ได้มานานแล้วค่ะ อ่านแล้วชอบมากๆๆๆ น่ารักดี
:-* :-* :-*
=========================================================
' โรคหัวใจ ' ทำให้ประเทศชาติ สูญเสียทรัพยากรน้ำ (ตา) ในแต่ละปีเป็ นจำนวนมาก ' โรคหัวใจ ' เป็นบ่อเกิดของความแตกแยก หย่าร้าง ไปจนถึงการทำร้ายร่างกาย การรักษาโรคตามอาการไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทางดีที่สุดคือการป้องกันหัวใจไม่ให้เป็นโรค
ขณะที่โรคหัวใจวายอาจเป็นสาเหตุของความตายอันดับต้นๆ อาการ ' หัวใจ Y' กลับทำให้สดชื่นแจ่มใส หัวใจ Y (Y = Young) คือหัวใจที่เป็นหนุ่มสาวเสมอ ไม่รู้เหนื่อย ไม่รู้แก่
ต่อไปนี้คือเทคนิครักษาสภาพหัวใจของคนที่รักกัน เคยรักกัน และ/หรืออยากรักกันมากขึ้น ( สามารถเลือกใช้ได้มากกว่าหนึ่งวิธี) :
1 เทคนิคใช้ความอุ่น ( Heart Warming)
เป็นเทคนิคโบราณ เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ยังไม่ล้าสมัย เทคนิคนี้ เน้นการให้ความอบอุ่นกับคนรักอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เช ่น ก่อนแต่งงานเคยมอบกุหลาบแดงแก่คนรัก หลังแต่งงานแล้วห้าปีสิบปี ก็ยังมอบให้ตลอดเรื่อยๆ (ไม่มีข้ออ้างราคาดอกไม้สูงขึ้นกี่เปอร์เซนต์) ก่อนแต่งงานไปรับ= ส่งแฟน หลังแต่งงานก็ยังไปรับส่ง (ไม่มีข้ออ้างเรื่องไม่ว่าง) เทคนิคนี้เป็นหลักสำคัญของการถือไม้เท้ายอดทอง ถือกระบองยอดเพชร
2 เทคนิคเปลี่ยนหัวใจ (Heart Transplant)
การเปลี่ยนหัวใจนี้ทำได้ง่ายมาก นั่นคือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ทำในสิ่งที่เรารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ชอบ ถ้าทั้งสองฝ่ายรู้จักคิดถึงหัวอกกันและกันสม่ำเสมอ จะไม่มีความบาดหมางใดๆ มากวนใจ
อนึ่ง อัตราการป้องกันโรคหัวใจด้วยเทคนิคนี้สูงถึง 99.25 เปอร์เซนต์
3 เทคนิคการทำบายพาส ( Bypass Surgery)
ในกรณีที่ท่านประสบอุปสรรคในชีวิตคู่ ให้ปล่อยเรื่องไม่ดีผ่าน (Bypass) ออกไปเสีย อย่านำเรื่องไม่ดีเข้าบ้าน ไม่เอาเรื่องไม่ดีของคนรักไปโพนทะนา เทคนิคนี้รวมถึงการไม่นินทาชาวบ้าน
อัตราการป้องกันโรคหัวใจด้วยเทคนิคนี้สูงถึง 98.5 เปอร์เซนต์
4 เทคนิคการทำบอลลูน ( Heart Balloon)
ชีวิตเราต้องเจอเรื่องไม่ดีแทบทุกวัน เทคนิคนี้สอนให้เรารู้จักปล่อยวาง สิ่งร้ายๆ ที่เกิดขึ้นแล้วก็แก้ปัญหาเสีย เรียนรู้จากประสบการณ์ แต่ไม่เก็บไว้ในใจข้ามปีข้ามชาติ รู้จักลอยตัวให้เบาสบายเหมือนลูกบอลลูน
5 เพิ่มระดับความหวาน ( Heart Glucose)
แปลกแต่จริง ความหวานไม่มีผลเสียต่อหัวใจเหมือนต่ออวัยวะส่วนอื่นๆ จงเติมความหวานเข้าไปในหัวใจให้สูงเข้าไว้ เอ่ยคำว่า ' รัก ' ต่อคนรักบ่อยเท่าที่ต้องการ ( อย่างน้อยวันละครั้งก่อนหรือหลังอาหาร หรือก่อนนอน)
เชื่อเถิด กระทรวงสาธารณสุขทั่วโลกรับรองมาแล้วว่าเทคนิคนี้ไม่มีอันตรายอย่างแน่นอน
6 นวดหัวใจด้วยการสัมผัส ( Touching)
การสบตากัน การแตะมือเบาๆ การกอดกัน ช่วยทำให้ หัวใจมีคุณภาพดีมาก จากการทดสอบคู่สมรส 14,216 คู่ จากเจ็ดทวีป พบว่าการสัมผัสเบาๆ แต่อบอุ่นทำให้หัวใจวาบหวามดื่มด่ำ ช่วยให้ร่างกายเพิ่มสารเอนโดรฟิน สบายกายสบายใจขึ้นมาก
7 ลดระดับคาร์บอนไดออกไซด์แก่หัวใจ
ไม่ใช้คำหยาบ ไม่กระฟัดกระเฟียด ไม่แดกดัน ไม่ตีวัวกระทบคราด ไม่พูดเรื่องไม่เป็นมงคล มองโลกในแง่ดี จะทำให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะดี
8 เพิ่มออกซิเจนเข้าหัวใจ
หัวใจต้องการสารอาหารที่สะอาดและมีประโยชน์ ออกซิเจนก็คือ ลมปากหวานหู รู้จักง้อบ้าง
เทคนิคนี้ช่วยป้องกันลิ้นหัวใจรั่ว
9 การช็อคหัวใจ ( Shock Technique)
บางครั้งช็อคหัวใจของอีกฝ่าย ที่เรียกว่า ' เซอร์ไพรส์ ' เช่น พาไปกินอาหารนอกบ้านในที่แปลกๆ พาไปฟังดนตรี ตลอดจนทำกิจกรรมที่ไม่จำเจร่วมกัน
10 การกระตุ้นหัวใจด้วยเสียง ( Sound Therapy)
โทรศัพท์หาคนรักบ้าง ( แม้ไม่ถี่เท่าก่อนแต่งงาน) เพิ่มการใช้เสียงกระซิบ ลดการเสียงกระชาก
นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แจ้งแล้วว่า การลดระดับเสียงลงเพียงไม่กี่เดซิเบลต่อวัน ช่วยทำให้ชีวิตคู่ดีขึ้นมาก
11 เทคนิคแยกหัวใจ ( Absence Technique)
แยกทางกันบ้าง การไม่เจอหน้ากันตามสมควรทำให้คิดถึงกันมากขึ้น (ที่ฝรั่งว่า Absence makes the hearts grow fonder.) เทคนิคนี้พิสูจน์แล้วว่าทำให้หัวใจโหยหากันและกันอย่างเห็นได้ชัด
12 เทคนิควางใจ ( Trust)
ลดความระแวง ไม่ต้องตามเช็กว่าไปไหน ไม่ต้องแอบตรวจเสื้ออีกฝ่ายว่ามีซากลิปสติกไหม ไม่ต้องจ้างนักสืบ ฯลฯ วิธีนี้ป้องกันโรคหัวใจรั่วชะงัด
13 เทคนิคบ่มหัวใจ ( Aging Process)
ไม่เฉพาะแต่ไวน์ที่บ่มยิ่งนานยิ่งดี หัวใจก็เช่นกัน คนรักกันไม่ควรชิงสุกก่อนห่าม ไม่ควรผลีผลาม เพราะความรู้สึกที่เราเชื่อว่าเป็นรักอาจเป็นเพียงความหลงใหลชั่วคราว
นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า เทคนิคนี้ช่วยเพิ่มสารเคมีที่เรียกว่า Romantica Substance ในหัวใจสูงถึง 81.25 เปอร์เซนต์ (สูตรเคมีคือ R2L2 R = Romantic L = Love)
14 เพิ่มไขมันที่ดี ( HDL) ให้หัวใจ
ไขมันชนิดดี ( HDL) จะสร้างความอบอุ่น ป้องกันเรื่องไม่ดีที่มากระทบ ไม่ให้ทำอันตรายต่อหัวใจได้
HDL (= High Density Love) มาจากการออกกำลังกาย ทำให้หัวใจแข็งแรง พร้อมรับมือเรื่องแย่ๆ ได้ทุกเมื่อ
15 ลดคอเลสเตอรอลที่หัวใจ
คอเลสเตอรอลที่เกาะหัวใจเกิดมาจากการเสพสิ่งไม่ดีมากเกินไป ทำให้เส้นเลือดหัวใจอุดตัน การใช้จ่ายเกินกำลัง การหลงระเริงไปกับบริโภคนิยม ฯลฯ
การเสพอย่างพอเพียงเท่ากับช่วยเก็บหอมรอมริบ ช่วยกันประหยัด เพื่ออนาคตของตนเองและครอบครัว
เทคนิคต่างๆ เหล่านี้ต้องทำต่อเนื่อง วันละเล็กวันละน้อย กว่าจะบรรลุขั้น ' หัวใจ Y' อาจจะยาก แต่เพื่อคนที่เรารัก มันคุ้มที่จะเริ ่มต้นทำมิใช่หรือ ?