4 MAY 2007 การเดินทางเริ่มต้นอีกแล้วคะ คราวนี้ผิดแผนเล็กน้อย เพราะตอนแรกกะว่าจะไปเขาสามร้อยยอด กับพี่ ๆ ที่ออฟฟิต แต่เนื่องจากพายุเข้า ก็ลุ้นกันอยู่หลายวันจะไปได้ไหม๊หว่า ปรากฎว่า อย่าไปเลยเนอะทะเลอ่ะ ถึงพายุจะไปแล้ว แต่ฝนก็ยังไม่หยุดดี เฮ้ออออ อด!!! :(
แต่แบบว่า วันหยุดอ่ะนะ แล้วแบบนาน ๆ ทีได้หยุด 2 วันติดกัน ก็เลยต้องเที่ยว เที่ยว เที่ยว .... และแล้วเราก็ได้แรงบันดาลใจจากเวปท่องเทียวเวปหนึ่ง (trekkingthai.com) โอ๊ะโอ “ภูทับเบิก” อุ๋ยว๊ายยย สวยจัง น่าไปมาก ๆ อย่ากระนั้นเลย เลิกงานเย็นวันนั้น (ศุกร์ที่ 4 พ.ค.50) ก็กลับมาเก็บเสื้อผ้าที่บ้าน แบบไม่ได้ตั้งตัว แล้วก็เริ่มออกเดินทางตอน 3 ทุ่มพอดี๊พอดี
แวะเติมน้ำมันครั้งที่ 1 ที่ปั้ม Jet แถวบางใหญ่ [200 บาท] จากนั้นก็วิ่งเส้นวงแหวนรอบนอกมุ่งหน้าวงแหวนบางปะอิน แล้วก็มุ่งหน้าถนนมิตรภาพ ผ่านจ.สระบุรี แวะเติมน้ำมันอีกครั้งที่ลพบุรี [1,020 บาท] แล้วขับต่อไปจนถึง จ.เพชรบูรณ์ ตอนนั้นเวลา 02.30 น. อย่ากระนั้นเลย หลับก่อนดีกว่า เช้ามาเราจะขึ้นเขากันแล้ว (Trip นี้ต้องบอกว่า นอนในรถตลอดทางค้า)
5 MAY 2007ตื่นเช้ามา ตี 5 กว่า ๆ รีบทำให้ตัวเองตื่นอย่างเร็ว เพราะกะว่าวันนี้ต้องไปดูทะเลหมอกให้ได้ มุ่งมั่นสุด ๆ แล้วก็ออกเดินทางต่อคะ เดินทางไปทาง อ.หล่มสัก >>> ไปที่ อ.หล่มเก่า (แอบมีหลง ๆ อ้อม ๆ หน่อย) แล้วเราก็เจอหนทางสู่ยอดภูทับเบิก ทางหลวงหมายเลข 2331
แต่เอ้…..แอบเห็นป้ายข้างทางว่า “รถยนตร์เก๋ง ไม่เหมาะ ใช้รถปิคอัพสะดวกกว่า” แห่ะ ๆ น้องเปิ้ลเรา(OPEL) จะไหวไหม๊เนี่ย ตอนนั้นฝนตกอยู่แระ เหอะ ๆ ก็มาถึงนี่แล้วนี่หน่า
ภูมิประเทศที่เพชรบูรณ์สวยมากเลย เป็นเทือกเขาที่ลดหลั่นกันไป สวยจริง ๆ
ระหว่างทางขึ้นเขา โอ้วแม่เจ้า ต้องอุทานดัง ๆ ทางน่ากลัวมากคะ เป็นทางชันมาก ๆ แล้วหมอกจัดมาก ๆ รถเราไม่มีไฟตัดหมอกด้วย แถมฝนตกอีกต่างหาก ตอนนั้นระทึกมาก จะรอดกลับไปหาแม่ไหม๊เนี่ย เง้อ ๆ ๆ ๆ
ค่อย ๆ ขับไปเรื่อย ๆ ดีนะที่จี๊ดขับรถขึ้นเขาบ่อย เลยอาศัยความชำนาญ ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไป ซักพักฝนเริ่มตกหนักมาก ๆ ไม่ไหวแระ จอดพักดีกว่า เป็นจุดชมวิวระหว่าทาง (แต่มองไม่เห็นวิวหรอกนะ เพราะหมอกหนามาก ๆ )
ขับไปซักพัก อ่ะจ๊าก กก ก เกือบเลย มีป้ายเล็ก ๆ บอกทางเลี้ยวไปภูทับเบิก ใกล้ถึงแล้ว แต่ในใจคิดจะอีกไกลไหมหว่า เพราะไม่รู้ทางจริง ๆ และหมอกจัดมากจนมองไม่เห็นด้วย
และแล้วก็ถึงยอด “ภูทับเบิก” ยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,768 เมตร ตอนนั้นเวลา 10.30 น. ฟ้ายังไม่เปิดมองไรไม่เห็นเลย แง้ ๆ ๆ ๆ มีคุณลุงคนนึงเดินออกมาต้อนรับ ท่าทางใจดี เขาเป็นคนม้งแท้ ๆ เลย แต่พูดไทยได้จ้า
แต่แบบว่าฝนก็ตก เลยกะว่าไปหาไรกินก่อนดีกว่า ข้าวเช้าของฉัน อิอิ ไปกินข้าวที่ อช.ภูหินร่องกล้า ซึ่งเราต้องย้อนกลับไปทางเดิมนิดนึง จะเจอป้อมเก็บค่าธรรมเนียม [2 คน + รถ 1 คัน = 110 บาท]
ตอนแรกกะว่านอนที่ อช. แล้วกัน แต่พอไปถึง เปลี่ยนใจดีกว่า เพราะไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ ไปค้างที่ภูทับเบิกดีกว่า บรรยากาศดีกว่าเยอะ แถมหนาวกว่าด้วย ขับรถกลับดิ ลืมบอกอันนี้สำคัญมาก ถ้าคิดจะมาภูทับเบิกให้มาทางหล่มเก่านะ ทางชันมากไปหน่อย แต่ลัดกว่าเยอะมากๆๆ อย่ามาทาง อช.ภูหินร่องกล้าเลย เพราะระหว่างทางจากภูหินร่องกล้ามาที่ภูทับเบิก ทางแย่มาก ๆ ยาว 20 กว่ากิโล โอ้ววว พอย้อนออกมาได้ไม่อยากกลับไปทางนั้นอีกเลย (ถ้าไม่ใช่รถ 4WD อย่าเลยนะ ขอร้องงง)
กลับมาที่ภูทับเบิก ตอนแรกจะกางเต๊นท์ [2 คน = 60 บาท] แต่ฝนตกและชื้นตลอดเวลา เลยตัดสินใจ นอนในรถแล้วกัน อุ่นกว่าด้วย ไม่เปียกด้วย ลุงเจ้าหน้าที่ก็ห่วงและ Take Care เราดีมาก ประทับใจสุด ๆ
บนนั้นอากาศเย็นมาก และเราอยู่กลางเมฆจริง ๆ มีไอน้ำของเมฆผ่านตัวเราตลอดเวลา แต่ไม่เปียกนะ ไผ่หลับไป 2-3 รอบ (แมวอ้วนขี้เซา) เพราะรอหมอกจาง จะได้เห็นบรรยากาศซะที รอจนกระทั้งบ่าย 4 เกือบ 5 โมงเย็น ได้เห็นวิวแระ แล้วก็สมที่รอคอยจริง ๆ มันสวยมาก ๆ ดูเอาเองเด้อ ประทับใจสุด ๆ คุ้มค่าที่ได้มาจริง ๆ
เย็น ๆ ขับรถไปเล่นที่ หมู่บ้านม้ง ทางชันตามเคย ผ่านไรกะหล่ำของขึ้นชื่อของที่นี่ สวยมาก ๆ
แล้วก็กลับมา กินไรดีหว่า คุณลุงอีกคนบอกว่าทำกับข้าวให้ได้ เลยขอฝากท้องด้วยแล้วกัน แต่อาหารเค้าบ้าน ๆ นะ ดีมากๆ เลย เมนูแนะนำของเค้าคือ ยอดฟักหวานผัดน้ำมันหอย (ยอดฟักม้ง) เพิ่งเคยกินอร่อยดี เค้าใจดีไปเก็บให้สด ๆ จากที่ปลูก ตอนนั้นค่ำแล้วด้วย ได้กินกับไข่เจียวร้อน ๆ สุดยอดมาก ทำให้เรารู้สึกเหมือนเราเป็นแขก VIP เลยล่ะ (บริการดีสุด ๆ น่าประทับใจมาก)
กินข้าวเสร็จก็ดู TV ในรถ แล้วง่วงล่ะ 2 ทุ่มเองทำไมง่วงหว่า ขนาดนอนมาทั้งวันแระ กิกิ อากาศที่นั้น 18 องศาคะ อากาศสบายมาก ๆ หลับปุ๋ยเลย
>> อันนี้อุณภูมิข้างนอก
>>> อันนี้อุณภูมิตอนซุกตัวอยู่ในรถ อิอิ
6 MAY 2007ตื่นเช้ามา 8.00 น. นอนไป 12 ชม. พอดี๊ดี เค้าบอกว่า “นอนทับเบิก อายุยืนไป 15 ปี” เห็นจะจริง เพราะตื่นมาสดชื่นมาก ๆ เลย ตอนนั้นหมอกกลับมาเยอะอีกแระ กินกาแฟอุ่น ๆ แล้วออกเดินทางกันดีกว่า เราจะเดินทางต่อไปที่ จ.พิษณุโลก จะไปไหว้พระพุทธชินราช แล้วจี๊ดก็จะไปหาบอยด้วย
ตอนลงจากเขาสบายมาก ค่อย ๆ ปล่อยรถลงมาจากเขา ประหยัดน้ำมันดี อิอิ กลับสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 12 (จรดวิถีถ่อง) มุ่งหน้า จ.พิษณุโลก ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร [เติมน้ำมันอีกที 500 บาท] ระหว่างทางสายนี้สวยมาก ๆ ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเขาตลอดทาง ผ่านเขาค้อด้วย แต่ไม่ได้เข้าไป
ถึง จ.พิษณุโลก ไปอาบน้ำที่บ้านบอยก่อน ปรากฎว่าจี๊ดได้งาน Set Server ร้านเน็ตที่เพชรบูรณ์ บอยหางานมาให้ เลยเอาเป็นว่า ทำงานด้วยก็ได้ ก่อนจะไปร้านเน็ต ไปไหว้พระพุทธชินราชก่อน คนเยอะมาก แต่สวยจริง ๆ สมคำร่ำลือ
จากนั้นก็ไปกินก๋วยเตี๋ยวชื่อดังของพิษณุโลก ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ที่เค้าเรียกอย่างนี้เพราะเค้าทำที่นั่งห้อยขาจริง ๆ กินไปดูวิวแม่น้ำน่านไป สบายใจ รสชาติก๋วยเตี๋ยวอร่อยดี ว่าง ๆ แวะไปกินได้ แถว ๆ วัดนั่นแระ
จากนั้นก็ไปร้านเน็ต ทำงาน ทำงาน ทำงาน >>>> Pass ไปเลยแล้วกันนะ เสร็จงาน เกือบ 6 โมงเย็น ก่อนเดินทางกลับ ไปหม่ำ ๆ หลัง ม.นเรศวร แล้วเดินทางกลับบ้าน เติมน้ำมันอีกที [500 บาท] ถึงบ้านประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ง่วง ๆ นอน ๆ ดีกว่าพรุ่งนี้ต้องไปทำงานต่อ
ภูทับเบิกสวยมาก ๆ จริง ๆ ถ้ามีโอกาศจะไปอีกให้ได้เลย ที่น่าประทับใจที่สุดก็ชาวบ้านที่นั้น ชาวม้งแท้ ๆ เป็นมิตรมาก ๆ หน้าหนาวนี้ใครหาที่ไปสวย ๆ ก็ลองไปกันได้นะ Trip นี้เสียตรงที่พายุเข้าไง เลยเจอฝนแทบตลอด แต่เมื่อฝนหยุด ฟ้าเปิด สิ่งที่ได้เห็นมันสมกับที่รอคอยจริง ๆ ไม่เชื่อไปดูเองจ้า
PS: หน้าหนาวอุณภูมิเท่าอ่างขางนะ 4 องศา ไม่ไกลมากด้วยจ้า
*********
ค่าน้ำมันตลอดการเดินทาง 2,220 บาท ** เหลือมาใช้เดินทางในกรุงเทพได้อีกครึ่งวันเต็ม
(รอบนี้เยอะหน่อย ใช้แรงขึ้นเขามาก)
ค่าเข้า อช.ภูหินร่องกล้า 110 บาท
ค่าอาหาร + ของกินจุกจิก + ETC 1,000 บาท
รวม 3,320 บาท
**ระยะทางรวม 1,080 กิโลเมตรจ้า
ดูรูปทั้งหมดในนี้ค้า >>>
http://phai.ipost.in.th/tubberk ปล...เดินทางด้วยรถ Opel Astra เครื่องเดิม 8v รถแรงกว่านี้กล้าไปด้วยกันอ่ะป่าวน้า eiei