อืมมมม์ รถมือหนึ่ง ช่วงผ่อนอยู่มันไม่ค่อยเสียหรอกครับ พอพ้นปุ๊ปมันก้อจะทยอยเสียทีละอย่างสองอย่าง
และช่วงแรกที่ผ่อน หลายคนบอกไม่เคยเสีย ไม่เคยซ่อม แต่ก้อต้องเข้าศูนย์ตามระยะเวลาที่เขากำหนด มะงั้นน
ประกันต่างๆ ขาดนะเฟ้ยยย
ก้อเลยจำใจต้องเข้า...เข้าไปจ่ายตังค์(ค่าไรมั่งก้อไม่รู้) ทีละพันสองพัน ค่าแรงไม่คิดแต่ ค่ากรอง ค่าน้ำมัน ค่าโอริง ค่าไรีกก้อไม่รู้มัน แพงระยิบระยับยังกะทองคำ
กว่าจะผ่อนเสร็จ 4 ปี เจอค่าบริการไปเท่าใหร่แล้วหล่ะ...เหอะๆๆๆๆ จะไปติดแก๊สให้ประหยัดตังค์สักกะหน่อยก้อไม่ได้ เด๋วประกันขาดอีก
ก้อจำต้องทนจ่ายค่าน้ำมันอ๊วกกันไป...
ตามนั้นแหละ...
ส่วนรถมือสอง...มันมีหลายสาเหตุ ที่ทำให้เจ้าของต้องขาย
1. สำหรับคนรวย เขาอยากได้รถใหม่ ไฉไล กว่า อันนี้ผมว่าสภาพค่อนข้างดี แต่ก้ออะนะ ราคา
2. คนบ้านๆ ก้อแยกได้อีก
2.1 มีความจำเป็นทางการเงิน อันนี้น่าจะได้ รถดีราคาถูก
2.2 มีความจำเป็นต้องขาย เพราะ ซ๋อมยังงัยก้อไม่จบ หรือ อุบัติเหตุมาซะยับเยิน
เจอย้อมแมวเป็นส่วนใหญ่
3. .....ฯลฯ
เพราะฉนั้น...ก่อนซื้อ
1. เลือกรูปร่าง ยี่ห้อ และประวัติ สักหน่อยก้อดี ว่ารถรุ่นนี้ มีดีมีเสียยังงัย เมื่อเทียบกับราคาที่จะซื้อ
2. เตรียมตั้งให้พร้อม มือสอง(โอเปิ้ล)ส่วนมากจ่ายสด
3. ดูรถ ถ้าดูไม่เป็นก้อหาคนดูเป็นไปด้วย ต่อรองราคา ที่คิดว่าเราคุ้ม คนขายพอใจ
อย่าเอาความอยากนำหน้า เพราะมันจะทำใ้ห้ท่านหน้ามืดตามัว จนมองหาจุดบกพร่องของรถไม่เจอ
4. พวกของจำเป็นพื้นฐาน น้ำมันหล่อ น้ำยาหล่อเย็น น้ำมันเบรค น้ำมันเกียร์ ลูกรอกสายพาน ควรเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด (นี่แหละที่บอกเตรียมไว้ สองหมื่น)
5. หาสมุดบันทึกสักหนึ่งเล่มติดรถไว้ เปลี่ยนอะไร วันที่เท่าไหร่ เลขไมล์ที่เท่าไหร่ ราคาเท่าได ยี่ห้อไร โดยใคร(ชื่ออู่ ชื่อช่าง เบอร์โทร)บันทึกมันไว้เป็นข้อมูลในวันหน้า...ช่วยแก้ปัญหายามอับจนหนทาง...ดีนักแล.....