ปาหิน ลามกรุงเทพฯ ถล่มกระจกรถเมล์! (ข่าวสด) ปา หินโผล่กลางกรุง รถเมล์สาย 52 ตกเป็นเหยื่อ โชคดีผู้โดยสารไม่เป็นอะไร โชเฟอร์เผยขับรถออกจากอู่ปากเกร็ด ก่อนจะเข้าทางเบี่ยงถนนวิภาวดีฯ เห็นคนร้ายก้มๆ เงยๆ อยู่ริมถนน หันไปมองกระจกหลังเห็นกำลังเงื้อมือปาของใส่รถ ตะโกนลั่นบอกผู้โดยสารให้ระวัง ไม่ทันขาดคำได้ยินเสียงกระจกแตกดังสนั่น ดีจุดเกิดเหตุไม่มีผู้โดยสารนั่ง เผยคนร้ายเป็นพวกวิกลจริต
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 26 สิงหาคม พ.ต.ท.วีระ งามเลิศ พนักงานสอบสวน สบ.2 สน.พหล โยธิน รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุบก.น.2 ว่า คนร้ายใช้หินปาใส่รถโดยสารประจำทาง บริเวณริมถนนวิภาวดี ช่องคู่ขนาน ก่อนถึงทางเบี่ยงรัชวิภา แขวงและเขตจตุจักร กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมพ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส. พ.ต.ต.จีระชัย อยู่คง สวป. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุพบรถประจำทางร่วมบริการ สีขาว-น้ำเงิน สาย 52 วิ่งระหว่างปากเกร็ด-บางซื่อ บริษัทสหายยนต์ จำกัด เลขข้างรถ 52-25 ทะเบียน 12-5617 กทม.จอดอยู่ริมทาง สภาพรถพบบริเวณกระจกบนด้านซ้ายบานที่ 8 แตกละเอียด เศษกระจกแตกละเอียดอยู่ในรถ โดยมีนายสบาย นามนาค อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.6 ต.โนนตาล อ.เมืองร้อยเอ็ด คนขับรถ พร้อม น.ส.สาระดา มาสกุล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.4 ต.ปากท่า อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา กระเป๋ารถเมล์ ยืนถือหินรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายสบาย ให้การว่า ขับรถออกมาจากอู่ปากเกร็ด เวลา 15.00 น. และขับรถส่งผู้โดยสารมาตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงถนนวิภาวดีฯ ขาเข้า ช่องคู่ขนานซึ่งขณะนั้นมีผู้โดยสารนั่งอยู่บนรถประมาณ 20 คน เมื่อขับเลยสน.วิภาวดี ก่อนจะถึงทางเบี่ยงเข้าถนนรัชวิภา สังเกตเห็นชายสวมเสื้อยืดสีขาว ลายขวางสีเทา กางเกงขาสั้นสีแดง สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ผมสั้น ผิวสีดำแดง แต่งตัวมอมแมม ไม่สวมรองเท้า ทำท่าทางแบบก้มๆ เงยๆ คล้ายคนหยิบของที่พื้น
" พอรถแล่นผ่านคนร้ายไปเล็กน้อย สังเกตเห็นกระจกข้างรถ พบว่าคนร้ายกำลังเงื้อมือปาหินใส่รถ ด้วยความตกใจจึงร้องตะโกนบอกผู้โดยสารให้ระวัง สิ้นเสียงร้องก็ได้ยินเสียงหินกระทบกระจกรถเสียงดังสนั่น ผมจึงรีบจอดรถเข้าข้างทาง และเข้าดูแลผู้โดยสาร โชคดีที่หินของคนร้ายไม่กระเด็นเข้ามาในรถ และฝั่งที่คนร้ายปาหินใส่นั้นไม่มีผู้โดยสารนั่งอยู่เลย หลังตั้งสติได้ก็วิ่งลงมาดูด้านล่างพบเพียงหินที่คนร้ายใช้ปาใส่รถเท่านั้น แต่คนร้ายวิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยริมถนนวิภาวดีหายไปอย่างรวดเร็ว" นายสบาย กล่าว
พ.ต.ท.สุรจิต กล่าวว่า น่า จะเป็นคนวิกลจริต เนื่องจากการสอบถามจากโชเฟอร์เห็นรูปร่างลักษณะของคนร้าย สวมเสื้อแบบมอมแมม ไม่สวมรองเท้า และเห็นพฤติกรรมของคนร้ายทุกขั้นตอน แต่ไม่นึกว่าจะปาหินใส่รถ และไม่น่าที่จะเป็นแก๊งปาหินที่ระบาดอยู่ในตอนนี้ เพราะคนร้ายลงมือในช่วงเย็น ขณะมีรถวิ่งสัญจรผ่านไปมาจำนวนมาก และหลังได้รับแจ้งเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ทุกซอยในละแวก ที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามคนร้ายที่คาดว่าน่าจะหลบหนีอยู่ในละแวกถนนวิภาวดีฯ มาดำเนินคดีต่อไป
ปภ. แนะวิธีป้องกันอันตรายจากแก๊งปาหิน กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะผู้ขับขี่ที่เดินทางใน ช่วงกลางคืนบนถนน ที่มืด เปลี่ยวหรือบริเวณทางโค้ง ควรเปิดไฟสูงเป็นระยะ เพื่อจะได้มองเห็นกลุ่มคนที่เตรียมก่อเหตุปาหินริมข้างทาง หากสังเกตเห็นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยให้ชะลอความเร็วหรือเปลี่ยนช่องทางการ เดินรถ เพื่อลดแรงปะทะของก้อนหิน กรณีถูกปาหินใส่รถ ไม่ควรจอดรถบริเวณที่ เกิดเหตุหรือริมข้างทางในทันที ให้พยายามประคองรถไปจอดในบริเวณที่ ปลอดภัย เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า นอกจากผู้ขับขี่ต้องระมัด ระวัง ในการขับขี่แล้ว ยังต้องระแวดระวังอันตรายที่คาดไม่ถึงจากแก๊งปาหินที่สร้าง ความตื่นตระหนกให้กับผู้ขับขี่ในเวลากลางคืน และทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตไปแล้วหลายราย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัย ขอแนะวิธีป้องกันอันตรายจากแก๊งปาหิน
ดังนี้ ก่อนเกิดเหตุ ส่วนใหญ่เหตุการณ์รถถูกปาหินมักเกิดในช่วงเวลากลางคืน บริเวณถนนที่มืดและเปลี่ยว ผู้ขับขี่ควรเปิดไฟสูงเป็นระยะ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้มองเห็นสภาพเส้นทางรถจักรยานยนต์หรือกลุ่มคนที่เตรียม ก่อเหตุที่อยู่ริมข้างถนนอย่างชัดเจนแล้ว ยังทำให้สายตาของ ผู้ก่อเหตุพร่ามัวจนไม่สามารถลงมือได้ถนัด หากเห็นรถจักรยานยนต์ขี่สวนทางโดยไม่เปิดไฟหน้ารถ ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความ ระมัดระวัง โดยชะลอความเร็วลงและเปลี่ยนช่องทางให้ออกห่างจากรถคันดังกล่าว หากไม่สามารถเปลี่ยนช่องทางได้ควรเปิดสัญญาณไฟกระพริบ เพื่อเตือนให้รถคัน หลังทราบว่ากำลังชะลอความเร็วรถ และหากโดนปาหินจะช่วยลดแรงปะทะของก้อนหิน และความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ หลีกเลี่ยงการขับขี่รถด้วยความเร็วสูงในเส้นทางเปลี่ยวที่ไม่มีไฟริมข้างทาง หรือบริเวณทางโค้ง
หากจำเป็นต้องขับผ่าน ควรล๊อครถ หาเพื่อนร่วมทางนั่งรถไปด้วย เพื่อช่วยกันระแวดระวังอันตรายจากแก๊งปาหิน ตลอดจนขับรถตามหลังรถที่มีขนาดใหญ่หรือขับเกาะกลุ่มกับรถคันอื่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการถูกปาหินได้ ที่สำคัญ ควรเลือกใช้ฟิลม์กรองแสงด้านหน้ารถเป็นชนิดใส เพราะจะช่วยดูดซับแรงปะทะจาก ก้อนหินที่มากระทบกับกระจกรถได้ดีกว่าฟิลม์ทั่วไป พร้อมทั้งเลือกใช้กระจก นิรภัยแบบหลายชั้น เนื่องจากหากโดนปาหินกระจกจะไม่แตกออกในทันทีแต่จะมี ลักษณะเป็นรอยร้าวคล้ายใยแมงมุม จึงไม่เป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ภายในรถ
ขณะเกิดเหตุ หากถูกปาหินใส่กระจกรถจนกระจกแตก ผู้ขับขี่ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ตื่นตระหนกและไม่จอดรถในบริเวณที่เกิดเหตุหรือริมข้างทางอย่างเด็ดขาด ให้พยายามประคองรถไปจอดในบริเวณชุมชน สถานีบริการน้ำมัน จุดพักรถริมทางที่มีไฟส่องสว่าง เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป กรณีกระจกหน้ารถแตกทั้งบาน แรงลมอาจปะทะจนรถเสียการทรงตัว จึงควรปิดกระจก ด้านข้างทุกบาน หากกระจกด้านข้างแตกให้หมุนกระจกหน้าต่างลงทั้งบาน เพื่อลด แรงสั่นสะเทือนที่ทำให้กระจกแตกมากขึ้น
สุดท้ายนี้ ขอให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวัง มีสติ เรียนรู้วิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความสูญเสีย และความรุนแรงของอุบัติภัยต่างๆที่เกิดขึ้นบนท้องถนน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ข่าวสด
ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
kapook.com