ผมจะพยายามนำข้อมูลที่เป็นความรู้ต่างๆมาลงให้อ่านกันเรื่อยๆนะครับ...หวังว่าคงจะมีประโยช์กับพวกเราบ้างไม่มากก้อน้อย
ใครจะเพิ่มเติมข้อมูล..ติติง..หรือสงใสจะสอบถามเพิ่มเติม..เชิญได้เต็มที่..เรามาเรียนรู้ร่วมกันครับ..
เรื่องแรกเลย...
การดูแลรักษาและสังเกตุในการล้างคอล์ยเย็นแอร์รถยนต์....
เราควรล้างแอร์กันเมื่อไหร่??..
=ตามปกติก้อ..1ปี หรือ 20000กิโลครับ...
จะรู้ได้ไงว่าตู้แอร์เราได้เวลาอาบน้ำแล้ว??..
=กลิ่นฝุ่นครับ...สังเกตุง่ายๆครับ...เอาจมูกจ่อช่องลมแอร์ถ้ามีกลิ่นอับๆก้อได้เวลาล้างแอร์ก่อนกำหนดละครับ...อาจจะก่อน1ปีก้อได้ครับ....
ทำไงให้ใช้แอร์ได้นานๆไม่ต้องล้างบ่อยๆ??
=สาเหตุที่เราต้องล้างตู้แอร์หลักๆมาจากฝุ่นครับ...ฝุ่นมาจากไหน??..มาจาก2ช่องทางหลักๆครับ
1.ภายในรถ..วิธีดูแลง่ายๆครับ...ลงรถเมื่อไหร่เคาะพรมเมื่อนั้น..เพราะพัดลมแอร์อยู่ใกล้กับพรมรองเท้าเราครับถ้าสะสมไว้มันจะดูดเข้าไปเรื่อยๆทำให้ตู้แอร์เราตันไว..
ถ้าทำได้เป็นนิสัย..เราสามารถยืดอายุการล้างตู้แอร์เราได้อาจจะ2ปี/ครั้งเรยทีเดียวเชียว..
2.ภายนอกรถ..สำหรับรถพวกเราท่านไหนวิ่งทางฝุ่นบ่อยๆ(ไม่ว่าจะลูกรังหรือว่อมถนนทั้งปีทั้งชาติ)...ทำตามข้อแรกเรยครับ..และที่อยากให้เพิ่มเติมหาเครื่องดูดฝุ่นไว้ติดบ้านท่านเรยครับ
อย่างต่ำๆขอซัก1600วัตต์..แล้วหาเวลาว่างดูดฝุ่นอย่างน้อยๆอาทิตย์ละ1ครั้งนะครับ...แต่อย่าวางใจไปครับ...เคสนี้ผมแนะนำเรยครับไม่ควรปล่อยเกินปี...ให้ล้างซักปีละครั้งเรยครับ
ทำไมรถที่ไม่ได้ล้างตู้แอร์เกิน3ปีคอล์ยมันเน่าจัง??
=ฝุ่นนั่นเองครับเจ้าตัวร้าย...แรกๆแอร์เรามันจะดูดไปสะสมไว้ครับ(เหมือนธนาคาร)...เวลาแอร์เราทำงานมานจะมีน้ำที่ตัวคอล์ยเย็นและเมื่อมันดูดฝุ่นไปเรื่อยๆ..
จากฝุ่นจะกลายเป็นโคลน(แทนที่ครีบฟินจะระบายน้ำกลายเป็นสะสมน้ำ)...และเนิ่นนานไปมันจะกล่อนส่วนที่เป็นอลูมินั่มจะเป็นสนิมขาว..ทองแดงก้อจะเป็นสนิมเขียว...
และมันจะผุเร็วมากอายุการใช้งานลดลงเท่าตัวเรยทีเดียว..ที่เห็นง่ายๆเวลาช่างเค้าถอดมาล้างลองขอเค้าดูครับ...สังเกตุตรงฟิลอลูมิเนียมที่เป็นครีบๆจะผุพากันล้มบังลมและบางเป็นกระดาษเลยครับ