกัน หากเราแซงขึ้นไปจนพ้น รถคันหน้าจะทำสองอย่างคือ ในจังหวะที่รถเรากำลังตีคู่กันเค้าจะเปิดไฟสูงให้เราเห็นทางข้างหน้า และลดไฟลงต่ำเมื่อเราแซงพ้น หรือบางคันอาจปิดไฟหน้า หากเป็นตอนกลางคืน หมายความว่า เราแซงพ้นแล้ว ให้เข้ามาในเลนได้ แต่ถ้าเป็นกลางวันเค้าจะกะพริบไฟหนึ่งที หรืออีกอย่างเค้าอาจบีบแตรเบาๆ เป็นสัญญาณให้หนึ่งทีก็ได้ เราควรบีบแตรสั้นๆ หนึ่งครั้ง เพื่อเป็นการขอบคุณและอาจจะได้ยินเค้าบีบตอบสั้นๆ หนึ่งครั้งเช่นกัน
#
ขับสวนกันแล้วดับไฟหน้าแล้วเปิด ส่วนใหญ่จะมีด่านหรืออีกกรณีจะมีอุบัติเหตุร้ายแรงข้างหน้า ให้ระวังไว้
#
ตอนกลางคืนถ้าเป็นเลนสวนกันขับสวนมาดีๆ แล้วกะพริบไฟหน้าครั้งเดียว บางทีเป็นแค่การทักทาย หรือเช็กว่าเราหลับในรึเปล่า หรือถามทางที่เราผ่านมามีด่านมั้ย ถ้าเราไม่หลับ ไม่เคลิ้ม และทางสะดวกให้กะพริบไฟตอบกลับไปหนึ่งที
#
ถเลนสวนกัน หากมีคันที่ 2 หรือคันต่อๆ ไปในแถวที่สวนมากะพริบไฟหรือเบ้หัวออกมานิดหนึ่ง แสดงว่ารถคันแรกในขบวนช้าเค้ากำลังจะแซงออกมา ควรชะลอความเร็วและเบี่ยงออกไหล่ทางหลบไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย