กำลังจะเปลี่ยนระบบแก๊สจาก mixer เป็นหัวฉีดครับ

[teeracha]

  ผมมาเกริ่นไว้ครับว่าวันศุกร์นี้จะเปลี่ยนระบบ mixer เป็นหัวฉีด ใน Astra 1.6 16V ของผม

  ช่างหน่อง โคราชอีกแล้วครับที่จะติดตั้งปรับเปลี่ยนระบบให้

  เมื่อเสร็จแล้วจะมารายงานครับ มาดูฝีมือ ช่างหน่อง โคราช  เรื่องติดตั้งแก๊สดูบ้างครับ

[Omega VIP]

มาปูเสื่อรอชมนะครับ อ.หน่า  แล้วจะถอดฟิกมิก เก็บไว้ รึ ปล่อยขายครับ

[teeracha]

มาปูเสื่อรอชมนะครับ อ.หน่า  แล้วจะถอดฟิกมิก เก็บไว้ รึ ปล่อยขายครับ

  คงหาขายครับ  :มั้ง:แต่คงให้การติดตั้งเรียบร้อยก่อน

 :มั้ง:ซักครึ่งราคา จะได้ไหมน้อ ทั้งชุดอะครับ อายุการใช้งานมาแล้วประมาณ 1 ปี

มี lamda step motor ด้วยครับ

  ที่แรกชั่งใจอยู่ว่ายังจะไม่ทำ แต่มันทนกิเลสไม่ไหว เพราะในรถ jeep ก็ติดหัวฉีด
รู้ว่า astra ถ้าเป็นหัวฉีดแล้วจะเนียนขึ้นเยอะ 

[Omega VIP]

อ.หน่าครับ  รบกวนช่วยถ่ายรูปไว้ทุกขั้นตอนได้ไหมครับ  จะได้เอาไปลงใน FAQ อ่ะครับ  ผมว่าจะเขียนเรื่องการจูนแก๊สลงในนั้นเหมือนกันครับ

[teeracha]

  ช่วงนี้งานยุ่งครับ ไปเฝ้าดูตอนติดตั้งไม่ได้
  แต่จะลองให้ เบอร์ด ลูกน้องช่างหน่องถ่ายไว้ครับ

[NONGG2500]

มาปูเสื่อรอชมนะครับ อ.หน่า  แล้วจะถอดฟิกมิก เก็บไว้ รึ ปล่อยขายครับ

  คงหาขายครับ  :มั้ง:แต่คงให้การติดตั้งเรียบร้อยก่อน

 :มั้ง:ซักครึ่งราคา จะได้ไหมน้อ ทั้งชุดอะครับ อายุการใช้งานมาแล้วประมาณ 1 ปี

มี lamda step motor ด้วยครับ

  ที่แรกชั่งใจอยู่ว่ายังจะไม่ทำ แต่มันทนกิเลสไม่ไหว เพราะในรถ jeep ก็ติดหัวฉีด
รู้ว่า astra ถ้าเป็นหัวฉีดแล้วจะเนียนขึ้นเยอะ 

 

อาจารย์ครับถ้าไม่มีใครรับไปดูแลต่อก็เอาติดมือมาอุทัยก็ได้ครับ
 ผมจะเอามาติด คอร์ซ่า สีฟ้า แต่ เจ้าของรถ(เจ้านายผม)จะยอม
 ให้ติดหรือเปล่ายังไม่รู้ ซื้อเก็บไว้ติดตอนน้ำมันแพงๆ ก็ไม่เสียหลาย
 เรื่องที่อาจารย์จะพานักศึกษามาดูงาน ตกลงมาวันไหนครับ
 
 

[teeracha]

มาปูเสื่อรอชมนะครับ อ.หน่า  แล้วจะถอดฟิกมิก เก็บไว้ รึ ปล่อยขายครับ

  คงหาขายครับ  :มั้ง:แต่คงให้การติดตั้งเรียบร้อยก่อน

 :มั้ง:ซักครึ่งราคา จะได้ไหมน้อ ทั้งชุดอะครับ อายุการใช้งานมาแล้วประมาณ 1 ปี

มี lamda step motor ด้วยครับ

  ที่แรกชั่งใจอยู่ว่ายังจะไม่ทำ แต่มันทนกิเลสไม่ไหว เพราะในรถ jeep ก็ติดหัวฉีด
รู้ว่า astra ถ้าเป็นหัวฉีดแล้วจะเนียนขึ้นเยอะ 

 

อาจารย์ครับถ้าไม่มีใครรับไปดูแลต่อก็เอาติดมือมาอุทัยก็ได้ครับ
 ผมจะเอามาติด คอร์ซ่า สีฟ้า แต่ เจ้าของรถ(เจ้านายผม)จะยอม
 ให้ติดหรือเปล่ายังไม่รู้ ซื้อเก็บไว้ติดตอนน้ำมันแพงๆ ก็ไม่เสียหลาย
 เรื่องที่อาจารย์จะพานักศึกษามาดูงาน ตกลงมาวันไหนครับ
 
 

 :หึหึ:ไปอุทัยเสาร์หน้าครับ ที่ 26 ถ้ามีของเหลืออะไรจะติดรถไปด้วยครับ
 :หึหึ:แต่ตอนนี้ honda accord ของผมระบบแก๊สเริ่มมีปัญหาดับกลางอากาศ เมื่อเช้านี้เอง คงต้องแบ่งอะไหล่บางชิ้น
ไปให้ accord ด้วยครับ ดังนั้นระบบแก๊สในส่วนหน้าเครื่องอาจจะไม่ครบครับ

[NONGG2500]

 

 เหลือเท่าไหร่ก็ติดมือมาแล้วกันครับอาจารย์ เอามาไม่รู้ว่า ผบทบ.
 จะให้ติดหรือเปล่ายังไม่รู้เลยครับ ผมก็เกริ่นๆหลายทีแล้วครับ เขา
 บอกว่ากลัวบรึ้มส์ ตามประสาผู้หญิงนะครับอาจารย์ วัสดีครับ

 

[teeracha]

 เหลือเท่าไหร่ก็ติดมือมาแล้วกันครับอาจารย์ เอามาไม่รู้ว่า ผบทบ.
 จะให้ติดหรือเปล่ายังไม่รู้เลยครับ ผมก็เกริ่นๆหลายทีแล้วครับ เขา
 บอกว่ากลัวบรึ้มส์ ตามประสาผู้หญิงนะครับอาจารย์ วัสดีครับ

 

:)รับทราบครับ

[Korza]

จาร์ยครับ น่าทำHydrogenนะครับ Van ที่เหลือเยอะวางสบาย เป็นตำนานบทใหม่ของ Opel In   หรือHybird ก็มีที่วางแบตหลังรถ

[teeracha]

จาร์ยครับ น่าทำHydrogenนะครับ Van ที่เหลือเยอะวางสบาย เป็นตำนานบทใหม่ของ Opel In   หรือHybird ก็มีที่วางแบตหลังรถ

H2 ตอนนี้ยังไม่ work อะครับ

[jook_corsa]

จาร์ยครับ น่าทำHydrogenนะครับ Van ที่เหลือเยอะวางสบาย เป็นตำนานบทใหม่ของ Opel In   หรือHybird ก็มีที่วางแบตหลังรถ

H2 ตอนนี้ยังไม่ work อะครับ

อธิบายให้ฟังมั่งจิครับพี่หน่า......ผมงงๆ H2 ทำไมมันยังไม่ Work เห็นมี Ecar คันนึงแถวชลประทานติดว่ารถคันนี้ใช้น้ำ

[jeabjamiro]

พี่จุ๊ฟไปไหนเนี่ยมาช่วยดูหน่อยยครับบเหอะๆ

[kamolwat_t]

จาร์ยครับ น่าทำHydrogenนะครับ Van ที่เหลือเยอะวางสบาย เป็นตำนานบทใหม่ของ Opel In   หรือHybird ก็มีที่วางแบตหลังรถ

H2 ตอนนี้ยังไม่ work อะครับ

อธิบายให้ฟังมั่งจิครับพี่หน่า......ผมงงๆ H2 ทำไมมันยังไม่ Work เห็นมี Ecar คันนึงแถวชลประทานติดว่ารถคันนี้ใช้น้ำ

เอาแบบรวบรัดให้ สาวๆเข้าใจง่ายๆด้วยนะครับ...

แหล่ง พลีงงานในการจุดระเบิดคือ H ไฮโดรเจน และ O ออกซิเจนครับ

เครื่องทำไฮโดรเจนที่มันขายๆกันมันก็ใช้ ไฟฟ้ามาแยกน้ำ ให้ได้ H2 กับ O2 ครับ...

เจ้าเครื่องแยกนี้มันก็สามารถสร้าง H2 ได้ปริมาณสม่ำเสมอครับ สมมุติว่า 100 g ต่อวินาที

แต่ว่าเครื่องยนต์ของเรามัน ต้องการการจ่ายน้ำมันที่รอบต่ำในปริมาณน้อย และรอบสูงที่ปริมาณมากครับ...

ถามตัวเองว่า.... ไอ้่ที่มันจ่ายได้ปริมาณเท่าเดินตลอดน่ะมันจะพอได้ยังไง

เปรียบได้กับ ชอบกินหวาน สั่งก๋วยเตี๋ยว ชามธรรมดา ใส่น้ำตาล 1ช้อน ก็หวานพอดี แต่ถ้าสั่ง พิเศษชามใหญ่ขึ้น เติมน้ำตาล1 ช้อน มันก็รู้สึกว่าหวานไม่พอครับ... ต้องเติมอีก...

ไม่รู้เข้าใจหรือไม่ แต่ต่อไปจะเป็นเรื่องเชิงช่างแล้ว... เพราะว่าตอบแบบง่ายๆให้คิดกันไปแล้วฮะ...

ไอ้เครื่องสร้าง H เนี้ย มันดันเพิ่ม H ในอากาศ รวมถึง O ด้วย (ผมใช้คำย่อแล้วนะครับ) เวลา MAP เราวัดอากาศมันก็จะวัดโดยที่ไม่รู้หรือว่า อากาศนั้นมี H+O มากกว่าปรกติหรือเปล่า มันก็สั่งจ่ายน้ำมันตามปรกติ...

ที่รอบเดินเบา... น้ำมันจ่ายเท่าเดิม แต่มี H+O ในอากาศเพิ่มมากขึ้น มันก็ทำให้ส่วนผสมหนาวิ่งไม่ออกเครื่องจุดระเบิดแปลกๆ

พอรอบกลาง-สูง มันก็จะปรกติ เพราะว่าเจ้าเครื่องนี่มันสร้าง H+O ในสัดส่วนที่น้อยกว่าน้ำมันที่จ่ายแล้วนั้นเอง... ไม่ใช่ว่ามันคิดมานะครับ... แต่ว่ามันผลิตไม่ทัน

ถามว่าทำไมมันประหยัด ก็ลองขับให้ H+O มันผลิตทัน ก็คงต้องรอบไม่เกิน 2000-2500 ครับ....

แล้วถามหน่อยว่า ถ้าอยากขับแบบประหยัดน้ำมัน มันก็ต้องขับเปลี่ยนเกียร์ไม่เกินรอบ 2500 เนี้ยแหละครับ... ขับลากรอบมากมันก็กินมากจริงไหมครับ..

ไปเอามาให้อ่านจากเวบอื่นครับ...

ปรับวิธีขับ ประหยัดทันที

1. ลดน้ำหนักบรรทุกให้ได้มากที่สุด

น้ำหนัก 25 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 120 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 1.2 กม.

น้ำหนัก 50 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 240 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 2.4 กม.

น้ำหนัก 100 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 480 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 4.8 กม.

น้ำหนัก 100 กก. วิ่งระยะทาง 800 กม. ใช้น้ำมันไป 3,840 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 38.4 กม.

2. ลมยางเหมาะสม ลมยางอ่อน 3 ปอนด์ ยางหนึดทำให้กินน้ำมันเพิ่ม 1-2% แปลว่าต้องเติมพอดีๆนะครับเติมมากไปยางสึกไม่เท่ากัน+ล้อจะไม่จับถนนครับ

3. หมั่นเช็คเครื่อง/เช็ครถ ทุกๆ 1,000 กม. ประหยัดได้ 5 ลิตร

4. หากหยุดเกิน 15 วินาที ให้ดับเครื่องทันที

หากยังติดเครื่องไว้ทุกๆ 3 นาที ใช้น้ำมันไป 100 ซี.ซี. เท่ากับระยะทาง 1 กม.

5. เปลี่ยนเกียร์สูงทันทีเมื่อเครื่องยนต์ทำงานถึง 2,500 รอบ/นาที

6. หลีกเลี่ยงการเบรคอย่างรุนแรง "เบรคบ่อย ปล่อยคลัทช์-คันเร่งช้า ระยะทางหาย"

"การปล่อยไหล ประหยัดกว่าปลดเกียร์ว่าง" (อันตรายนะครับ การเข้าเกียรว่างทำให้แทคชั่นจากยางลดลงน้อยมาก ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา รถจะควบคุมยากกว่าเข้าเกียร์คาไว้ครับ จะทำอะไรก็ระมัดระวังครับ ชีวิตมีค่ามากกว่าค่าน้ำมันบาทสองบาท)

7. ใช้ความเร็วคงที่ 90 กม./ชม. หรือที่ 1,800 รอบ/นาที จะประหยัดและได้ประโยชน์สูงสุด

หากใช้ความเร็วที่ 110 กม./ชม. จะทำให้กินน้ำมันมากกว่า 25%

8. เปิดแอร์ตลอดทำให้กินน้ำมันอีก 10%

9. รถเกียร์อัตโนมัติกินน้ำมันกว่าเกียร์ธรรมดา 10%

10. น้ำมันเครื่องแพงดีๆ ช่วยการประหยัดได้ 5-10% (การเสียดสีจะต่ำลงครับ แต่ต้องเลือกให้ถูกเลือกไม่ดีไสเกินไปก็กินน้ำมันเครื่องนะครับ)

คงพอที่จะตอบคำถามหลายๆคนได้นะครับ... สงสัยเพิ่มถามได้ฮะ... 

[teeracha]

 

[Joofy]

จาร์ยครับ น่าทำHydrogenนะครับ Van ที่เหลือเยอะวางสบาย เป็นตำนานบทใหม่ของ Opel In   หรือHybird ก็มีที่วางแบตหลังรถ

H2 ตอนนี้ยังไม่ work อะครับ

อธิบายให้ฟังมั่งจิครับพี่หน่า......ผมงงๆ H2 ทำไมมันยังไม่ Work เห็นมี Ecar คันนึงแถวชลประทานติดว่ารถคันนี้ใช้น้ำ

เอาง่ายๆครับ...ต้นทุน8000ติดกัน38000=กำไร30000จำเริญล่ะครับ...ผมด่าไปทีละไอ้พวกฉวยโอกาศ...
ทำได้ไงขายแบบแอมเวย์มีลูกข่ายแบบขาใยแมงมุม...แต่ที่สำคัญลิ้นปีกผีเสื้อเป็นสนิมแน่นอน(รายละเอียดไม่บอก)...อิอิอิอิ

ผมมาเกริ่นไว้ครับว่าวันศุกร์นี้จะเปลี่ยนระบบ mixer เป็นหัวฉีด ใน Astra 1.6 16V ของผม

  ช่างหน่อง โคราชอีกแล้วครับที่จะติดตั้งปรับเปลี่ยนระบบให้

  เมื่อเสร็จแล้วจะมารายงานครับ มาดูฝีมือ ช่างหน่อง โคราช  เรื่องติดตั้งแก๊สดูบ้างครับ

ซื้อไปยังครับอาจารย์...ตอนนี้ขอบอกว่าชุดหัวฉีดถูกมากกกกกกกกกกกก....นะครับ...โดยเฉพาะAG(แท้ๆ)...
ถ้าอาจารย์อยากได้แหล่งซื้อและของถูก...โทรมาหาผมเรยนะครับ....

[teeracha]

ซื้อแล้วครับ ได้ราคาพิเศษเหมือนกัน ของแท้ครับ ตอนนี้รอ ช่างหน่องโคราชว่าง งานแกเข้าเยอะครับช่วงนี้
ผมมันสนิทกันเลยให้คนอื่นเขาเข้าซ่อมก่อน ของผมคงประมาณวันจันทร์

[jook_corsa]

แต่ตอนนี้รถผมแอร์ยังไม่ติดเลย 

[teeracha]

แต่ตอนนี้รถผมแอร์ยังไม่ติดเลย 

เอาไปซ่อมซะนะ จะได้มีแอร์เย็นๆ และเรื่องสติกเกอร์ ได้เมื่อไหร่จะโทรบอกนะ

[jook_corsa]

แต่ตอนนี้รถผมแอร์ยังไม่ติดเลย 

เอาไปซ่อมซะนะ จะได้มีแอร์เย็นๆ และเรื่องสติกเกอร์ ได้เมื่อไหร่จะโทรบอกนะ

คับผม.....ส่วนเรื่องไฟหน้า.......มดเป็นล้านเลยครับอยู่ในรีเลย์.....ไม่รู้มันจะชอบอะำไรนักหนา

[teeracha]

แต่ตอนนี้รถผมแอร์ยังไม่ติดเลย 

เอาไปซ่อมซะนะ จะได้มีแอร์เย็นๆ และเรื่องสติกเกอร์ ได้เมื่อไหร่จะโทรบอกนะ

คับผม.....ส่วนเรื่องไฟหน้า.......มดเป็นล้านเลยครับอยู่ในรีเลย์.....ไม่รู้มันจะชอบอะำไรนักหนา

 :หึหึ:วิเคราะห์ว่าคนมีแฟนก็อย่างงี้ มดเลยขึ้นรีเลย์

[teeracha]

 :หึหึ:ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไงคิวซ่อมรถช่างหน่องเยอะมาก วันนี้ไปให้ช่างหน่องแกดู honda accord ของผม มัน back fire ครับ ติดแก๊สกับแกมาหลายปีแล้วไม่เคยเป็น พบว่าแก๊สบางไป และหัวเทียนมันหมดสภาพครับ เปลี่ยนเสร็จและจูนแก๊สก็หายเลย กว่าแกจะว่างต้องกินน้ำกระเจียบรอกับลูกค้าคนอื่นไปหลายขวด

สรุปว่า อุปกรณ์แก๊สที่จะเอาลงจาก opel ของผมยังอยู่ครบครับ คร่าวๆมี mixer, lamda control ,step motor, auto switch, กรองแก๊ส,.... รถคันนี้ติดมาจากอู่สิน ครับ

 :มั้ง:มี opel astra สีขาวอยู่คันด้วยครับ (ทีแรกนึกว่า รถสโนไวท์!) แท้ที่จริงมาจาก opellove ไปหาช่างหน่องรอซ่อมอยู่ครับ ยังไงจะรายงานเรื่องการซ่อมคันนี้ต่อไปด้วยครับ

[teeracha]

  ตอนนี้ astra ของผมอยู่ในมือช่างหน่องแล้วครับ กำลังจะปรับเปลี่ยนระบบจาก Mixer lamda control ให้เป็นหัวฉีด

  ความร้อนของรถผมมันต่ำมากๆ เย็นเกินไป จะทำกลับสู่ standard ไปด้วยเลยในคราวเดียว (ตอนนี้ไม่เกิน Blue ในการขับสภาพรถไม่ติด หรือจอดเดินเบาในที่ร่มเป็นเวลานาน)
ถ้ารถติดๆ และแดดจัดไม่เกิน 90 C ช่วงความร้อนนี้ไม่เหมาะสมสำหรับการเผาไหม้ในห้องเผาไหม้เพราะจะทำให้เกิดการสึกหรอเร็วและไม่ประหยัดทั้งน้ำมันและ LPG

[teeracha]

  รถ opel astra สีขาวที่เล่าให้ฟังในข้อความต้นๆ มีอาการสตาร์ทยากและเครื่องไม่มีกำลัง ช่างหน่องแกจัดการแก้ให้เรียบร้อยแล้วครับปรากฏว่าปั๊มติ๊กพัง รถคันนี้ก็ผ่านศูนย์บริการ รวมทั้งอู่ต่างๆ ในโคราชมามากแก้ไม่จบ แต่ตอนนี้เจ้าของหน้าบานไปแล้วหลังจากที่ช่างหน่องแก้ไขให้

  :)หลังเลิกงาน ไปดูการติดแก๊สหัวฉีดรถ astra ผมเองที่บ้านช่างหน่อง พร้อมกินน้ำกระเจียบไปพลาง ปรากฏว่ารถคุณผึ้งงานเข้าอีกแล้วเลยเอารถ jeep ของผมไปลากและช่วยกันเข็นขึ้นบ้านช่างหน่อง ... อ่านต่อในกระทู้ ยก 3 ครับ

ส่วนตอนนี้รถผมรอเดินสายไฟ อุปกรณ์ต่างๆ ติดตั้งในเครื่องยนต์เกือบเสร็จแล้ว แล้วจะมาเล่าต่อนะครับ

[jook_corsa]

แอสตร้าสีขาวรถครายอะพี่.....ขาวได้ใจ

[teeracha]

จุกผ่านไปเห็นหรอ รถคันนี้มีคนแนะนำให้มาติดต่อที่พี่ ให้พามาที่บ้านช่างหน่อง จาก opellove ครับ

[jook_corsa]

จุกผ่านไปเห็นหรอ รถคันนี้มีคนแนะนำให้มาติดต่อที่พี่ ให้พามาที่บ้านช่างหน่อง จาก opellove ครับ

อ่อ....เห็นตั้งแต่อาทิตที่แล้วแล้วคับ

[QgomKing]

จาร์ยครับ น่าทำHydrogenนะครับ Van ที่เหลือเยอะวางสบาย เป็นตำนานบทใหม่ของ Opel In   หรือHybird ก็มีที่วางแบตหลังรถ

H2 ตอนนี้ยังไม่ work อะครับ

อธิบายให้ฟังมั่งจิครับพี่หน่า......ผมงงๆ H2 ทำไมมันยังไม่ Work เห็นมี Ecar คันนึงแถวชลประทานติดว่ารถคันนี้ใช้น้ำ

เอาแบบรวบรัดให้ สาวๆเข้าใจง่ายๆด้วยนะครับ...

แหล่ง พลีงงานในการจุดระเบิดคือ H ไฮโดรเจน และ O ออกซิเจนครับ

เครื่องทำไฮโดรเจนที่มันขายๆกันมันก็ใช้ ไฟฟ้ามาแยกน้ำ ให้ได้ H2 กับ O2 ครับ...

เจ้าเครื่องแยกนี้มันก็สามารถสร้าง H2 ได้ปริมาณสม่ำเสมอครับ สมมุติว่า 100 g ต่อวินาที

แต่ว่าเครื่องยนต์ของเรามัน ต้องการการจ่ายน้ำมันที่รอบต่ำในปริมาณน้อย และรอบสูงที่ปริมาณมากครับ...

ถามตัวเองว่า.... ไอ้่ที่มันจ่ายได้ปริมาณเท่าเดินตลอดน่ะมันจะพอได้ยังไง

เปรียบได้กับ ชอบกินหวาน สั่งก๋วยเตี๋ยว ชามธรรมดา ใส่น้ำตาล 1ช้อน ก็หวานพอดี แต่ถ้าสั่ง พิเศษชามใหญ่ขึ้น เติมน้ำตาล1 ช้อน มันก็รู้สึกว่าหวานไม่พอครับ... ต้องเติมอีก...

ไม่รู้เข้าใจหรือไม่ แต่ต่อไปจะเป็นเรื่องเชิงช่างแล้ว... เพราะว่าตอบแบบง่ายๆให้คิดกันไปแล้วฮะ...

ไอ้เครื่องสร้าง H เนี้ย มันดันเพิ่ม H ในอากาศ รวมถึง O ด้วย (ผมใช้คำย่อแล้วนะครับ) เวลา MAP เราวัดอากาศมันก็จะวัดโดยที่ไม่รู้หรือว่า อากาศนั้นมี H+O มากกว่าปรกติหรือเปล่า มันก็สั่งจ่ายน้ำมันตามปรกติ...

ที่รอบเดินเบา... น้ำมันจ่ายเท่าเดิม แต่มี H+O ในอากาศเพิ่มมากขึ้น มันก็ทำให้ส่วนผสมหนาวิ่งไม่ออกเครื่องจุดระเบิดแปลกๆ

พอรอบกลาง-สูง มันก็จะปรกติ เพราะว่าเจ้าเครื่องนี่มันสร้าง H+O ในสัดส่วนที่น้อยกว่าน้ำมันที่จ่ายแล้วนั้นเอง... ไม่ใช่ว่ามันคิดมานะครับ... แต่ว่ามันผลิตไม่ทัน

ถามว่าทำไมมันประหยัด ก็ลองขับให้ H+O มันผลิตทัน ก็คงต้องรอบไม่เกิน 2000-2500 ครับ....

แล้วถามหน่อยว่า ถ้าอยากขับแบบประหยัดน้ำมัน มันก็ต้องขับเปลี่ยนเกียร์ไม่เกินรอบ 2500 เนี้ยแหละครับ... ขับลากรอบมากมันก็กินมากจริงไหมครับ..

ไปเอามาให้อ่านจากเวบอื่นครับ...

ปรับวิธีขับ ประหยัดทันที

1. ลดน้ำหนักบรรทุกให้ได้มากที่สุด

น้ำหนัก 25 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 120 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 1.2 กม.

น้ำหนัก 50 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 240 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 2.4 กม.

น้ำหนัก 100 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 480 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 4.8 กม.

น้ำหนัก 100 กก. วิ่งระยะทาง 800 กม. ใช้น้ำมันไป 3,840 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 38.4 กม.

2. ลมยางเหมาะสม ลมยางอ่อน 3 ปอนด์ ยางหนึดทำให้กินน้ำมันเพิ่ม 1-2% แปลว่าต้องเติมพอดีๆนะครับเติมมากไปยางสึกไม่เท่ากัน+ล้อจะไม่จับถนนครับ

3. หมั่นเช็คเครื่อง/เช็ครถ ทุกๆ 1,000 กม. ประหยัดได้ 5 ลิตร

4. หากหยุดเกิน 15 วินาที ให้ดับเครื่องทันที

หากยังติดเครื่องไว้ทุกๆ 3 นาที ใช้น้ำมันไป 100 ซี.ซี. เท่ากับระยะทาง 1 กม.

5. เปลี่ยนเกียร์สูงทันทีเมื่อเครื่องยนต์ทำงานถึง 2,500 รอบ/นาที

6. หลีกเลี่ยงการเบรคอย่างรุนแรง "เบรคบ่อย ปล่อยคลัทช์-คันเร่งช้า ระยะทางหาย"

"การปล่อยไหล ประหยัดกว่าปลดเกียร์ว่าง" (อันตรายนะครับ การเข้าเกียรว่างทำให้แทคชั่นจากยางลดลงน้อยมาก ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา รถจะควบคุมยากกว่าเข้าเกียร์คาไว้ครับ จะทำอะไรก็ระมัดระวังครับ ชีวิตมีค่ามากกว่าค่าน้ำมันบาทสองบาท)

7. ใช้ความเร็วคงที่ 90 กม./ชม. หรือที่ 1,800 รอบ/นาที จะประหยัดและได้ประโยชน์สูงสุด

หากใช้ความเร็วที่ 110 กม./ชม. จะทำให้กินน้ำมันมากกว่า 25%

8. เปิดแอร์ตลอดทำให้กินน้ำมันอีก 10%

9. รถเกียร์อัตโนมัติกินน้ำมันกว่าเกียร์ธรรมดา 10%

10. น้ำมันเครื่องแพงดีๆ ช่วยการประหยัดได้ 5-10% (การเสียดสีจะต่ำลงครับ แต่ต้องเลือกให้ถูกเลือกไม่ดีไสเกินไปก็กินน้ำมันเครื่องนะครับ)

คงพอที่จะตอบคำถามหลายๆคนได้นะครับ... สงสัยเพิ่มถามได้ฮะ... 

ความรู้ๆ ขอบคุณครับ

ขออนุญาติCopyเก็บไว้นะครับ

[kamolwat_t]

จาร์ยครับ น่าทำHydrogenนะครับ Van ที่เหลือเยอะวางสบาย เป็นตำนานบทใหม่ของ Opel In   หรือHybird ก็มีที่วางแบตหลังรถ

H2 ตอนนี้ยังไม่ work อะครับ

อธิบายให้ฟังมั่งจิครับพี่หน่า......ผมงงๆ H2 ทำไมมันยังไม่ Work เห็นมี Ecar คันนึงแถวชลประทานติดว่ารถคันนี้ใช้น้ำ

เอาแบบรวบรัดให้ สาวๆเข้าใจง่ายๆด้วยนะครับ...

แหล่ง พลีงงานในการจุดระเบิดคือ H ไฮโดรเจน และ O ออกซิเจนครับ

เครื่องทำไฮโดรเจนที่มันขายๆกันมันก็ใช้ ไฟฟ้ามาแยกน้ำ ให้ได้ H2 กับ O2 ครับ...

เจ้าเครื่องแยกนี้มันก็สามารถสร้าง H2 ได้ปริมาณสม่ำเสมอครับ สมมุติว่า 100 g ต่อวินาที

แต่ว่าเครื่องยนต์ของเรามัน ต้องการการจ่ายน้ำมันที่รอบต่ำในปริมาณน้อย และรอบสูงที่ปริมาณมากครับ...

ถามตัวเองว่า.... ไอ้่ที่มันจ่ายได้ปริมาณเท่าเดินตลอดน่ะมันจะพอได้ยังไง

เปรียบได้กับ ชอบกินหวาน สั่งก๋วยเตี๋ยว ชามธรรมดา ใส่น้ำตาล 1ช้อน ก็หวานพอดี แต่ถ้าสั่ง พิเศษชามใหญ่ขึ้น เติมน้ำตาล1 ช้อน มันก็รู้สึกว่าหวานไม่พอครับ... ต้องเติมอีก...

ไม่รู้เข้าใจหรือไม่ แต่ต่อไปจะเป็นเรื่องเชิงช่างแล้ว... เพราะว่าตอบแบบง่ายๆให้คิดกันไปแล้วฮะ...

ไอ้เครื่องสร้าง H เนี้ย มันดันเพิ่ม H ในอากาศ รวมถึง O ด้วย (ผมใช้คำย่อแล้วนะครับ) เวลา MAP เราวัดอากาศมันก็จะวัดโดยที่ไม่รู้หรือว่า อากาศนั้นมี H+O มากกว่าปรกติหรือเปล่า มันก็สั่งจ่ายน้ำมันตามปรกติ...

ที่รอบเดินเบา... น้ำมันจ่ายเท่าเดิม แต่มี H+O ในอากาศเพิ่มมากขึ้น มันก็ทำให้ส่วนผสมหนาวิ่งไม่ออกเครื่องจุดระเบิดแปลกๆ

พอรอบกลาง-สูง มันก็จะปรกติ เพราะว่าเจ้าเครื่องนี่มันสร้าง H+O ในสัดส่วนที่น้อยกว่าน้ำมันที่จ่ายแล้วนั้นเอง... ไม่ใช่ว่ามันคิดมานะครับ... แต่ว่ามันผลิตไม่ทัน

ถามว่าทำไมมันประหยัด ก็ลองขับให้ H+O มันผลิตทัน ก็คงต้องรอบไม่เกิน 2000-2500 ครับ....

แล้วถามหน่อยว่า ถ้าอยากขับแบบประหยัดน้ำมัน มันก็ต้องขับเปลี่ยนเกียร์ไม่เกินรอบ 2500 เนี้ยแหละครับ... ขับลากรอบมากมันก็กินมากจริงไหมครับ..

ไปเอามาให้อ่านจากเวบอื่นครับ...

ปรับวิธีขับ ประหยัดทันที

1. ลดน้ำหนักบรรทุกให้ได้มากที่สุด

น้ำหนัก 25 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 120 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 1.2 กม.

น้ำหนัก 50 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 240 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 2.4 กม.

น้ำหนัก 100 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 480 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 4.8 กม.

น้ำหนัก 100 กก. วิ่งระยะทาง 800 กม. ใช้น้ำมันไป 3,840 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 38.4 กม.

2. ลมยางเหมาะสม ลมยางอ่อน 3 ปอนด์ ยางหนึดทำให้กินน้ำมันเพิ่ม 1-2% แปลว่าต้องเติมพอดีๆนะครับเติมมากไปยางสึกไม่เท่ากัน+ล้อจะไม่จับถนนครับ

3. หมั่นเช็คเครื่อง/เช็ครถ ทุกๆ 1,000 กม. ประหยัดได้ 5 ลิตร

4. หากหยุดเกิน 15 วินาที ให้ดับเครื่องทันที

หากยังติดเครื่องไว้ทุกๆ 3 นาที ใช้น้ำมันไป 100 ซี.ซี. เท่ากับระยะทาง 1 กม.

5. เปลี่ยนเกียร์สูงทันทีเมื่อเครื่องยนต์ทำงานถึง 2,500 รอบ/นาที

6. หลีกเลี่ยงการเบรคอย่างรุนแรง "เบรคบ่อย ปล่อยคลัทช์-คันเร่งช้า ระยะทางหาย"

"การปล่อยไหล ประหยัดกว่าปลดเกียร์ว่าง" (อันตรายนะครับ การเข้าเกียรว่างทำให้แทคชั่นจากยางลดลงน้อยมาก ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา รถจะควบคุมยากกว่าเข้าเกียร์คาไว้ครับ จะทำอะไรก็ระมัดระวังครับ ชีวิตมีค่ามากกว่าค่าน้ำมันบาทสองบาท)

7. ใช้ความเร็วคงที่ 90 กม./ชม. หรือที่ 1,800 รอบ/นาที จะประหยัดและได้ประโยชน์สูงสุด

หากใช้ความเร็วที่ 110 กม./ชม. จะทำให้กินน้ำมันมากกว่า 25%

8. เปิดแอร์ตลอดทำให้กินน้ำมันอีก 10%

9. รถเกียร์อัตโนมัติกินน้ำมันกว่าเกียร์ธรรมดา 10%

10. น้ำมันเครื่องแพงดีๆ ช่วยการประหยัดได้ 5-10% (การเสียดสีจะต่ำลงครับ แต่ต้องเลือกให้ถูกเลือกไม่ดีไสเกินไปก็กินน้ำมันเครื่องนะครับ)

คงพอที่จะตอบคำถามหลายๆคนได้นะครับ... สงสัยเพิ่มถามได้ฮะ... 

ความรู้ๆ ขอบคุณครับ

ขออนุญาติCopyเก็บไว้นะครับ

ยินดีคับ

[NONGG2500]

:หึหึ:ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไงคิวซ่อมรถช่างหน่องเยอะมาก วันนี้ไปให้ช่างหน่องแกดู honda accord ของผม มัน back fire ครับ ติดแก๊สกับแกมาหลายปีแล้วไม่เคยเป็น พบว่าแก๊สบางไป และหัวเทียนมันหมดสภาพครับ เปลี่ยนเสร็จและจูนแก๊สก็หายเลย กว่าแกจะว่างต้องกินน้ำกระเจียบรอกับลูกค้าคนอื่นไปหลายขวด

สรุปว่า อุปกรณ์แก๊สที่จะเอาลงจาก opel ของผมยังอยู่ครบครับ คร่าวๆมี mixer, lamda control ,step motor, auto switch, กรองแก๊ส,.... รถคันนี้ติดมาจากอู่สิน ครับ

 :มั้ง:มี opel astra สีขาวอยู่คันด้วยครับ (ทีแรกนึกว่า รถสโนไวท์!) แท้ที่จริงมาจาก opellove ไปหาช่างหน่องรอซ่อมอยู่ครับ ยังไงจะรายงานเรื่องการซ่อมคันนี้ต่อไปด้วยครับ

 

 อาจารย์ครับวันเสาร์มาอุทัยเอาอุปกรณ์ แก๊สติดมือมาด้วยนะครับ
 ผมขอเอาไว้ดูแลต่อเองครับ แล้วเดี่ยวผมติดต่อหาอาจารย์อีกทีครับ