อันนี้มีที่มาครับ...
ตอนทราบกันก่อนว่า เครื่องยนต์นั้นในการทำงานและใช้งานแต่ละแบบ มี ความร้อนสะสมไม่เหมือนกัน เครื่องคูโบต้า ก็ ประมาณนึง เครื่องรถบ้านก็ประมาณนึง เครื่องรถแข่ง ก็ประมาณนึง
ฉะนั้น น้ำมันเครื่องที่ใช้งานในเคร่องแต่ละตัวจึงออกแบบมา ให้รับสภาวะการทำงานที่ต่างกันออกไปครับ...
ในสมัยก่อน น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% ราคาแกลลอนละ 3000 แต่ตอนนี้ราคาลงมามากแล้วครับด้วยต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง จึงน่าใช้ขึ้น
ค่าความหนืดต่างๆนั้น พี่นุ่นเอามาลงให้ดูในอีกกระทู้ไปแล้วครับ เบอร์แต่ละเบอร์ก็บอกว่าจะมีความสามารถของขีดจำกัด ในการใช้งานต่างกันออกไป หนืดไปใสไปไม่ดีทั้งคู่ครับ ต้องพอดี บางคนก็ไม่ทราบว่าอะไรคือพอดี ไปอู่เขาก็เปลี่ยนมาให้ ด้วยความกลัวว่ามันจะไม่พอที่จะรักษาเครื่องยนต์อันเป็นที่รัก เลยเกิดสารเสริมคุณภาพน้ำมันเครื่องครับ หรือเรียกว่า ทรีดเมนต์
สารทรีดเม้นต่างๆ ที่ออกมาล่อให้ ผู้ที่อยากรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่กับเราไปนานๆ ก็ทำออกมาเยอะครับเพราะว่ากำไรมันดีโคตรๆ
แต่ในความเป็นจริง น้ำมันสังเคราะห์ยี่ห้อดีๆ ราคาไม่ถึง 1000 ก็สามารถครอบคลุมการใช้งาน ทั่วไปในชีวิตประจำวันพอแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องไปใส่สารอะไรเพิ่มมันเพื่อปรับความหนืด เพื่อประหยัดน้ำมัน
ลองคิดง่ายๆ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ครั้งละ 1200 บาท ใส่ทรีดเมนต์ 400 บาท เป็นเงิน 1600 เครื่องจะลื่นขึ้นจริงๆ แต่ว่ามัใส่อะไรมาในกระป๋องก็ไม่รู้ ประหยัดน้ำมันก็คงไม่มากเพราะว่าเราก็ไม่ได้ขับเกิน 3000 รอบบ่อยนัก (ราคานี้ซื้อน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เกรดดีโคตรๆได้เลย)
ผมคุยกับ อาที่เป็นเพนื่อนคุณพ่อที่ ESSO แกบอกว่าแค่ น้ำมันสังเคราะห์ก็พอแล้ว สำหรับรถที่ใช่งานปรกติไม่ได้ไปแต่งอะไร จนเกินความสามารถเครื่องยนต์ไปมากนัก(พวกเซ็ทโบ ทำกล่อง ลงแคม) แล้วเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตามอายุ ถ้าจะให้ดีก็เช็คสีของน้ำมันเครื่องว่ามันดำผิดปรกติหรือไม่ ทุกๆ 1000 โล หรือ เดือนละครั้ง ถ้าใช้รถไม่เยอะ ถ้าเห็นมันแปลกๆ ก็ เปลี่ยนซะ ครับ...
แต่ผมเองเคยเจอมากับตัว เรื่องทรีดเมนต์ มียี่ห้อเดียวที่ ผมเห็นผลต่างชัดมากคือโปรลอง ครับ ตอนนี้ขวดละ 1200 แล้วมั้ง...
พี่ผมใช้รถ MX-5 ครับ ตัวที่ 2 แล้วเซทเทอร์โบจูนกล่อง ปรากฏว่า มีปัญหาเรื่อง ความร้อน มัน ชอบทำท่าจะฮีตเวลาขับอัดๆ สักแปบนึง แกเลยลองใส่ โปรลองดู ปรากฏว่า ไม่ฮีตอีกเลย แต่ว่า อันนี้ เขาทำรถไปเยอะครับ ผมเคยขับแล้ว... ขับทางตรง กดคันเร่งเต็มๆ เกียร์ 1 ฟรีทัิ้งทั้งเกียร์ ถอดคันเร่งแล้ว กดใหม่เบาๆก็ฟรีทิ้ง เลยขับไหลๆเอาครับ แรงม้าที่ล้อน่าจะมีเกิน 180 ตัว ที่ต้องใส่เพราะว่ามันจำเป็นครับ ถ้ามันไม่ตัวร้อนง่ายก็คงไม่ใส่ลงไปเพราะว่าราคาเกือบเท่า น้ำมันเครื่องเลย
รักเครื่องยนต์ให้ถูกทางอย่าให้เขามาหลอกกินตังง่ายๆนะครับ
สารบัญ Opel in คิดอะไรไม่ออก มาที่นี่ ##