[ การบำรุงรักษา ] corsa ความร้อนขึ้น**แนะนำให้อ่านนะครับ**

เก่ง · **Reply #60 on:** 26 Feb 2010, 09:37

รถผมวิ่งความร้อนไม่ขึ้น แต่รถติดแล้วความร้อนขึ้น ประมาณ 98-100 ตรวจสอบดูแล้วพัดลมทำงานดีอยู่
ปัญหาคือเนื่องจากพัดลมน่าจะเสื่อมครับ รอบไม่ถึง พอเปลี่ยนพัดลมเป็นของคอร์ซ่าตัวนอก ปัจจุบันความร้อนไม่เคยถึง 95 เลยสักครั้ง
เล่าสู่กันฟังเผื่อลองตรวจสอบดูนะครับ

bat · **Reply #61 on:** 26 Feb 2010, 15:48

Quote

รถผมวิ่งความร้อนไม่ขึ้น แต่รถติดแล้วความร้อนขึ้น ประมาณ 98-100 ตรวจสอบดูแล้วพัดลมทำงานดีอยู่
ปัญหาคือเนื่องจากพัดลมน่าจะเสื่อมครับ รอบไม่ถึง พอเปลี่ยนพัดลมเป็นของคอร์ซ่าตัวนอก ปัจจุบันความร้อนไม่เคยถึง 95 เลยสักครั้ง
เล่าสู่กันฟังเผื่อลองตรวจสอบดูนะครับ

บางครั้งหลายคน หลงลืมเรื่องนี้กัน ดีเลยครับเอามาสะกิดกัน

takapong · **Reply #62 on:** 26 Feb 2010, 15:54

ของผมนี้เลยครับลีเลย์ละลาย พัดลมเลยทำงานไม่เต็มที่ :( แต่ตอนนี้หายแล้ว

opel-tak · **Reply #63 on:** 26 Feb 2010, 16:34

ล้างหม้อน้ำแล้วครับ ตันนิดหน่อย แต่ก็ยัวตัวร้อนอยู่ดี ติดไฟแดง 96-98 ครับ เหลือสุดท้ายแล้ว ยังไม่เปลี่ยน พัดลมครับ คงต้องหามาลองเปลี่ยนดู หุ ๆๆๆๆๆๆๆๆ

kamolwat_t · **Reply #64 on:** 27 Feb 2010, 00:38

Quote from: opel-tak on 26 Feb 2010, 16:34

ล้างหม้อน้ำแล้วครับ ตันนิดหน่อย แต่ก็ยัวตัวร้อนอยู่ดี ติดไฟแดง 96-98 ครับ เหลือสุดท้ายแล้ว ยังไม่เปลี่ยน พัดลมครับ คงต้องหามาลองเปลี่ยนดู หุ ๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถ้าเปลี่ยนพัดลมยังไม่หาย... พี่ต้องเปลี่ยนหม้อน้ำนะครับ...

opel-tak · **Reply #65 on:** 04 Mar 2010, 13:25

แก้ปัญกาความร้อนขึ้นจบแล้วครับ
อาการ
Corsa 1.4 ความร้อนขึ้น รถวิ่งไปเรื่อย ๆ ความร้อน 90 - 92 แต่พอวิ่งในเมืองวิ่งได้ช้า รถติด ความร้อนเริ่มใข้น จนถึง 98
สภาพรถก่อนความร้อนขึ้น
- พัดลมต่อตรง
- วาวล์น้ำ ไม่มี มีแต่โครง (มารู้ทีหลัง)
- เช็นเชอร์ความร้อน น่าจะเสีย คือแค่เปิดสวิทย์ ก็ขึ้นเกือบร้อย (ยังไม่ start)
การแก้ไข
ยกหนึ่ง - เปลี่ยนเซ็นเชอรืความร้อน ของ Italy (ช่างซื้อใหม่มาใส่) =====> ความร้อนก็ขึ้นเหมือนเดิม
ยกสอง - เปลี่ยนสวิทย์หัวโต เป็น 92 - 87 C ของเดิมน่าจะเสียเพราะพัดลมต่อตรง
- เปลี่ยนวาวล์น้ำ เริ่มเปิดที่ 87 =====> ความร้อนก็ขึ้นเหมือนเดิม
ยกสาม - ล้างหม้อน้ำ ตันไป 3 ช่อง ====> ความร้อนก็ขึ้นเหมือนเดิม
ยกสี่ - ไปหาจุ๊ฟ ที่พิดโลก เลยจัดการเปลี่ยนวาวล์น้ำ เพราะตัวที่เปลี่ยนใหม่ มันทำงานช้า และเปิดไม่หมด จุ๊ฟ เลยเปลี่ยนให้ใหม่
- เปลี่ยนปั๊มน้ำ เป็นไปตาม Spec
- ลองใช้หม้อน้ำรถของ โอ =====> ตอนขับกลับ ตึกแล้ว ความร้อนก็ประมาณ 92 C นึกในใจอุ่นใจแล้ว แก้จบชะที
- แต่ลองขับดูตอนเช้า ความร้อนก็ยังขึ้นสูงเหมือนเดิม ชักถอดใจแล้ว
ยังไงก็ขอบคุณจุ๊ฟ / โอ ที่ดูรถแลแก้ไขให้ ตั้งแต่บ่าย 2 ถึง 5 ทุ่ม
ยกห้า - ตอนเช้าหลังจากลองรถอีกครั้ง ก็เลยโทรถามจุ๊ฟอีก เพื่อให้ติดต่อหาซื้อพัดลมที่แรงขึ้น ซึ่งจุ๊ฟแนะนำ ใช้ GSI ซึ่งตรงกับเพื่อนหลายคนใน web แนะนำ เลยให้จุ๊ฟ
ช่วยติดต่อขอซื้อที่ช่างเข้ ราคา 2000 บาท
- ได้พัดลมมาแล้ว ให้ช่างดัดแปลงขาใส่ ลมแรงกว่าเดิมมาก พร้อมเสียงดังกว่าเดิม
- ลองวิ่งดู ความร้อนก็ประมาณ 92 - 95 C OK พอรับได้ แต่สงสัยดูจากรถหลายคันแล้วบอกว่า อุณณหภูมิจะประมาณ 90 - 92 เลยตัดสินใจอีกครั้ง ซื้อเซ็นเชอร์
ความร้อน ที่ตรง Spec. เลย (775 บาท) มาลองใส่ ปรากฎว่า ความร้อนขณะวิ่ง ไม่เกิน 90 และเวลาตืดไฟแดง หรือจอดนาน ๆ ความร้อนขึ้นไม่เกิน 92

สรุปแล้วจบที่ยกห้า - สาเหตุคือพัดลมแรงไม่พอ หรือเสื่อม และ เซ็นเชอร์ความร้อนไม่ตรงกับที่หน้าปัด
การแก้ไขคือ เปลี่ยนพัดลมเป็นรุ่น GSI และเปลี่ยนเซ็นความร้อนให้ตรวง Spec.
ค่าใช้จ่าย - วาวาน้ำ 2 ตัว 550 + 615
- ปั๊มน้ำ 1100
- สวิทยหหัวโต 650
- เซ็นเชอร์ความร้อน 775
- พัดลม GSI 2000
- ล้างหม้อน้ำ 350
ขอขอบคุณ จุ๊ฟ / โอ /ต้น และเพื่อนๆ ใน web ที่ให้คำแนะนำ

มือใหม่corsa · **Reply #66 on:** 04 Mar 2010, 13:44

ยินดีด้วยครับ

kamolwat_t · **Reply #67 on:** 04 Mar 2010, 16:47

สรุป... ผมว่า... เซ็นเซอร์มันไม่ตรงอ่ะครับ... อย่างอื่นไม่เท่าไร

ถ้าอิงตาม เหตุและผลคือ ในเมื่อคันอื่นไม่เป็น ทำไมมันเป็นรถพี่คันเดียวอ่ะครับ ผมคิดแบบนี้นะฮะ...

แต่ว่า เปลี่ยนของ GSI ยังไงก็ดีกว่าเดิมแน่นอนครับ ของทุกอย่างที่ซื้อมาใส่ลงไป ไม่มีตัวไหนมันไร้ประโยชน์เลยครับ ยินดีด้วยครับที่ปัญหาจบซะที...

Joofy · **Reply #68 on:** 04 Mar 2010, 18:31

Quote from: opel-tak on 04 Mar 2010, 13:25

แก้ปัญกาความร้อนขึ้นจบแล้วครับ
อาการ
Corsa 1.4 ความร้อนขึ้น รถวิ่งไปเรื่อย ๆ ความร้อน 90 - 92 แต่พอวิ่งในเมืองวิ่งได้ช้า รถติด ความร้อนเริ่มใข้น จนถึง 98
สภาพรถก่อนความร้อนขึ้น
- พัดลมต่อตรง
- วาวล์น้ำ ไม่มี มีแต่โครง (มารู้ทีหลัง)
- เช็นเชอร์ความร้อน น่าจะเสีย คือแค่เปิดสวิทย์ ก็ขึ้นเกือบร้อย (ยังไม่ start)
การแก้ไข
ยกหนึ่ง - เปลี่ยนเซ็นเชอรืความร้อน ของ Italy (ช่างซื้อใหม่มาใส่) =====> ความร้อนก็ขึ้นเหมือนเดิม
ยกสอง - เปลี่ยนสวิทย์หัวโต เป็น 92 - 87 C ของเดิมน่าจะเสียเพราะพัดลมต่อตรง
   - เปลี่ยนวาวล์น้ำ เริ่มเปิดที่ 87 =====> ความร้อนก็ขึ้นเหมือนเดิม
ยกสาม - ล้างหม้อน้ำ ตันไป 3 ช่อง ====> ความร้อนก็ขึ้นเหมือนเดิม
ยกสี่ - ไปหาจุ๊ฟ ที่พิดโลก เลยจัดการเปลี่ยนวาวล์น้ำ เพราะตัวที่เปลี่ยนใหม่ มันทำงานช้า และเปิดไม่หมด จุ๊ฟ เลยเปลี่ยนให้ใหม่
   - เปลี่ยนปั๊มน้ำ เป็นไปตาม Spec
   - ลองใช้หม้อน้ำรถของ โอ =====> ตอนขับกลับ ตึกแล้ว ความร้อนก็ประมาณ 92 C นึกในใจอุ่นใจแล้ว แก้จบชะที
   - แต่ลองขับดูตอนเช้า ความร้อนก็ยังขึ้นสูงเหมือนเดิม ชักถอดใจแล้ว
   ยังไงก็ขอบคุณจุ๊ฟ / โอ ที่ดูรถแลแก้ไขให้ ตั้งแต่บ่าย 2 ถึง 5 ทุ่ม
ยกห้า - ตอนเช้าหลังจากลองรถอีกครั้ง ก็เลยโทรถามจุ๊ฟอีก เพื่อให้ติดต่อหาซื้อพัดลมที่แรงขึ้น ซึ่งจุ๊ฟแนะนำ ใช้ GSI ซึ่งตรงกับเพื่อนหลายคนใน web แนะนำ เลยให้จุ๊ฟ
   ช่วยติดต่อขอซื้อที่ช่างเข้ ราคา 2000 บาท
   - ได้พัดลมมาแล้ว ให้ช่างดัดแปลงขาใส่ ลมแรงกว่าเดิมมาก พร้อมเสียงดังกว่าเดิม
   - ลองวิ่งดู ความร้อนก็ประมาณ 92 - 95 C OK พอรับได้ แต่สงสัยดูจากรถหลายคันแล้วบอกว่า อุณณหภูมิจะประมาณ 90 - 92 เลยตัดสินใจอีกครั้ง ซื้อเซ็นเชอร์
   ความร้อน ที่ตรง Spec. เลย (775 บาท) มาลองใส่ ปรากฎว่า ความร้อนขณะวิ่ง ไม่เกิน 90 และเวลาตืดไฟแดง หรือจอดนาน ๆ ความร้อนขึ้นไม่เกิน 92

สรุปแล้วจบที่ยกห้า - สาเหตุคือพัดลมแรงไม่พอ หรือเสื่อม และ เซ็นเชอร์ความร้อนไม่ตรงกับที่หน้าปัด
การแก้ไขคือ เปลี่ยนพัดลมเป็นรุ่น GSI และเปลี่ยนเซ็นความร้อนให้ตรวง Spec.
ค่าใช้จ่าย - วาวาน้ำ 2 ตัว 550 + 615
   - ปั๊มน้ำ 1100
   - สวิทยหหัวโต 650
   - เซ็นเชอร์ความร้อน 775
   - พัดลม GSI 2000
   - ล้างหม้อน้ำ 350
ขอขอบคุณ จุ๊ฟ / โอ /ต้น และเพื่อนๆ ใน web ที่ให้คำแนะนำ

ยินดีด้วยครับพี่และดีใจด้วยครับ...ที่จะได้ใช้รถแบบมีความสุขและไม่ต้องระแวงอีกต่อไป...จะให้ดีเปลี่ยนใส้หม้อน้ำด้วยจะดีมากเรยครับพี่
ตัน3ช่องนี่ไม่น้อยเรยนะครับ...

NONGG2500 · **Reply #69 on:** 04 Mar 2010, 19:28

ขอเสริมนิดนะครับ ขอเน้นเรื่องน้ำยาหล่อเย็น ขอแนะนำให้ใช้เสมอ
มีส่วนช่วยลดความร้อนและปกป้องไม่ให้เกิดสนิมในระบบหล่อเย็น

takapong · **Reply #70 on:** 04 Mar 2010, 19:45

Quote from: NONGG2500 on 04 Mar 2010, 19:28

ขอเสริมนิดนะครับ ขอเน้นเรื่องน้ำยาหล่อเย็น ขอแนะนำให้ใช้เสมอ
มีส่วนช่วยลดความร้อนและปกป้องไม่ให้เกิดสนิมในระบบหล่อเย็น

อันนี้เห็นด้วยอย่างแรง ผมก็เติมครับ ความร้อนกว่าจะขึ้น นานพอสมควรครับ วิ่งเอาแบบรู้สึกว่า ตกลงมันทำ เกจต์วัดความรู้ตรูพังรึป่าวไปเลย

pp · **Reply #71 on:** 09 Apr 2010, 10:15

ที่อธิบายมา ของเจ้าซ่าทั้่งนั้นเลย

แล้วเอาไปปรับใช้กับ astra ได้ไหมอ่ะ

เจ้าปุ้กก้ามันวิ่งข้างล่าง 95-97 ทางด่วน 92 พอรถติด,จอด 98-100 จะตายไหมเนี่ย

น้ำในที่พักก้อหาย หม้อน้ำไม่รั่วแน่ เพราะเพิ่งเปลี่ยนมา แต่เราเห็นฝาที่กระบอกพักน้ำ ยางข้างในมันดูแข็ง ๆ เหมือนเสื่อมอ่ะ

แก้ไงดีคะ

kamolwat_t · **Reply #72 on:** 09 Apr 2010, 12:16

Quote from: pp on 09 Apr 2010, 10:15

ที่อธิบายมา ของเจ้าซ่าทั้่งนั้นเลย

แล้วเอาไปปรับใช้กับ astra ได้ไหมอ่ะ

เจ้าปุ้กก้ามันวิ่งข้างล่าง 95-97 ทางด่วน 92 พอรถติด,จอด 98-100 จะตายไหมเนี่ย

น้ำในที่พักก้อหาย หม้อน้ำไม่รั่วแน่ เพราะเพิ่งเปลี่ยนมา แต่เราเห็นฝาที่กระบอกพักน้ำ ยางข้างในมันดูแข็ง ๆ เหมือนเสื่อมอ่ะ

แก้ไงดีคะ

อุปกรณ์ เหมือนกันเลยครับ...

ราคา ต่างกันนิดหน่อยฮะ...

อาการแบบนี้ ระบายความร้อนไม่ทัน... น่าจะ พัดลม ครับ...

ปล่อยไว้.. ตายแน่...

Omega VIP · **Reply #73 on:** 10 Apr 2010, 18:02

พัดลมตัวแรกเลยผู้ต้องสงสัย ตามมาด้วยสวิทต์ควมคุมพัดลม ( หัวโต ) ตามมาด้วย วาล์วน้ำเปิดช้าด้วยไหม

Tanu · **Reply #74 on:** 10 Dec 2010, 18:09

Quote from: takapong on 04 Mar 2010, 19:45

Quote from: NONGG2500 on 04 Mar 2010, 19:28

ขอเสริมนิดนะครับ ขอเน้นเรื่องน้ำยาหล่อเย็น ขอแนะนำให้ใช้เสมอ
มีส่วนช่วยลดความร้อนและปกป้องไม่ให้เกิดสนิมในระบบหล่อเย็น

อันนี้เห็นด้วยอย่างแรง ผมก็เติมครับ ความร้อนกว่าจะขึ้น นานพอสมควรครับ วิ่งเอาแบบรู้สึกว่า ตกลงมันทำ เกจต์วัดความรู้ตรูพังรึป่าวไปเลย

น้ำยาหล่อเย็น ผมได้ยินว่ามันจะกัด หม้อน้ำใช่หรือเปล่าครับ....แต่ถ้าเราผสมแบบจางๆ หน่อย ....ก็น่าจะช่วยได้ ...(เห็นบางที่บอกว่าให้เติม สามลิตรเลยอ่ะครับ)

ถ้าลด อัตราส่วนเจือจางเป็นลิตรเดียว.....(ไม่รุ้ว่า ระบบน้ำของ เครื่อง จุน้ำได้กี่ลิตร).....

ก็คงไม่น่าจะทำให้หม้อน้ำผุได้มากนัก ....อาจจะช่วยล้างตะกรันได้บ้างอยู่ (คิดเอาเองนะ)

สรุปว่าเติม ดี หรือ ไม่เติมดี.....(บ้างก้ว่า ถ้าไม่เคยเติม ก้อย่าไปเติม)....งง...สับสนกับข้อมูลครับ

aor · **Reply #75 on:** 10 Dec 2010, 18:22

เติมซิครับ มันไม่ใช่เครื่องคูโบต้านะครับ จะได้ถึกทนเป็น... พี่ไปฟังใครพูดมาผิด ๆ ครับว่ามันกัดหม้อน้ำ
ไม่ต้องไปเจือจางอะไรเลย ลำพังประสิทธิภาพมันก็อยู่ได้ไม่กี่เดือนหรอก แล้วยิ่งพี่ไม่เคยถ่ายน้ำหล่อเย็นทิ้งอีกตะหาก ยังจะจางอีกหรือ
เติมใส่ลงไปให้มันหมดทั้งขวดนั่นแหละ

มือใหม่corsa · **Reply #76 on:** 10 Dec 2010, 18:50

เรื่องน้ำยารักษาหม้อน้ำหากใช้ถูกต้องในอัตราส่วนที่เหมาสมตามผลิตภัณฑ์นั้นๆกำหนดก็จะเป็นคุณ แต่ถ้าเข้มข้นเกินไปก็จะเป็นพิษภัยโดยฉะแพะ เอ๊ย....ม่ะช่าย เฉพาะหม้อน้ำที่เป็นอลูมิเนียม หากผสมน้อยเกินไปก็ไม่ค่อยจะมีผลในด้านการป้องกันรักษาระบบ การเติมน้ำยาต่างๆนั้นส่วนหนึ่งก็เพื่อไปเพิ่มจุดเดือดของน้ำให้สูงขึ้นกว่าน้ำธรรมดา บางยี่ห้อก็ช่วยรักษาสภาพของยางโอริงต่างๆในระบบระบายความร้อน เลือกใช้ของดีๆยี่ห้อของรถยนต์จะดีกว่าเพราะเค้าใช้กับรถยนต์ของเขาทุกคัน เพื่อนผมเคยใช้ไอ้น้ำยาเขียวๆรู้สึกว่าจะของสะเป็ดหรือไงเนี่ยครับกับรถโตโยต้า วีออส ตอนที่ถูกชนมาแล้วเข้าอู่เปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ของแท้ศูนย์ใช้ได้ประมาณ3เดือนหม้อน้ำรั่วเลยกลับไปเคลมเค้าแจ้งว่าไม่ใช้น้ำยาหม้อน้ำของโตโยต้าทำให้เสียหาย งานนี้เลยซวยไปเคลมไม่ได้ซื้อเปลี่ยนเองแล้วใช้น้ำยาหม้อน้ำของโตโยต้าเลย โดยเปลี่ยนปีละครั้งนี่ 3ปีละยังเฉยอยู่ ข้อมูลนี้ใช้วิจารณญาณเอาเองนะครับบอกให้ฟังเฉยๆไม่ได้ให้เชื่อหรือปฎิบัติตามแต่อย่างใดครับ

kamolwat_t · **Reply #77 on:** 11 Dec 2010, 00:35

เท่าที่ผม ทราบมานะครับ...

น้ำยาหม้อน้ำ จะมีหลายสูตร เคมีครับ

บางตัวจะใช้กับหม้อน้ำอะลูมิเนียมไม่ได้ครับ ทะลุเลยครับ...

ผมจำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไร แต่ที่แน่ๆ ไอ้ที่พี่สินขาย อ่ะครับเติมได้แน่นอน...แต่...

รถผมเติมทีไร... ชนทุกที...

หลังๆเลยไม่เติมล่ะ..

แต่ก็ยังชนอยู่

สรุปว่าไม่เกี่ยว..

Omega VIP · **Reply #78 on:** 11 Dec 2010, 11:45

Quote from: aor on 10 Dec 2010, 18:22

เติมซิครับ มันไม่ใช่เครื่องคูโบต้านะครับ จะได้ถึกทนเป็น... พี่ไปฟังใครพูดมาผิด ๆ ครับว่ามันกัดหม้อน้ำ
ไม่ต้องไปเจือจางอะไรเลย ลำพังประสิทธิภาพมันก็อยู่ได้ไม่กี่เดือนหรอก แล้วยิ่งพี่ไม่เคยถ่ายน้ำหล่อเย็นทิ้งอีกตะหาก ยังจะจางอีกหรือ
เติมใส่ลงไปให้มันหมดทั้งขวดนั่นแหละ

เอทิลลีนไกรคอล มีฤทธิ์กัดกร่อนอลูมิเนียมจริงๆครับ การใช้coolant ต้องใช้ตามอัตราส่วนที่กำหนวดครับ ส่วนน้ำยาของ Toyota สีชมพู เค้าเจือจางมาแล้วครับ สามารถเติมได้ทันที และ น้ำยาพวกนี้จะมีสารเติมแต่งหลายอย่าง ทั้งช่วยหล่อลื่นปั๊มน้ำ และ การเสื่อมสภาพของโอริง ท่อยางในระบบน้ำด้วย ที่สำคัญช่วยป้องการเกิดสนิมในท่อทางเดินน้ำ แล้วควรถ่ายน้ำหล่อเย็นทิ้งทุกๆ 1 ปี น้ำยาจะเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ เมื่อผ่านไปประมาณ 6 เดือน

มือใหม่corsa · **Reply #79 on:** 11 Dec 2010, 12:05

Quote from: Omega VIP on 11 Dec 2010, 11:45

Quote from: aor on 10 Dec 2010, 18:22
เติมซิครับ มันไม่ใช่เครื่องคูโบต้านะครับ จะได้ถึกทนเป็น... พี่ไปฟังใครพูดมาผิด ๆ ครับว่ามันกัดหม้อน้ำ
ไม่ต้องไปเจือจางอะไรเลย ลำพังประสิทธิภาพมันก็อยู่ได้ไม่กี่เดือนหรอก แล้วยิ่งพี่ไม่เคยถ่ายน้ำหล่อเย็นทิ้งอีกตะหาก ยังจะจางอีกหรือ
เติมใส่ลงไปให้มันหมดทั้งขวดนั่นแหละ

เอทิลลีนไกรคอล มีฤทธิ์กัดกร่อนอลูมิเนียมจริงๆครับ การใช้coolant ต้องใช้ตามอัตราส่วนที่กำหนวดครับ ส่วนน้ำยาของ Toyota สีชมพู เค้าเจือจางมาแล้วครับ สามารถเติมได้ทันที และ น้ำยาพวกนี้จะมีสารเติมแต่งหลายอย่าง ทั้งช่วยหล่อลื่นปั๊มน้ำ และ การเสื่อมสภาพของโอริง ท่อยางในระบบน้ำด้วย ที่สำคัญช่วยป้องการเกิดสนิมในท่อทางเดินน้ำ แล้วควรถ่ายน้ำหล่อเย็นทิ้งทุกๆ 1 ปี น้ำยาจะเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ เมื่อผ่านไปประมาณ 6 เดือน

แหม...เรานี่ฟลุ๊คจริงๆเดาถูกอีกแระ

Tanu · **Reply #80 on:** 13 Dec 2010, 10:29

Quote from: Omega VIP on 11 Dec 2010, 11:45

Quote from: aor on 10 Dec 2010, 18:22
เติมซิครับ มันไม่ใช่เครื่องคูโบต้านะครับ จะได้ถึกทนเป็น... พี่ไปฟังใครพูดมาผิด ๆ ครับว่ามันกัดหม้อน้ำ
ไม่ต้องไปเจือจางอะไรเลย ลำพังประสิทธิภาพมันก็อยู่ได้ไม่กี่เดือนหรอก แล้วยิ่งพี่ไม่เคยถ่ายน้ำหล่อเย็นทิ้งอีกตะหาก ยังจะจางอีกหรือ
เติมใส่ลงไปให้มันหมดทั้งขวดนั่นแหละ

เอทิลลีนไกรคอล มีฤทธิ์กัดกร่อนอลูมิเนียมจริงๆครับ การใช้coolant ต้องใช้ตามอัตราส่วนที่กำหนวดครับ ส่วนน้ำยาของ Toyota สีชมพู เค้าเจือจางมาแล้วครับ สามารถเติมได้ทันที และ น้ำยาพวกนี้จะมีสารเติมแต่งหลายอย่าง ทั้งช่วยหล่อลื่นปั๊มน้ำ และ การเสื่อมสภาพของโอริง ท่อยางในระบบน้ำด้วย ที่สำคัญช่วยป้องการเกิดสนิมในท่อทางเดินน้ำ แล้วควรถ่ายน้ำหล่อเย็นทิ้งทุกๆ 1 ปี น้ำยาจะเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ เมื่อผ่านไปประมาณ 6 เดือน

นั่นก้คือใช้ได้...แต่ให้ใช่ตามสัดส่วนที่กำหนด...อาจจะมีระบุไว้ที่ข้างขวด....และควรถ่ายน้ำทิ้งทุก 1 ปี

หากน้ำยาพร่อง.เล็กน้อย....อาจเติมน้ำเปล่าได้....หนือผสมน้ำยาใหม่แล้วเติม...ให้ถึงระดับ MAX...

ไม่ควร....เติมน้ำยาเข็มข้น...ลงไปผสมกับน้ำยาในกระปุกพักน้ำ...เพราะน้ำยาคูลแลนท์เข้มข้น....มีสารเคมีที่มีฤทธ์ กัดกร่อน อลูมิเนียม

...เช่น หม้อน้ำระบายความร้อน และท่อทางเดินต่างๆ

...ขอบคุณครับ...ชัดเจนแล้ว

joessnarin · **Reply #81 on:** 16 Mar 2011, 10:10

มีใครรู้บ้างครับว่าสวิตซ์หัวโตอยู่ตำแหน่งไหน? ขอความกรุณาด้วยครับผม

Korza · **Reply #82 on:** 16 Mar 2011, 10:48

หันหน้าเขาหารถ อยู่ตรงมุมซ้ายล่างสุดของหม้อน้ำครับ ต้องถอดหม้อน้ำออกมา หรือ ยกรถขึ้นแล้วนอนถอดครับ

มือใหม่corsa · **Reply #83 on:** 16 Mar 2011, 10:49

อยู่ข้างหม้อน้ำฝั่งหม้อกรองอากาศอ่ะครับด้านล่าง ถ้ายกรถขึ้นจะเห็นง่ายกว่าครับแต่ถอดยากถ้าไม่เอาหม้อน้ำออก เคยขันเสียไป 2ตัวแล้วอ่ะครับ

joessnarin · **Reply #84 on:** 16 Mar 2011, 10:52

Quote from: Korza on 16 Mar 2011, 10:48

หันหน้าเขาหารถ อยู่ตรงมุมซ้ายล่างสุดของหม้อน้ำครับ ต้องถอดหม้อน้ำออกมา หรือ ยกรถขึ้นแล้วนอนถอดครับ

Quote from: มือใหม่corsa on 16 Mar 2011, 10:49

อยู่ข้างหม้อน้ำฝั่งหม้อกรองอากาศอ่ะครับด้านล่าง ถ้ายกรถขึ้นจะเห็นง่ายกว่าครับแต่ถอดยากถ้าไม่เอาหม้อน้ำออก เคยขันเสียไป 2ตัวแล้วอ่ะครับ

ขอบคุณครับผม....จะลองดูครับผม...

News

[ การบำรุงรักษา ] corsa ความร้อนขึ้น**แนะนำให้อ่านนะครับ**

[ การบำรุงรักษา ] corsa ความร้อนขึ้นแนะนำให้อ่านนะครับ