มีวัดที่อ่างทองค่ะ
ได้ FWD มา ตามรายละเอียดด้านล่างเลย
ของเหลือจากคนเมืองอันมีจะกิน เป็นสิ่งมีค่าเหลือหลายสำหรับเด็กที่ไม่เคยได้ใช้ ' เงิน ' แม้แต่บาทเดียว . . . ' คำพูดนี้กลั่นออกมาจากปากของ ' พระครูวุฒิธรรมาทร ' เจ้าอาวาส วัดโบสถ์วรดิตถ์ วัดแห่งหนึ่งใน อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง …
ในขณะที่ทุกคนเข้าวัดเพื่อทำบุญหรือหาที่พึ่งทางใจ แต่ ณ วัดป่าโมก วัดเล็กๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก กลับเป็นสถานที่ชุบเลี้ยงเ ด็กอีกหลายร้อยชีวิต พวกเขาคิดว่า ' วัด ' คือบ้านที่ให้ชีวิตพวกเขา ให้แหล่งพักพิงอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่คนไร้ญาติ ขาดคนเหลียวแล และคนจนเช่นพวกเขาจะได้รับ
หลวงพ่อพระครูวุฒิธรรมาทร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์ เล่าถึงความเป็นมาของวัดว่า เมื่อประมาณ 30 ปี ที่แล้ว พวกทหารพรานนำเด็กกว่า 30 คนมาฝากให้ท่านเจ้าอาวาสรูปก่อนดูแล ส่งเงินให้เดือนละ 500 บาท เด็กๆ ที่นำมาฝากส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้า เพราะพ่อแม่เป็นพวกคอมมิวนิวส์ หลังพ่อแม่ถูกฆ่า ถูกกวาดล้างก็มาขอพึ่งพาอาศัยใบบุญวัดเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด
' ต่อมาชาวเขาทางภาคเหนือที่มีฐานะยากจนรู้เรื่องก็ส่งลูกๆ มาให้ทางวัดดูแลอีก เขาบอกว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่าอดตายอยู่บนเขา และก็มีมาอีกเรื่อยๆ เกือบทุกจังหวัด จนถึงปัจจุบันก็กลาย เป็นกว่า 400 คนแล้ว ก็ต้องดูแลกันไป จำชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง ดื้อบ้างซนบ้าง แต่อาตมาก็ดูแล ไม่ให้ทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะกันจะไม่ถามเลยว่าใครผิดใครถูก จะตีทั้งคู่ เด็กๆ เขาก็ซนตามประสาเด็กๆ ' หลวงพ่อกล่าว พร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่แฝงไว้ซึ่งความเมตตาต่อเด็กๆ
พร้อมกันนี้ท่านยังบอกอีกว่า ทางวัดก็มีโรงเรียนให้เด็กๆ ได้เรียนหนังสือ เป็นโรงเรียนประจำแต่ก็เป็นไปตามอัตภาพที่จะทำได้ มีตั้งแต่ชั้นระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่เด็กเป็นร้อยคนดูแลเด็กก็ต้องไปบิณฑบาตรข้าวของเครื่องเรียนต่างๆ เพื่อนำมาให้เด็กๆ เขาใช้ ส่วนครูที่สอนหนังสืออยู่ที่นี่ก็เป็นระบบกึ่งข้าราชการ มีเงินเดือนมีสวัสดิการให้จากภาครัฐ แต่เงินเดือนจะไม่ขึ้น ที่เขาเสียสละมาอยู่กับเด็กๆ ก็เพราะรัก
' ทุกวันนี้หลวงพ่อไม่เคยมีปัญหาอะไร มีแต่ทุกข์ ขนาดเป็นพระก็ยังมีทุกข์ ทุกข์ที่ว่าก ลัวจะมีไม่พอเลี้ยงเขา จะอยู่กันไปตลอดได้อย่างไร บางคนเรียนจบก็กลับมาช่วย บางคนก็ไม่กล้ามา เขาคงละอายใจตัวเองที่ยังช่วยวัดไม่ได้ เพราะในแต่ละเดือนภาระค่าใช้จ่ายของทางวัด เฉพาะค่าไฟก็ไม่น้อยไปกว่า 3 หมื่นบาท รายได้ก็มาจากการบริจาค ส่วนใหญ่ก็ต้องไปขอบิณฑบาตรเอาปัจจัยบ้าง และของที่บริจาคจะเป็นจำพวกข้าวสารอาหารแห้ง แต่บางทีข้าวสารไม่พอ วัดก็ไปขอหยิบยืมมาจากโรงสี พอมีผ้าป่ากฐินมาวัดก็เอาเงินไปใช้เขา ถ้าไม่มีหรือไม่พอเขาก็ไม่ทวงทางวัด ก็ถือว่าเป็นการทำบุญไป ' หลวงพ่อ กล่าว
... ในขณะที่หลายคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง เรียนบ้างเล่นบ้างตามประสา ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยตามสมัยนิยม แต่ในวัดเล็กๆ แห่งนี้ยังมีเด็กอีกหลายร้อยชีวิตที่ไม่เคยได้สัมผัส ' เงิน ' ที่กลายเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิต หรือไม่มีเสื้อผ้าใหม่ๆ ดีๆ สวมใส่
' ของเก่ามันเก่าที่บ้าน แต่กับเด็กๆ ที่เขาไร้โอกาสมันก็เป็นของใหม่สำหรับเขา แต่ส่วนใหญ่เด็กๆ เค้าก็ดีใจ เราเคยบอกกับเด็กๆ ว่าถ้าไม่มีคนช่วยก็ต้องต่างคนต่างไป เพราะญาติโยมที่มาก็ไม่เยอะมาก แต่แค่เงินทำบุญหาได้เดือนชนเดือนก็พอใจแล้ว ไม่ได้หวังอะไรมาก ส่วนใหญ่คนที่มาบริจาคเค้ามาเอง มาแบบปากต่อปาก วัดไม่เคยออกไปโฆษณาทางไหน ของบริจาคอยากจะบริจาคเสื้อผ้า ของเล่น อะไรก็เอามาบริจาคได้ อาหารแห้ง ถ้าเหลือใช้ไม่รู้จะทิ้งที่ไหน ก็เอามาได้ '
เรียกได้ว่า ทุกคำพูด ทุกลมหายใจเข้าออกของหลวงพ่อพระครูวุฒิธรรมาทร จะคิดคำนึงถึงปากท้องของชีวิตน้อยๆ ที่ต้องเลี้ยงดูอยู่เสมอ
' การกินเป็นสิ่งสำคัญต้องมาก่อนอย่างอื่น เด็กๆ ต้องกินแล้วค่อยร่ำเรียน ยังไงก็ต้องให้เค้ามีกิน ถึงจะไม่ดีตาม แต่ก็ต้องได้กิน ทุกวันนี้กลัวอย่างเดียวคือวันข้างหน้าจะมีไม่พอให้เค้ากินเค้าใช้ ' หลวงพ่อ กล่าว ความทุกข์ที่เป็นกังวลใจ พร้อมๆ กับฝากถึงคนที่มีโอกาสว่า ' กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงมาได้ กว่าจะเติบโตมาเป็นคนได้ มันสุดแสนจะยากลำบาก ยังมีชีวิตก็ยังมีโอกาส อย่าไปคิดสั้นชีวิตมันยังต้องต่อสู้กันต่อไป '
บางสิ่งบางอย่างคนที่มีเพียบพร้อมอาจจะมองเป็นเพียงแค่เศษขยะ เป็นของเหลือกินเหลือใช้ แต่ในทางตรงกันข้าม สิ่งของเหล่านั้นอาจจะช่วยประทังชีวิตเล็กๆ ให้อยู่ต่อข้ามพ้นไปในอีกวัน ... สำหรับท่านที่อยากบริจาคช่วยเหลือ วัดโบสถ์วรดิตถ์ สามารถโอนเงินเข้าบัญชี
ชื่อ วัดโบสถ์วรดิตถ์ โดยพระครูวุฒิธรรมาทร
ธนาคารกสิกรไทย สาขาป่าโมก
บัญชีออมทรัพย์ 182-2-11-364-4
หรือต้องการบริจาคสิ่งของก็สามารถบริจาคได้ที่วัดโบสถ์วรดิตถ์ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง