[ การบำรุงรักษา ] corsa ความร้อนขึ้น**แนะนำให้อ่านนะครับ**

[plawahn]

คุณต้นครับ ผมก็ยังเจอปัญหาพัดลมทำงานช้าครับคือทำงานที่ 98 ตัดที่ 92 องศา พยายามหาสวิทช์หัวโตมาเปลี่ยน ได้มาคือ 82-60 , 89-68 , 88-83 องศา ผลที่ได้คือพัดลมทำงานแต่ไม่หยุดครับ รอจนสิบห้านาทีก็ยังไม่หยุดทำงาน เลยต้องถอดออกใส่ของเดิมไปก่อน ผมอยากได้สวิทช์ที่ T 95-90 องศา จะมีไหม ยังรอเปลี่ยนอยู่

ผมจำได้ว่ามันมี 92/87 นะครับ...

สงสัยอยู่ว่า... พัดลมรถยี่ปุ่นมันมีหยุดทำงานไหมฮะ... ผมก็เห็นมันทำตลอดอ่ะ.... 

ตัดฮะ แต่มันถี่มาก เปิดไว จริงๆ  เรยไม่ฮีต  555

[มือใหม่corsa]

ขอบคุณครับ ต้องลองจัดไป 92-87 องศา  ต้องแปลงปลั๊กด้วยอะป่าว

บอกให้ติดแอร์ที่หม้อน้ำมันก็ไม่ร้อนเองก็ไม่เชื่อ :( :( :(

[samrit_ad]

ขอบคุณครับ ต้องลองจัดไป 92-87 องศา  ต้องแปลงปลั๊กด้วยอะป่าว

บอกให้ติดแอร์ที่หม้อน้ำมันก็ไม่ร้อนเองก็ไม่เชื่อ :( :( :(

ย้ายแอร์ไว้ในห้องเครื่องย้ายหม้อน้ำไว้ในห้องโดยสารเหรอน้าหมอ

[มือใหม่corsa]

ขอบคุณครับ ต้องลองจัดไป 92-87 องศา  ต้องแปลงปลั๊กด้วยอะป่าว

บอกให้ติดแอร์ที่หม้อน้ำมันก็ไม่ร้อนเองก็ไม่เชื่อ :( :( :(

ย้ายแอร์ไว้ในห้องเครื่องย้ายหม้อน้ำไว้ในห้องโดยสารเหรอน้าหมอ

ไม่ช่าย....ให้ติดแอร์เป่าหม้อน้ำอีกตัวนึง

[Joofy]

รถพี่หนู..สวรรคโลก....หากันมา2รอบ...เค้าเปลี่ยนปั๊มมา...ผมมาถอดดูวาล์วน้ำปรากฎว่าไม่ได้ใส่มา...
ผมเรยใส่ไปให้(วาล์ว87ํ)...ปรากฎ...วิ่ง300เมตรขึ้น100เรย...ฝากเป็นอุทาหรณ์...สำหรับคนที่โดนถอดวาล์วน้ำมา...
แล้วความร้อนไม่จบ...หม้อน้ำตันครับ...ให้ล้างให้ตายก้อไม่ออกเพราะมันแน่นมาก...เด๋วผมจะเอารูปมาให้ดูว่ามันเป็นยังไง...
ถ่ายไว้แล้วครับ...เจ้าของยังตกใจเรย...เค้าบอกล้างมาแล้วนะ...บร๊ะเจ้า....

วิธีดูก้อลองถอดสวิทย์หัวโตออกมาแล้วคุณจะตะลึง...อิอิอิอิ

[Got]

ไม่ทราบท่านไดเขียนเอาไว้เรื่องนี่เอามาให้อ่านกันดู
ที่ว่าร้อนเพราะคุณตกใจ
กับตัวเลขบอกอุณหภูมิของรถรุ่นนี้รึเปล่า?

อย่าไปตกใจ
ถ้าความร้อนขึ้นลงระหว่าง 95 ถึง 100-105 องศา
เพราะเป็นช่วงความร้อนปกติ
ไม่ใช่โอเวอร์ฮีท

อุณหภูมิที่โอเวอร์ฮีทอยู่ที่ประมาณ 120 องศา
ตราบใดที่พัดลมไฟฟ้าของรถยนต์ทำงานปกติ
คือมีแรงดูดลมสูงเหมือนเดิม
ไม่ได้ไปเปลี่ยนของเทียมหรือพันใหม่

วิธีสังเกตว่าความร้อนถ่ายเทปกติหรือไม่?
โดยการติดเครื่องยนต์จนความร้อนขึ้นสูงสุด
ก่อนพัดลมไฟฟ้าจะทำงาน (ไม่เปิดแอร์)

เช่น ขีดความร้อนสูงถึง 100-105 องศา
แล้วพัดลมเริ่มทำงาน
ภายใน 5 นาที
ความร้อนจะลดลงเหลือประมาณ 95 องศา
แล้วพัดลมหยุดทำงาน

ปล่อยให้ความร้อนขึ้นสูงต่อไป
สังเกตดูว่าเมื่อถึง 100-105 องศา
พัดลมทำงานอีกครั้งหรือไม่
อย่างนี้เรียกว่าปกติครับ

ถ้าเปิดแอร์ พัดลมแอร์จะช่วยลดความร้อน
เพิ่มอีก 1 ตัว ความร้อนอาจลดต่ำกว่า 95 องศา
เป็นเพราะการระบายความร้อนถูกสั่งให้พัดลม
ทำงานนานขึ้นและมีพัดลมที่ 2 ช่วยด้วย
ตราบเท่าที่คอมแอร์ยังไม่ตัด
บางครั้งพบว่าอุณหภูมิลดลงเหลือ 90 องศา

ลองปิดแอร์อีกครั้ง
แล้วรอให้ความร้อนขึ้นสูงถึง 100-105 องศา
สังเกตว่าเป็นเหมือนเดิมตอนที่ทดลองแบบ
ไม่เปิดแอร์หรือไม่

ถ้าใช่ ถือว่าปกติครับ

อีกเหตุหนึ่งที่จะทำให้โอเวอร์ฮีทคือ
ระบบน้ำหล่อเย็นมีการรั่วซึม
ทำให้ไม่สามารถเก็บแรงดันได้
เมื่อไม่มีแรงดัน หรือแรงดันไม่สูงเท่าเดิม

จุดเดือดของน้ำจะลดลงจากปกติ 120 องศา
อาจเหลือ 110 องศา หรือ 100 องศา
อย่างนี้โอเวอร์ฮีทแน่นอน
และน้ำจะรั่วซึมออกจนหมด

วิธีสังเกต ให้ดูกระปุกเก็บน้ำทุกเช้า
หากน้ำลดหายจากระดับเดิมเร็ว
ต้องคอยเติมบ่อยๆ
อาการนี้บอกให้เรารู้ล่วงหน้าว่า
เริ่มจะมีรอยซึมเล็กๆแล้วล่ะครับ

ต้องแก้ไขไม่ให้มีจุดรั่วซึม
จึงสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ตามสเป๊กครับ

รถยี่ห้ออื่น ขีดบอกความร้อน
จะช่วงกว้างกว่าโอเปิล
การแกว่งขึ้นลงของอุณหภูมิน้อยมาก
จนจับสังเกตไม่ได้ ถึงไม่ได้เลย
มันบอกตั้งแต่อุณหภูมิ 40 ถึง 120 องศา

ถึงเข็มอุณหภูมิชี้ที่ 105 องศา
ก็ดูยังห่างจากขีด 120 องศามาก
ไม่ตกใจเหมือนโอเปิล
ที่บอกแค่ 90 ถึง 110 องศาเท่านั้น

ทำความเคยชินเสีย
หมั่นสังเกตความร้อนบ่อยๆ
ให้เป็นนิสัย
รับรองว่าคุณขับรถคันไหน
คุณจะไม่มีพลาด
เกิดอาการโอเวอร์ฮีท แน่นอน

[Got]

เครื่องทนได้แต่คนขับทนไม่ได้

[takapong]

อย่างงี้ต้องไปเปลี่ยนเลขให้ช่วงมันกว้างงงงงงงงงงงงงงงง  เอาจาก 90 - 100 ซัก 20 ขีด 

[kamolwat_t]

อืม.... ขออธิบายให้ความเข้าใจตรงกันแล้วกันนะครับเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเข้าใจกันผิด.....

1.เรื่องของความร้อนของรถ opel เรานั้น

โดยปรกติ เดิมๆเลย ถ้าใช้ของสเปกเดิมๆ ทุกอย่าง หัวโตทำงานที่ 100/95 บ้าง 105/100 บ้าง เพราะว่ามันนำเข้ามาหลายล็อตครับ..ไม่ว่ากัน

ในกรณีที่ระบบปรกติ เรารู้อยู่แล้วว่าเราเลือกที่จะเปลี่ยนระบบให้มันเดิมๆจริงๆ เช่นรถผม คัน corsa พัดลมทำงานสเตป 2 ที่ 95 ครับ แล้วมันก็จะลงมาที่ 90-92 แล้วก็หยุด เป็นความเร็วปรกติบ้าง หยุดหมุนบ้าง อันนี้เป็นเพราะว่าผมตั้งใจให้ระบบมันทำงานในช่วงนั้นดู ว่ามันจะเป็นอย่างไรเท่านั้นเองครับ เวลาที่ผมต้องขับอัดรถโหดๆเช่นเวลาลงสนามผมมีปลั๊กแยกอีก 1 ตัวของพัดลมให้ทำงานที่สเตบ 2 เลยโดยยิงไฟมาจากแบต และอีกตัวไปที่พัดลมแอร์ โดยมีฟิวล์ 30A คุมเอาไว้ เส้นละตัว เพราะว่าเคยลองมาแล้วครับ ถ้าไม่ทำเช่นนี้ ความร้อนขึ้นแตะ 100 วาวล์ดังระงมเลย เลยต้องทำระบบรองรับการขับขี่ 2 แบบ

อ้อมไปซะไกลเลยเอาเป็นว่า ถ้าเรารู้ว่ารถเรามันมีช่วงการทำงานของความร้อนที่ช่วงใดก็ไม่ต้องห่วงครับ หมั่นคอยเช็คระบบอยู่บ่อยๆ ท่อทางต่างๆ  วาวล์น้ำ สวิตท์พัดลม และแผงหม้อน้ำดีๆครับ ถ้ามันผิดไปจากมาตราฐานที่เคยเป็นอยู่ให้ระวังงานเข้าเอาไว้....

2. เซนเซอร์อุณหภูมิของระบบหล่อเย็น และ สวิตท์ควบคุมพัดลมมันอยู่คนละที่กันนะครับ  ไม่ใช่ว่า เกจ์ความร้อนอยู่ที่ 100 แล้วรถจะไม่พังนะครับ... ฟังเสียงเครื่องยนต์ดีๆถ้ามัน 100 จริงๆมันยังขับได้ครับ แต่ถ้ามีเสียงวาวล์เขกมาแล้วนี่... จอดดับเครื่องเลยครับ อย่าเสียง ค่าความเสียง นับเป็นวินาทีครับ ค่าใช้จ่ายคิดเป็นวินาทีครับ เกิดว่าเราพลาด ดับเครื่องไม่ทัน... มันน็อคไปเอง... โชคดี ก็คือ ไม่เป็นอะไรเลยแต่เสียเวลา โชคร้ายก็โก่งครับ 10000 นึงได้ทอนค่าแทกซี่แน่นอน อย่าชะล่าใจถ้ามันรถติด ก็ดับเครื่องมันกลางถนนเลยครับ เปิดไฟขอทาง แล้วเปิดกระโปรงหน้าเอาไว้ก่อน ไม่ต้องไปยุ่งกับระบบหม้อน้ำนะครับเดี๋ยวจะบาดเจ็บเพราะความรู้เท่าไม่ถึงกาล

- หมุนกุญแจไปที่ ON ทุก 10 นาทีเพื่อเช็คความร้อน แต่ห้ามสตาท์ในทันที โก่งแน่นอนครับ

- พอความร้อนตามเกจ์ลดลงมาที่ 92-90 ให้เปิดฝาหม้อน้ำโดยเอาผ้าเช็ครถมาหุ้มมือไว้หนาๆแล้วค่อยๆเปิดครับ ไม่ก็เสื้อเราเนี้ยแหละ ต้องเลือกเอาว่าจะไปต่อแล้วซักที่บ้านหรือว่า จะนั้งตบยุงต่อแล้วครับ

- เช็คก้านวันน้ำมันเครื่องว่ามีสีกาแฟเย็นหรือไม่ ถ้าซวยมันจะลงไปในระบบหล่อลื่นครับ แล้วดูที่หม้อพักน้ำว่า มีไขของน้ำมันหรือไม่ด้วยครับ ถ้าไม่มีถือว่าโช้คดี

- ค่อยๆเติมน้ำครับ อย่ารีบเดี๋ยวน้ำเย็นมันไปเจอกับ เสื้บสูบร้อนจัดๆ มันก็จะโกงอีก ใจเย็นๆนะครับ

- ทำครบหมดแล้ว กลั้นใจแล้ว สตาท์ ครับ นึกถึงสิ่งยึดเหนี่ยวใดๆก็ได้ครับ แต่อย่านึกถึงหน้าพี่สินหรือพี่เข้... เดี๋ยวจะได้ไปหาแก...    ขอให้โชคดีครับ

ท่องเอาไว้นะครับ ถ้าระบบมีปัญหา จาก 90 ขึ้นไป 100 ใช้เวลา 1-5 นาทีเท่านั้นครับขึ้นอยู่กับว่าปัญหาเกิดจากอะไรครับ ผมไม่กล้าที่จะให้เสี่ยงนะครับ ค่าเสี่ยงมันสูง

3. เครื่องยนต์โดยทั่วไปถูกออกแบบมาให้ทำงานที่อุณหภูมิโลหะฝาสูบที่ 90-105 นะครับ ถ้าไปใส่เซ็นเซอร์แบบเกจ์แยกมาใช้ ก็ํระวังเข้าใจผิดนะครับ เห็นว่ามันไม่เท่ากันมันเพราะว่าแค่วัดกันคนละจุดครับ อย่าชะล่าใจ...

4. ในเครื่องยนต์ บางรุ่น พัดลมสเต็ป 2 ถูกพ่วงการทำงานเอาไว้กับระบบแอร์ ครับ(เช่นโอเมก้าและเวคตร้า...รุ่นอื่นผมไม่ชัวร์นะครับ) เปิดแอร์แล้วพัดลมจะทำงาน 2 ตัวแต่ในเครื่องของ corsa ที่มันดันมาประกอบแอร์ในบ้านเรา มันไม่ได้ต่อระบบนั้นครับ... พอเครื่องร้อน จะเปิดพัดลมทำงาน ปรากฏว่า ดันร้อนกว่าเดิมเพราะ่ว่าโหลดที่เครื่องมันสูงขึ้นนะครับ... คอยสังเกตุดีๆครับ ว่ารถเราโดนใครดัดแปลงอะไรมาบ้างหรือเปล่า มาตราฐานเดิมๆ บางทีโดนแก้ไปโดยฝีมือของ ช่างข้างทางไปเรียบร้อยแล้วครับ แต่ละคันต้อง เช็คก่อนว่าเราโดนแปลงอะไรมาบ้างนะครับ  

กรณีของ จขกท ผมพอรู้แล้วว่าเป็นที่อะไร แต่ขอ จับได้คาหนังคาเขาก่อนครับ จะได้เป้นตัวอย่างในการเช็คระบบแก่สมาชิกท่านอื่นๆครับ  

[teeracha]

 :มั้ง:พอคุยเรื่องความร้อน ผมขอคุยและตั้งข้อสังเกตุในเรื่องนี้เหมือนกัน เรื่องความร้อนในขณะใช้น้ำมัน vs ใช้แก๊ส
ก่อนอื่นบางคนยังไม่ทราบเรื่องระบบที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ของรถผม ผมของอธิบายดังนี้ครับ
-ระบบระบายความร้อน ของผมใช้ วาล์วน้ำและสวิทชพัดลม ตามเสปก opel ครับไม่ได้ดัดแปลง หม้อน้ำเป็นหม้อน้ำอลูมิเนียมแบบยาวของ astra ตัวนอก พัดลมไฟฟ้าของ GM แต่ไม่ตรงรุ่นครับไม่รู้รุ่นไหนต้องถามเจ้าของเก่าอะ แต่แรงดีมากครับ
- ระบบแก็ส หัวฉีด aurtronic

ความร้อนอ้างอิงที่หน้าปัด
พัดลมระบายความร้อน ต่อที่ 95-96 ตัดที่ 90-92 ตรงนี้คล้ายของต้น
ปกติในระบบน้ำมัน รถติดแดดร้อนสุดๆ 98 (นานๆเจอที) รถติดในเมืองแดดร้อนๆ 95 เดินทางไกลใช้ความเร็ว 89-92
ปกติในระบบแก็ส จะต่ำกว่าใช้น้ำมันประมาณ 1-2 องศา ครับ อันนี้สังเกตุจนแน่นอนแล้ว

ถึงตรงนี้อยากตั้งสมมุติฐานตรงที่ในระบบแก็สเราดึงน้ำร้อนจากหลังเครื่องมาต้มแก็สทำให้น้ำร้อนที่กลับสู่หม้อน้ำอุณหภูมิลดลง
มีผลต่อความร้อนในระบบลดลง อันนี้ผมเดาๆ จากคนงานยุ่งๆ ไม่ได้คิดวิเคราะห์อย่างละเอียดรอบคอบนะครับ ก็เลยอยากคุยว่ามันมีสาเหตุ
อื่นอีกหรือเปล่านอกเหนือจากที่เกิดเหตการณ์ดังที่ผมเป็น หรือแนวคิดผมนี้ไม่ถูกต้องหรือไม่ ใครพอมีแนวคิดช่วยออกความคิดเห็นด้วยครับ

[kamolwat_t]

สงสัยว่า เซ็นเซอร์น้พมันต้องอยู่หลังท่อไหลกลับของ หม้อต้แก๊สแน่ๆเลยครับ ถ้าใช้แก๊สแล้ว อุณหภูมิต่ำลงอ่ะครับ 

[Joofy]

เครื่องทนได้แต่คนขับทนไม่ได้

ผมอยากรู้ว่าเกจน์นี้ของรถอะไร...เพราะโอเปิ้ล...สตาร์ท90องศาต่ำ1ขีด...ถ้าเกจน์ความร้อนมันเป็นแบบนี้ผมคงไม่ตกใจ...
อย่างดีแมกซ์ที่บ้านครึ่งนึงมันยังไม่90เรย...ต้องดูว่ามันอยู่ที่เท่าไหร่และควรอยู่ที่เท่าไหร่...ตอนนี้ผมทำวาล์วน้ำที่87ทำงาน...
ถ้าหม้อน้ำไม่ตันก้อไม่ขึ้น90แต่ถ้าตัน100ของโอเปิ้ลก้อยันเกจน์แล้ว...ดังนั้นเราจะพูดถึงมาตรฐานต้องอ้างอิงมาตรฐานของรถนั้นๆ...
ไม่ควรเอาเกจน์ของรถอื่นมาตรฐานอื่นมาเป็นเกณฑ์นะครับ...ขอบคุณครับ....

[teeracha]

สงสัยว่า เซ็นเซอร์น้พมันต้องอยู่หลังท่อไหลกลับของ หม้อต้แก๊สแน่ๆเลยครับ ถ้าใช้แก๊สแล้ว อุณหภูมิต่ำลงอ่ะครับ 

อืม... ต้นพูดมีเหตุผลครับ เดี๋ยวว่างๆ จะตรวจสอบ

[หนานมา]

สงสัยว่า เซ็นเซอร์น้พมันต้องอยู่หลังท่อไหลกลับของ หม้อต้แก๊สแน่ๆเลยครับ ถ้าใช้แก๊สแล้ว อุณหภูมิต่ำลงอ่ะครับ 

อืม... ต้นพูดมีเหตุผลครับ เดี๋ยวว่างๆ จะตรวจสอบ

อ่าาาา.... ผมว่ามันเป็นอย่างที่อาจารย์ ว่ามาอะครับ

ในกรณีที่เราไม่ได้ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงเนี่ย น้ำมันก้อแค่มาวนผ่านหม้อต้มเฉยๆ อาจถูกระบายความร้อนออกไปบ้างโดยตัวหม้อต้มเองเพียงเล็กน้อย

แต่เมื่อ เราใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง ความร้อนของน้ำที่หม้อต้ม จะถูกแก๊สนำพาเอาไปด้วย

ถ้าใครเคยเจอเหตุการณ์ สายน้ำร้อนที่หม้อต้มตัน ก้อจะรู้ว่า ขนาดห้องเครื่องร้อนๆ หม้อต้มมันยังเย็นจนน้ำแข็งเกาะได้เลยครับ
เคยได้ยินเขาบอกมาแต่ไม่ได้ใส่ใจมากนักว่า เมื่อ อากาศวิ่งผ่านวัสดุ หรือ รูแคบๆ อะไรนี่แหละ มันจะนำพาความร้อนนะจุดนั้นออกไปด้วย
เมื่อมันผ่านออกไปไว(ด้วยแรงดันของมันเอง) มันก้อเอาความร้อนออกไปไวด้วย ประมาณนั้นอ่ะครับ...

[หนานมา]

เครื่องทนได้แต่คนขับทนไม่ได้

ผมอยากรู้ว่าเกจน์นี้ของรถอะไร...เพราะโอเปิ้ล...สตาร์ท90องศาต่ำ1ขีด...ถ้าเกจน์ความร้อนมันเป็นแบบนี้ผมคงไม่ตกใจ...
อย่างดีแมกซ์ที่บ้านครึ่งนึงมันยังไม่90เรย...ต้องดูว่ามันอยู่ที่เท่าไหร่และควรอยู่ที่เท่าไหร่...ตอนนี้ผมทำวาล์วน้ำที่87ทำงาน...
ถ้าหม้อน้ำไม่ตันก้อไม่ขึ้น90แต่ถ้าตัน100ของโอเปิ้ลก้อยันเกจน์แล้ว...ดังนั้นเราจะพูดถึงมาตรฐานต้องอ้างอิงมาตรฐานของรถนั้นๆ...
ไม่ควรเอาเกจน์ของรถอื่นมาตรฐานอื่นมาเป็นเกณฑ์นะครับ...ขอบคุณครับ....

แบบนี้หรือเปล่า...

ภาพแรก...รถติดตอนสงกรานต์ที่นครสวรรค์ + พัดลมแอร์เดี้ยง
ภาพสอง...ใช้ความเร็วประมาณนั้นแหละ ตอนเที่ยงลากยาวประมาณ ร้อยกว่าโล

เหตุการณ์ทั้งสอง...ไม่ตกใจครับ อยู่ในพิกัดของเครื่องที่จะทนได้  

[teeracha]

 :Dเรื่องความร้อนของ opel ในความคิดของผมไม่ว่าเราจะปรับแปลงอย่างไร ถ้าความร้อนอยู่ระหว่าง 90 - 100 ไม่น่าตกใจเหมือนที่คุณหนานมาบอกนี่แหละครับ

 :oส่วนตัวผมที่น่าตกใจก็คือ
1. ถ้าเข็มมันชี้เกิน 100 แล้วยังไงก็ไม่ลง
2. ความร้อนต่ำถึงโซนสีฟ้า แล้วยังไงก็ไม่ขึ้น
3. พัดลมทำงานตลอดไม่เคยตัด
4. พัดลมไม่ทำงานเลย ไม่ว่าความร้อนสูงขึ้นจนถึง 100 ก็ตาม หรือพัดลมไม่ต่อในย่านอุณหภูมิของสวิทชพัดลมที่เลือกใช้ (ของผม 96 ครับ)
5. น้ำในหม้อพักน้ำหายจากระดับปกติ ในระหว่างเครื่องเย็น หรือมีคราบน้ำหม้อน้ำตามท่อทางต่างๆ
6. อันนี้ผมกลัวสุดเพราะเคยเจอมากับตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ท่อน้ำพลาสติกหลังเครื่องแตก
น้ำหม้อน้ำพุ่งกระจาย ของผมมันไม่รั่วเหมือนคนอื่นด้วยสิ

จากข้อมูลที่พี่ๆ น้องๆ เราประสบมาและคำแนะนำต่างๆ ข้อ1 - ข้อ5 ผมว่าแก้ไขและสังเกตุได้ในทางปฎิบัติ
ส่วนข้อ 6. ถ้าใครไม่เคยเปลี่ยน เปลี่ยนเสียเลยครับไม่กี่บาท อย่าปล่อยให้เป็นเหมือนผมเลย 

[teeracha]

เครื่องทนได้แต่คนขับทนไม่ได้

ผมอยากรู้ว่าเกจน์นี้ของรถอะไร...เพราะโอเปิ้ล...สตาร์ท90องศาต่ำ1ขีด...ถ้าเกจน์ความร้อนมันเป็นแบบนี้ผมคงไม่ตกใจ...
อย่างดีแมกซ์ที่บ้านครึ่งนึงมันยังไม่90เรย...ต้องดูว่ามันอยู่ที่เท่าไหร่และควรอยู่ที่เท่าไหร่...ตอนนี้ผมทำวาล์วน้ำที่87ทำงาน...
ถ้าหม้อน้ำไม่ตันก้อไม่ขึ้น90แต่ถ้าตัน100ของโอเปิ้ลก้อยันเกจน์แล้ว...ดังนั้นเราจะพูดถึงมาตรฐานต้องอ้างอิงมาตรฐานของรถนั้นๆ...
ไม่ควรเอาเกจน์ของรถอื่นมาตรฐานอื่นมาเป็นเกณฑ์นะครับ...ขอบคุณครับ....

แบบนี้หรือเปล่า...

ภาพแรก...รถติดตอนสงกรานต์ที่นครสวรรค์ + พัดลมแอร์เดี้ยง
ภาพสอง...ใช้ความเร็วประมาณนั้นแหละ ตอนเที่ยงลากยาวประมาณ ร้อยกว่าโล

เหตุการณ์ทั้งสอง...ไม่ตกใจครับ อยู่ในพิกัดของเครื่องที่จะทนได้  

แปลกจัง ตอนยังไม่ติดแก็สรถคุณหนานมาน้ำมันนิดเดียว พอติดแก้แล้วน้ำมันเกือบเต็มถัง
 ;)แวะไประยองจะขอแบ่งน้ำมันบ้างนะครับ  เอาแมวลายไปแลก

[kamolwat_t]

:Dเรื่องความร้อนของ opel ในความคิดของผมไม่ว่าเราจะปรับแปลงอย่างไร ถ้าความร้อนอยู่ระหว่าง 90 - 100 ไม่น่าตกใจเหมือนที่คุณหนานมาบอกนี่แหละครับ

 :oส่วนตัวผมที่น่าตกใจก็คือ
1. ถ้าเข็มมันชี้เกิน 100 แล้วยังไงก็ไม่ลง
2. ความร้อนต่ำถึงโซนสีฟ้า แล้วยังไงก็ไม่ขึ้น
3. พัดลมทำงานตลอดไม่เคยตัด
4. พัดลมไม่ทำงานเลย ไม่ว่าความร้อนสูงขึ้นจนถึง 100 ก็ตาม หรือพัดลมไม่ต่อในย่านอุณหภูมิของสวิทชพัดลมที่เลือกใช้ (ของผม 96 ครับ)
5. น้ำในหม้อพักน้ำหายจากระดับปกติ ในระหว่างเครื่องเย็น หรือมีคราบน้ำหม้อน้ำตามท่อทางต่างๆ
6. อันนี้ผมกลัวสุดเพราะเคยเจอมากับตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ท่อน้ำพลาสติกหลังเครื่องแตก
น้ำหม้อน้ำพุ่งกระจาย ของผมมันไม่รั่วเหมือนคนอื่นด้วยสิ

จากข้อมูลที่พี่ๆ น้องๆ เราประสบมาและคำแนะนำต่างๆ ข้อ1 - ข้อ5 ผมว่าแก้ไขและสังเกตุได้ในทางปฎิบัติ
ส่วนข้อ 6. ถ้าใครไม่เคยเปลี่ยน เปลี่ยนเสียเลยครับไม่กี่บาท อย่าปล่อยให้เป็นเหมือนผมเลย 

นั้นสิครับ อ. หลังๆ รถที่มันปรกติความร้อนจะไม่ขึ้นไปเกิน 98 แล้วครับ... เพราะว่า...

1. พอมันเกิน 95 เจ้าของก็ตกใจไปร้านหม้อน้ำ ที่ร้านมันก็แปลงให้ ต่อพัดลมตรงบ้าง ถอดวาวล์น้ำบ้าง

2. ถ้าไปทำที่อู่ opel ที่อู่ก็จะเปลี่ยนวาวล์น้ำและหัวโต ที่มันทำงานเร็วขึ้นเพื่อความสบายใจของเจ้าของรถ ไม่ก็เปลี่ยนให้สเปคปรกติก็เอาอยู่เพราะว่า ของเก่ามันเสื่อมมีตระกัน

ทำให้ช่วงหลังๆ ระยะ 2 ปีมานี่ มีคนสอบถามผมเรื่องความร้อน พอให้ไปไล่เช็คตามลำดับการตรวจสอบ จะ เจอว่า

1. วาวล์น้ำเสื่อมอันดับแรก ซื้อรถมาไม่เคยเปลี่ยนเลยปรากฏว่าตระกรันเพียบ วาวล์ตาย

2. สวิตท์หัวโตที่สั่งให้พัดลมทำงาน มันทำงานช้าไป อาจจะเพราะว่า ตระกรันมันพอกเยอะ ไม่ก็เสื่อม อีกกรณีคือพัดลมต่อตรงแล้วอยากจะทำให้เป้นเหมือนเดิมครับ

3. ตัวพัดลมโดนแปลงมาเป็นของยี่ปุ่น เมื่อใช้กับหัวโตเดิมมัน ทำงาน ช้าไปนิดเมื่อเทียบกับแรงลมที่พัดลมสร้างได้ (เครื่อง x16 ใน corsa ของผมต่อพัดลมตรงมาก่อน เป็นพัดลมยี่ปุ่น ขับยังไงก็ความร้อนไม่เกิน 90 แปลว่าระบบอื่นมันปรกติดีครับ)

4. หม้อน้ำัตันถอดล้างก็หาย ไม่ก็ตันมากต้องเปลี่ยน แต่ถ้าส่วนมากเจอจะเป็น หม้อน้ำอลูมิเนียม ของ opel มันร้าวที่กรอบด้านข้างครับ มีน้ำซึม และหายไปจากหม้อพัก ผมจะให้เปลี่ยนเป็น ทองแดงซะจะได้ดูแลรักษาง่ายๆ

แต่ถ้าฮีตเลยมักจะเจอ

1. วาวล์น้ำตายกระทันหันแล้วรถติด

2. ท่อหนวดปลาหมึกหลังเครื่อง แตก

3. พัดลมพัง

4. ฝาผุฝาโก่ง

5. ท่อหลุด ท่อบวม

ประมาณเนี้ยอ่ะครับที่ผมเจอ สาเหตุของการเสียจากคนที่โทรเข้ามาปรึกษาผมนะครับ...

ไม่เคยเจอว่า เปลี่ยน วาวล์น้ำแล้ว เปลี่ยน สวิตท์แล้ว (ปรกติแค่ 2 อย่าง) เปลี่ยนหม้อน้ำแล้ว ความร้อนยังขึ้นไปแตะ 100 ครับ ในกรณีที่น้ำไม่หายนะครับ 

[หนานมา]

แปลกจัง ตอนยังไม่ติดแก็สรถคุณหนานมาน้ำมันนิดเดียว พอติดแก้แล้วน้ำมันเกือบเต็มถัง
 ;)แวะไประยองจะขอแบ่งน้ำมันบ้างนะครับ  เอาแมวลายไปแลก

เหอะๆๆๆ ภาพแรกก้อติดแล้วหล่ะครับอาจารย์ แต่ว่ามันอยู่ด้านข้าง มองไม่ค่อยถนัด
ก้อเลยย้ายมันมาไว้ข้างหน้าซะเลย เรื่องน้ำมัน ผมเติม(เต็มถัง)เพียงปีละครั้งครับ...

[opel-tak]

ต้น
เดิม ๆ แล้วรถคันนี้ มีการต่อพัดลมตรง และ วาวล์น้ำมีการตัดสปริงออก (เหลือแต่โครง) ความร้อนตอนรถวิ่งก็ 90 - 92  แต่ตอนติดไฟแดง จะค่อย ๆวิ่ง ไปถึง 98 แล้วพอรถวิ่ง ก็จะลดลงมา ก็เลยให้ช่างเปลี่ยน วาลว์น้ำ ที่ 87ของยุโรป และสวิทย์หัวโต ที่ 92-87 แล้วลองวิ่งดูจะสังเกตุว่าความร้อนจะนิ่งอยู่ที่ 92-94 แต่ติดไฟแดงจะวิ่งไปประมาณ 98 
เลยให้ช่างลองกลับไปจุดเดิม ตามที่ต้ให้ลอง คือต่อพัดลมตรง ใส่วาวล์น้ำเดิม (ตัวที่ตัดสปริง) ลองวิ่งดู ก็อาการเหมือนเดิม ครับคือ ร้อนเหมือนเดิม 
(ที่ทำไปแล้ว เปลี่ยนท่อลาสติก / ล้างหม้อน้ำ / เปลี่ยนวาลว์น่ำ / สวิทย์หัวโต.
ที่ยังไม่ทำ พัดลม / พัดลมแอร์ / หม้อน้ำ/ ฝาปิดหม้อน้ำ

เอ้าแวทำไงต่อครับ

[kamolwat_t]

เปลี่ยนหม้อน้ำครับ ผมว่าหม้อน้ำตันแน่นอน 

[Joofy]

เปลี่ยนหม้อน้ำครับ ผมว่าหม้อน้ำตันแน่นอน 

+1ครับ...เด๋วผมเอารูปที่ล้างหม้อน้ำแล้วมาโชว์

[Joofy]

นี่ครับ...หม้อน้ำล้างมาแล้ว...
ผมมองว่าถ้าตันกันขนาดนี้ล้างไงก้อไม่ออก...
ตรงนี้เป็นจุดที่ผมตัดวาล์วน้ำออกให้เห็นกันจะจะไปเรย...ดูเอาเองครับ...

ปล.นี้ลูกน้องผมล้วงออกมาบ้างแล้ว...ตอนแรกเต็มๆแน่นรูเรย

[มือใหม่corsa]

โอ๊ะโอ๋......ป๋าจุ๊ฟฟี่ เอาน้ำคลองเติมหรือครับเนี่ย

[หนานมา]

โอ๊ะโอ๋......ป๋าจุ๊ฟฟี่ เอาน้ำคลองเติมหรือครับเนี่ย

มันไม่เพียงแค่ตันนะครับ ลุงน้าป๋าทวดหมอ มันยังกัดกระจายอีกด้วยครับ มะรู้ว่าฟันมันงอกมาจากไหน...

[มือใหม่corsa]

น่ากลัวแฮ่ะ  ตั้งแต่เจอรูปของน้านพเนี่ยที่โพสไว้ก่อนหน้านี้ผมเลยใช้แต่น้ำกรองแบบ RO เติมตลอดเลยกลัวจะเป็นมั่งอ่ะ

[PeeSard]

เติมน้ำยาดีๆ ปีนึงๆก็ไม่ควรเฉยเมย.. ถอดท่อออกมาล้างบ้าง
เอาน้ำประปายิงเข้าไปในหม้อน้ำเลยก็ได้ จนเห็นว่าน้ำไม่ขุ่นแล้วก็ต่อท่อกลับเข้าเครื่องเหมือนเดิม
เติมน้ำไปประมาณนึงก่อน เทน้ำยาคูลแล้นท์ ให้หมดกระปุก แล้วเติมน้ำเปล่าตามให้ได้ระดับพอดี

ส่วนเรื่องท่อต่างๆที่เป็นเหล็ก แก้ไขเป็นเลสได้ก็ทำเลยนะ..ทั้งทั้งพลาสติดก็แปลงไปเลยเช่นกัน
ส่วนท่อยาง..คงไว้เช่นเดิม แต่ถ้ามันงอวนไปวนมาเยอะจัด ก็หาเทียบที่มันไม่วนเยอะก็ได้
คงไม่มีผลกระทบในทางลบมากเท่าแบบเดิมแน่นอน..
เพราะยางมันก็ไม่ได้ระบายความร้นได้ดีเท่ากับพวกทองเหลือง อลูมิเนียม
และท่อยางยาวไป โอกาสบวม+ระเบิดก็มีมากขึ้น

[kamolwat_t]

อุปกรณ์ หลายๆอย่าง ผมว่าอาจจะต้องมีการดัดแปลงของวัสดุ ให้มันเหมาะกับการใช้งานในบ้านของเราครับ...เช่น

หม้อน้ำ ถ้าอยู่ต่างจังหวัดก็เปลี่ยนเป็น ทองแดงซะเวลาซ่อมจะได้ซ่อมได้ไม่มีการแตกด้านข้าวอีก ไม่ก็เปลี่ยนด้านข้างให้มันเป็น อลูไปทั้งใบซะเลย แต่ระวังหมาข้ามถนนฮะ ชนไปทีอลูฉีก บางจังหวัดซ่อมไม่ได้ ต่างกับทองแดง...

ท่อหนวดปลาหมึก มันจะอยู่ในตำแหน่งที่มองไม่ค่อยเห้นครับ ถ้า มันพังเปลี่ยนเป็นสแตนเลทไปซะก็ได้ แต่ว่าพยายามใช้ขนาดเดิมนะครับ อย่าไปเปลี่ยนขนาดมัน เพราะว่า มันมีผลกับอัตราการไหลเวียนของน้ำหล่อเย็นครับ...

ลองดูครับ ค่าใช้จ่ายจะได้จ่ายน้อยลงได้บ้างบางส่วน... 

[Nu_Paiy]

ความร้อนขึ้นแล้ววเหมือนกันเจ้าค่ะ....

รอบแรก..
เปลี่ยน
-ท่อน้ำหลังเครื่อง (รั่ว)
-วาวล์น้ำ
-ปั๊มน้ำ



ขับลัลล๊าได้ 2-3 วัน เปนอีกแร้วววเจ้าค่ะ...รีบซิ่งเข้าอู่
สรุปว่ารอบนี้เปลี่ยน
-หม้อน้ำ (รั่ว) T.T
-สวิตช์หม้อน้ำ...


สรุป 2 อาทิตย์ เปลี่ยนไปเกือบหมดทุกอย่าง...


ถ้ายังร้อนอีกนะ...ฮึ....




นู๋ก้อยังจะเอาเข้าอู่เหมือนเดิม...



55555

[2000ips]

อุปกรณ์ หลายๆอย่าง ผมว่าอาจจะต้องมีการดัดแปลงของวัสดุ ให้มันเหมาะกับการใช้งานในบ้านของเราครับ...เช่น

หม้อน้ำ ถ้าอยู่ต่างจังหวัดก็เปลี่ยนเป็น ทองแดงซะเวลาซ่อมจะได้ซ่อมได้ไม่มีการแตกด้านข้าวอีก ไม่ก็เปลี่ยนด้านข้างให้มันเป็น อลูไปทั้งใบซะเลย แต่ระวังหมาข้ามถนนฮะ ชนไปทีอลูฉีก บางจังหวัดซ่อมไม่ได้ ต่างกับทองแดง...

ท่อหนวดปลาหมึก มันจะอยู่ในตำแหน่งที่มองไม่ค่อยเห้นครับ ถ้า มันพังเปลี่ยนเป็นสแตนเลทไปซะก็ได้ แต่ว่าพยายามใช้ขนาดเดิมนะครับ อย่าไปเปลี่ยนขนาดมัน เพราะว่า มันมีผลกับอัตราการไหลเวียนของน้ำหล่อเย็นครับ...

ลองดูครับ ค่าใช้จ่ายจะได้จ่ายน้อยลงได้บ้างบางส่วน... 

ล่าสุด สวิทช์พัง ตอนนี้ต่อครงอยู่ รออะไหล่

แต่...

ยังไม่หมดเวรแค่นั้น

เช้ามาจะสตาร์ทรถ ทำไมเสียงพัดลมไม่ทำงาน 

ก้มๆดู จับขั้วพัดลม ทำงาน ปล่อยดับ

สรุปว่าขั้วที่ฐานยึดคลอน เลยหาอะไรยัดไว้ก่อน
วิ่งทดสอบสักพักว่ามันจะคลอนอีกไหม
อะไหล่มา ทำทีเดียว