ศาสนาโดเรม่อน
ศาสนาโดเรมอน เป็นศาสนาแบบแมวนิยม (Nekoism) ชนิดมีเทพหลายองค์ โดยมีองค์เทพสูงสุดคือ มหาเทพโดเรม่อน และมีเทพีโดเรมี่เป็นเทพีสูงสุด ต้นกำเนิดของศาสนายังไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่ามาจากที่ใด แต่จากการศึกษาย้อนตำนานไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วซึ่งเป็นยุคที่ศาสนาถือกำเนิดขึ้น มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่าศาสนาโดเรม่อนมีต้นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น โดยในบันทึกฉบับเก่าแก่กล่าวถึงองค์พระศาสดาผู้ก่อตั้งศาสนาที่มีพระนามว่า “ท่านโนบิตะ”
มหาเทพโดเรม่อน ได้ถูกยกย่องเป็นเทพสูงสุดในศาสนา พระองก์ทรงมีพระวรกายละม้ายคล้ายแมวตัวสีน้ำเงิน (?) ที่ไม่มีหู (?) และไม่มีนิ้ว (?) บางนิกายว่าท่านเป็นตัวทานูกิหรือหมาแร็คคูน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว มหาเทพโดเรม่อนในร่างแมวไม่มีหูเป็นที่ยอมรับกันมากที่สุด ท่านแสดงปาฏิหาริย์เป็นครั้งแรกด้วยการปรากฏตัวออกมาจากลิ้นชักในห้องของ องค์พระศาสดาโนบิตะ แม้ท่านมหาเทพโดเรม่อนจะปราศจากหูและนิ้วแต่ด้วยทิพยอำนาจของท่านแล้ว ความพิกลพิการนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินกิจของท่านแต่อย่างใด ดังจะเห็นได้ในตอนหนึ่งของคัมภีร์ ที่ท่านพระศาสดากล่าวสรรเสริญอิทธิฤทธิ์ของมหาเทพด้วยความอัศจรรย์ใจว่า \"ไม่มีนิ้วแล้วยังหมุนโทรศัพท์ได้อีก" ซึ่งท่านมหาเทพก็ได้ตอบท่านศาสดาไปว่า \"หุบปาก!!!"
ตำนานการ ก่อกำเนิดมหาเทพนั้นยังเป็นที่คลุมเครือ บางตำรากล่าวว่า ยังมีองค์พระผู้สร้างอีก 1 องค์ สร้างมหาเทพโดเรม่อนและส่งท่านลงมาโปรดมวลมนุษย์ผ่านทางลิ้นชักศักดิ์สิทธิ์ บางตำรากล่าวว่า มหาเทพกำเนิดขึ้นมาเองจากความว่างเปล่า แต่สิ่งที่ทุกฝ่ายยอมรับแน่ ๆ คือ ท่านมาจากสวรรค์ที่ชื่อว่า \"ศตวรรษที่ 22" ซึ่งตำรานี้ระบุไว้ว่ามหาเทพโดเรม่อนนั้นพระองค์กำเนิดจากบริษัท และที่แน่นอนอีกอย่างคือเหลนของพระศาสดาโนบิตะส่งมาอบรมท่าน มหาเทพโดเรม่อนทรงโปรดปรานแป้งทอดโดรายากิเป็นพิเศษ จึงเป็นหนึ่งในเครื่องเซ่นสำคัญที่ขาดไม่ได้ในพิธีกรรมบวงสรวงองค์เทพ หากขาดซึ่งโดรายากิในสำรับแล้ว สาวกอาจเสี่ยงที่จะจุกท้องเนื่องจากถูกลงทัณฑ์ด้วยพลังปืนบาซูก้าอัดลมของ องค์เทพได้
แม้องค์มหาเทพจะเป็นแมว แต่พระองก์ก็ยังทรงมีสายเลือดของจิงโจ้อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากกระเป๋าหน้าท้องของพระองก์ซึ่งเป็นสิ่งที่หลงเหลือจากกระบวน การวิวัฒนาการ (Revolution) นั่นเอง กระเป๋าหน้าท้องนี้ถูกเรียกด้วยความเคารพว่า \"กระเป๋า 4 มิติ" ซึ่งเป็นแหล่งอำนาจสำคัญที่สุดขององค์เทพ กระเป๋าใบนี้สามารถบรรจุสิ่งของวิเศษได้มากมายเหลือคณานับทั้งใหญ่และเล็ก ทั้งไร้สาระและมีสาระ
พระคัมภีร์
พระ คัมภีร์หรือบันทึกคำสอนของศาสนานั้น มีผู้เขียนไว้เป็นจำนวนมาก แต่ที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วกันว่าเป็นของแท้และไม่มีย้อมหนูแน่นอน (ไม่ใช้คำว่าย้อมแมวเนื่องจากเป็นการหมิ่นองก์มหาเทพ - -“) ก็คือพระคำปีที่เขียนโดย อาจารย์ “ฟูจิโอะ เอฟ ฟูจิโกะ” ในคัมภีร์นั้นแบ่งเป็นหลายเล่มและหลายหมวดหมู่ เคยได้รับการสังคายนาโดยสำนักพิมพ์ต่างๆ มาแล้วจำนวนนับไม่ถ้วน สำหรับการสังคายนาครั้งล่าสุดนั้นเรียกว่า \"ลิขสิทธิ์ถูกต้อง" นอกจากการบันทึกคำสอนในคำปีในรูปแบบตัวอักษรแล้ว ยังมีการบันทึกเป็นภาพเคลื่อนไหวสำหรับออกอากาศทางโทรทัศน์และจำหน่ายในรูป วีซีดีอีกด้วย แต่เนื้อหาในสื่อบางประเภทโดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหวอาจทำให้ผู้ศึกษาคำปีไม่ได้ รับแก่นแท้แห่งคำสอนเท่าที่ควร เนื่องจากในบางประเทศมีการเซนเซอร์บั้นท้ายและอวัยวะเพศขององค์พระศาสดาโนบิ ตะ (- -“) ซึ่งนับว่าน่าเสียดายอย่างยิ่งสำหรับศาสนิกชนในประเทศดังกล่าวที่พลาดโอกาส จะได้ยลโฉมพระวรกายขององค์ศาสดาเป็นบุญตา
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสนา
1. ลิ้นชัก เป็นประตูวิเศษที่องค์เทพใช้เสด็จผ่านระหว่างโลกนี้และโลกหน้า โดเรม่อนศาสนิกชนจะใช้ลิ้นชักเป็นที่เก็บอัฐิของคนตายเพราะเชื่อว่า ลิ้นชักจะเป็นประตูที่จะนำผู้ตายไปอยู่รับใช้องค์มหาเทพ
2. โดรายากิ เป็นอาหารที่สงวนไว้สำหรับองก์มหาเทพเท่านั้น ชาวโดเรม่อนศาสนิกชนจะไม่กินโดรายากิไม่ว่ากรณีใดๆ แต่อาจจะมียกเว้นในกรณีที่ไม่มีอย่างอื่นให้กิน
3. แมวตัวเมีย ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่า นอกจากแมวตัวเมียเป็นตัวแทนของมหาเทพีโดเรมี่แล้ว ยังเป็นตัวแทนถึงรักแรกขององค์มหาเทพโดเรม่อนอีกด้วย ดังนั้น ในครอบครัวของโดเรม่อนศาสนิกชนจะเลี้ยงแมวตัวเมียไว้อย่างน้อย 1 ตัว (- -“) เพื่อเป็นการแสดงถึงความรักระหว่างคู่ภรรยาและสามี แมวตัวนี้จะต้องถูกดูแลประคบประหงมอย่างดี (?) ดังนั้นบางประเทศที่นิยมนำแมวตัวเมียไปแห่ขอฝนจึงนับเป็นศัตรูกับโดเรม่อน ศาสนิกชนอย่างเลี่ยงไม่ได้
4. จิงโจ้ เนื่องจากจิงโจ้เป็นบรรพบุรุษของมหาเทพ จิงโจ้จึงนับเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย โดเรม่อนศาสนิกชนที่พอมีฐานะจึงนิยมเดินทางไปออสเตรเลียเพื่อสักการะจิงโจ้ เป็นประจำทุกปี (เพื่ออารัยเนี่ย - -“)
5. หมีโคอาล่า เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เนื่องจากสนิทกันกับจิงโจ้นั่นเอง
6. เลขศูนย์ (0) เลขศูนย์เป็นเลขอาถรรพ์ในศาสนาโดเรม่อน เป็นจุดกำเนิดของทุกตัวเลขเนื่องจากศูนย์บวกเลขอะไรก็ได้เลขนั้น และยังเป็นตัวเลขที่เกี่ยวโยงกับชีวิตขององค์พระศาสดาโนบิตะอย่างแยกไม่ออก (?) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาประกาศผลสอบ
7. ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศศักดิ์สิทธิ์ เพราะฉะนั้นทุกท่านที่เข้าร่วมศาสนาแล้วควรไปอย่างน้อย 5 ครั้งในชีวิต (ไม่ค่อยมีตังค์อ่า)
8. พระคัมภีร์ ในปัจจุบันได้เผยแพร่ไปทั่วโลกสามารถหาอ่านได้ตามร้านหนังสือเช่าทั่วไปหรือ สามารถชื้อพระคัมภีร์ได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำ (หมวดการ์ตูน) ทั่วไป บร๊ะคัมภีร์ได้ถูกตีแผ่เป็นหลายภาษา ทุกคนสามารถหาอ่านได้ในราคาถูก
กฎ/ข้อห้ามในศาสนา
1. ศาสนิกชนห้ามแต่งตัวเลียนแบบองก์มหาเทพ หรือพระศาสดาเด็ดขาด มิฉะนั้นอาจจะต้องตกนรกที่เต็มไปด้วยหนูไปชั่วกัปชั่วกัลป์ (น่ากลัวจริงจริ๊ง!)
2. การใส่ที่คาดผมหูแมว หรือการติดอะไรก็ตามที่มีลักษณะเหมือนหูแมวไว้บนหัว ถือเป็นการลบหลู่องค์เทพอย่างให้อภัยไม่ได้ เพราะเป็นอดีตอันเลวร้ายที่มิอาจลืมได้ขององค์เทพ (หากเป็นศาสนิกชนหญิงอาจได้รับการยกเว้นหากใส่แล้วแลดู \"โมเอะ" แต่หากเป็นศาสนิกชนชายต้องห้ามเด็ดขาดไม่ว่าในกรณีใดๆโดยเฉพาะศาสนิกชนชาย ที่มีกล้ามมากๆ)
3. ห้ามถกเถียงกันในหมู่ผู้นับถือว่าองค์เทพเป็นแมวหรือทานูกิกันแน่ ว่าอย่างไรก็ตามนั้น เพราะองค์เทพอาจทรงพิโรธได้โดยเฉพาะคนที่กล่าวว่าองค์เทพเป็นตัวทานูกิ
4. ห้ามศาสนิกชนหลงรักแมวตัวเมียเด็ดขาด (O-o) แมวตัวเมียจะสงวนไว้ให้มหาเทพเท่านั้น แต่การหลงรักสุนัขตัวเมียเป็นที่ยอมรับได้
5. ศาสนิกชนใดที่มีชื่อว่า \"ทาเกชิ" หรือ \"ไจแอนท์" ห้ามร้องเพลงด้วยประการทั้งปวง เพราะถือว่า บุคคลชื่อดังกล่าวไม่ได้เกิดมาเพื่อร้องเพลง
6. หนูเป็นศัตรูขององก์มหาเทพ หากพบเจอหนูที่ใดให้กำจัดเสียให้สิ้น ทั้งนี้ไม่รวมถึงอีหนู การบูชายัญด้วยหนูไม่ทำให้เป็นที่พอพระทัย ควรใช้โดรายากิแทน
7. ศาสนิกชนใดสามารถทำคะแนนสอบได้เข้าใกล้ศูนย์มากที่สุด ย่อมเป็นการแสดงถึงศรัทธาและความจงรักภักดีต่อองก์บร๊ะศาสดามากเท่านั้น (อ้อ...เหรอ)
8. ห้ามเลี้ยงแมวที่หูไม่กุด เพราะมหาเทพโดเรม่อนก็หูกุดเหมือนกันแล้วถ้าไม่ตัดก็เท่ากับดูหมิ่น หากเลี้ยงแล้วต้องตัดหูทิ้ง (อย่าเลยนะ...สงสารแมว)
9. ควรไปญี่ปุ่นสัก 5 ครั้งในชีวิตเพราะจะได้บุญมหาศาล (บุญตา) และผู้ที่เข้าศาสนาจะต้องทำการซื้อหนังสือ...มาไว้ที่ศาลของพระศาสดาทั้ง 2 พระองค์จะได้บุญและช่วงสุดท้ายในชีวิตจะได้ไปเฝ้ามหาเทพและองค์พระศาสดาถึง สววรค์
***เอามาให้อ่านกันพอสังเขปค่ะ...ย้ำ อ่านเพื่อความฮาเท่า นั้น อย่าคิดเป็นจริงเป็นจัง ขอบคุณไร้สาระนุกรม และบ๊อบ โอเวอร์ลอร์ดค่ะ ป.ล. (ปลาไหล) มีการดัดแปลงข้อมูลเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นผู้อ่านจะอ่านไม่รู้เรื่อง ^ ^
ก๊อปเค้ามาฮะ....
http://www.siamkane.com/jstory_view.php?id=920