พรุ่งนี้(13/05/53) บางจาก-ปตท. ลด 40 สต. เบนซิน-ดีเซล

ongchai · **on:** 21 Apr 2010, 19:41

บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ ประกาศปรับลดราคาน้ำมันขายปลีก เบนซิน ลิตรละ 20 สตางค์ แก๊สโซฮอล์ ลิตรละ 40 สตางค์ ยกเว้นอี 85 มีผลเวลา 05.00 น. พรุ่งนี้

ถึงแม้ว่าใน วันนี้ (21 เม.ย.53) ราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาที่ปรับ ลดลงในวันก่อนหน้า โดยน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 83.11 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.71 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เมื่อเทียบกับที่ปรับลดลงเมื่อวันก่อน 2.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 สิงคโปร์อยู่ที่ 92.33 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้น 1.21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากที่ลดลง 2.53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในวันก่อน ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปดีเซลสิงคโปร์อยู่ที่ 93.56 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จึงทำให้ ปตท. สามารถประกาศข่าวดีนำลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ (แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ E20) เว้น E85 ลงได้ 40 สตางค์/ลิตร และน้ำมันเบนซิน 91 ลง 20 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (22 เม.ย. 53) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

http://www.thairath.co.th/content/eco/78098

chairai · **Reply #1 on:** 21 Apr 2010, 19:48

มันลงทีล๊ะ 20 แต่มันขึ้นทีนึง 40 60 มันคิดได้ไง

ดีน๊ะที่หนีไปดมสารละเหย

samrit_ad · **Reply #2 on:** 21 Apr 2010, 19:52

เค้าชอบบอกว่าค่า การตลาด ไอ้คำเนี้ยขอผู้รู้อธิบายหน่อยได้ไหมครับ คือมันแปลว่า กำไร ใช่ไหมครับ

thiratoon · **Reply #3 on:** 21 Apr 2010, 20:15

Quote from: samrit_ad on 21 Apr 2010, 19:52

เค้าชอบบอกว่าค่า การตลาด ไอ้คำเนี้ยขอผู้รู้อธิบายหน่อยได้ไหมครับ คือมันแปลว่า กำไร ใช่ไหมครับ

น้าสามลิตรครับ ขออนุญาณแถลงตามนี้นะครับ ก่อนจะเข้าใจเรื่อง "ค่าการตลาด" อยากให้รู้ก่อนว่า ราคาน้ำมันในประเทศแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1. ราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น ประกอบด้วย ราคา ณ โรงกลั่น, ภาษีสรรพสามิต, ภาษีเทศบาล กองทุน น้ำมันเชื้อเพลง กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. ราคาขายปลีก หน้าปั้มน้ำมัน ประกอบด้วย ราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น ค่าการตลาด และภาษีมูลค่าเพิ่ม
ดังนั้นเมื่อซื้อน้ำมันจากปั้มในราคาขายปลีกจะมีโครงสร้างของราคา ประกอบด้วย
1) ค่าต้นทุนในการซื้น้ำมันจากโรงกลั่น หรือนำเข้าจากต่างประเทศ โดยทั่วไปมีสัดส่วน 50-60% ของราคาขายปลีกน้ำมัน ณ สถานีบริการ
2) เงินภาษีและกองทุนที่รัฐเรียกเก็บจากผู้ค้าน้ำมัน ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล ภาษีมูลค่าเพิ่ม กองทุนน้ำมันเชื้อเพลง และกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน คิดเป็นสัดส่วน 30-35%
3) ค่าการตลาด ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ เช่นค่าจ้างแรงงาน ค่าขนส่งการโรงกลั่นน้ำมัน ผ่านคลังน้ำมันไปยังสถานีบริการน้ำมัน ค่าสารปรับปรุงคุณภาพ ค่าส่งเสริมการตลาด และค่าผลตอบแทนในการดำเนินธุรกิจ ค่าการตลาดนี้คิดเป็นสัดส่วน ประมาณ 10%

เมื่อพูดถึงโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศไทย มีคำนิยาม ดังนี้
1. ราคานำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศ (Import Parity Price) ได้ราคาต้นทุน ที่เกิดขึ้นจริงจากการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศ ประกอบด้วยราคาน้ำมันในตลาดจรที่สิงคโปร์ (FOB) ค่าประกันภัยในการขนส่งน้ำมันมาทางเรือ ค่าความสูญหาย (Loss) ค่าระวางหรือค่าขนส่ง (Freight) ค่าจัดเก็บน้ำมัน (Handling Cost) และภาษีศุลกากรนำเข้าน้ำมัน (Import Duty) ทั้งหมดนี้รวมกัน เป็นราคาต้นทุนในการนำน้ำมันเข้าจากต่างประเทศ
2. ราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น (Refinery Transfer Price) คือราคาที่โรงกลั่นขายน้ำมันให้ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ หรือ Marketer ประกอบด้วยราคาต้นทุนบวกกับภาษีสรรพสามิต (ประมาณ 3.70 บาทต่อลิตรสำหรับน้ำมันเบนซิน และ 2.30 บาทต่อลิตร สำหรับน้ำมันดีเซล) ภาษีเทศบาลซึ่งเป็นเงินเรียกเก็บเพื่อบำรุงท้องถิ่นนั้นๆ (10% ขอภาษีสรรพสามิต หรือ 20-30 สตางค์ต่อลิตร) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ประมาณ 1 บาทต่อลิตร) นอกจากนี้รัฐยังเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนต่างๆ อีก ได้แก่ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลง (ประมาณ 50 สตางค์ต่อลิตร) เพื่อสนับสนุนนโยบายต่างๆ ของรัฐที่เกี่ยงข้องกับน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น ใช้เพื่อสนับสนุนก๊าซแอลพีจี และกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ประมาณ 4 สตางค์ต่อลิตร)
3. ราคาขายปลีด ณ สถานีบริการ (Retail Price หรือ Pump Price) ประกอบด้วย ราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น ค่าการตลาด และภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ ราคาขายปลีก = ราคาต้นทุน + ภาษีต่าง + กองทุนต่างๆ
และ 4. ค่าการตลาด (Marketing Margin) จึงเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงค่าขนส่งจากคลังน้ำมันไปยังสถานีบริการน้ำมัน ค่าใช้จ่ายสำหรับสารปรับปรุงคุณภาพ (Additive) ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการตลาด และค่าผลตอบแทนในการดำเนินธุรกิจ หรือ ค่าการตลาด = ค่าสารปรัรบปรุงคุณภาพ + ค่าขนส่ง + ค่าส่งเสริมการตลาด + ค่าผลตอบแทนการดำเนินธุรกิจ....ดังนี้แล

samrit_ad · **Reply #4 on:** 21 Apr 2010, 20:57

อ่านแล้วงง

แล้วกำไรที่ควรจะได้ของผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของไทยได้อยู่ที่เท่าไร มันมากไป หรือน้อยไป สำหรับผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่

thiratoon · **Reply #5 on:** 21 Apr 2010, 21:03

Quote from: samrit_ad on 21 Apr 2010, 20:57

อ่านแล้วงง แล้วกำไรที่ควรจะได้ของผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของไทยได้อยู่ที่เท่าไร มันมากไป หรือน้อยไป สำหรับผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่

กำไร...ไม่เคยน้อยไปสำหรับ ธุรกิจน้ำมันครับเสี่ย

PeeSard · **Reply #6 on:** 22 Apr 2010, 11:06

ขึ้นตามสบายเลย ขึ้น 2 ครั้ง 1.10 บาท ลง 1 ครั้ง 20-40 สตางค์
มันจะเอารวยให้ครบญาติขนาดไหนฟะ...!

หนานมา · **Reply #7 on:** 22 Apr 2010, 11:27

อย่าไปคิดมากครับ....
ไอ้ค่าต่างๆที่เขาคิดกันนั้นน่ะ
จริงๆแล้วมันก้อคือหนทางที่จะเอากำไรให้ได้มากที่สุดนะแหละครับ...

ongchai · **Reply #8 on:** 22 Apr 2010, 14:19

ผู้ขายน้ำมันมีแต่กำไรมาก หรือกำไรน้อย

kamolwat_t · **Reply #9 on:** 23 Apr 2010, 23:14

จากนี่ http://www.hondahut.com/forum/index.php?topic=9332.0 ฮะ

อ่านนี่ด้วย http://www.ptit.org/oilbusiness/knowledge/knowledge01.html

นี่อีก http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=28334:2010-04-19-01-21-56&catid=88:2009-02-08-11-23-46&Itemid=418

ดูราคาหน้าโรงกลั่น ของ เบ็นซิน 95 กับ โซฮอล 95 ดีๆนะครับ แล้วดู ตรง ภาษีเก็บเข้ากองทุน

แล้วดูที่ E85 ครับ... น้ำมันเทพที่

รถในเมืองไทยใช้ได้ อยู่นับรุ่นไม่ถึง 10 ผมรู้แต่ว่ามี แลนเซอร์ EX กับ volvo c30

ปั้มที่มีให้เติม มีจำนวนเท่าไร ต่่อวันขายได้กี่พันบาท ยอดรวมทั้งประเทศนะครับ....ก็รถที่เติมได้ ยังยังไม่ถึง 500 คันเลย

พอล่ะ

ongchai · **Reply #10 on:** 09 May 2010, 11:49

ปตท.-บางจาก ลดราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลงลิตรละ 80 สตางค์
มีผลตีห้า 10 พ.ค.นี้...

9 พ.ค. บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91
แก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 รวมทั้ง E 20 ลงลิตรละ 80 สตางค์ ยกเว้นน้ำมันดีเซล และ E 85 มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 10 พ.ค.นี้

ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมัน ในปั๊มบางจากทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล วันที่ 10 พ.ค. เป็นดังนี้
เบนซิน 91ราคาลิตรละ 36.84 บาท
แก๊สโซฮอล์ 91 ราคาลิตรละ 31.54 บาท
แก๊สโซฮอล์ 95 ราคาลิตรละ 33.04 บาท
E 20 ราคาลิตรละ 30.74 บาท

http://www.thairath.co.th/content/eco/81856

PeeSard · **Reply #11 on:** 10 May 2010, 10:33

เด๋วไปหาเล็ง 95 มาเสริมสำรองถังดีกว่า..
จาก 43.69 จะเหลือกี่สตางค์อ่ะ

Osaint · **Reply #12 on:** 10 May 2010, 10:59

เซ็ง เมื่อวานซัด 95 ซะเต็มถัง

เจือกมาลด วันนี้

มือใหม่corsa · **Reply #13 on:** 10 May 2010, 11:34

Quote from: Osaint on 10 May 2010, 10:59

เซ็ง เมื่อวานซัด 95 ซะเต็มถัง เจือกมาลด วันนี้

95เพียวๆไม่ลดนะจ๊ะ(เค้าเอาไว้สำหรับคนรวย) เค้าลดแต่โซฮอลล์95จ้า

ongchai · **Reply #14 on:** 12 May 2010, 13:42

บางจาก-ปตท ประกาศลดน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 40 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น อี85
หลังราคาตลาดโลกลงต่อเนื่อง ระบุหากน้ำมันโลกยังอยู่ขาลงจะปรับลดต่อ..
มีผลตีห้า 13 พ.ค.นี้...

บางจาก-ปตท ประกาศลดน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 40 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น อี85 มีผลตี 5 พรุ่งนี้ หลังราคาตลาดโลกลงต่อเนื่อง ระบุหากน้ำมันโลกยังอยู่ขาลงจะปรับลดต่อ...

12 พ.ค. บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลทุกชนิด ยกเว้น อี 85 ลง 40 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. พรุ่งนี้ (13 พ.ค.)

ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมัน ในปั๊มบางจากทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล วันที่ 10 พ.ค. เป็นดังนี้
เบนซิน 91ราคาลิตรละ 36.44 บาท
แก๊สโซฮอล์ 91 ราคาลิตรละ 31.14 บาท
แก๊สโซฮอล์ 95 ราคาลิตรละ 32.64 บาท
E 20 ราคาลิตรละ 30.34 บาท
ดีเซลหมุนเร็ว ราคาลิตรละ 29.49 บาท

http://www.thairath.co.th/content/eco/82456

เย้ ๆ ๆ ๆ

Mr.T · **Reply #15 on:** 12 May 2010, 13:44

ดีเลย น้ำมันจะหมดถังพอดี

PeeSard · **Reply #16 on:** 12 May 2010, 13:45

Quote from: มือใหม่corsa on 10 May 2010, 11:34

Quote from: Osaint on 10 May 2010, 10:59
เซ็ง เมื่อวานซัด 95 ซะเต็มถัง เจือกมาลด วันนี้

95เพียวๆไม่ลดนะจ๊ะ(เค้าเอาไว้สำหรับคนรวย) เค้าลดแต่โซฮอลล์95จ้า

เมื่อวานผ่านปั๊มในซอยอุดมสุข เห็นมีป้าย 42.xx อยู่ตัวนึง ไม่รู้ว่าจริงหรือป่าว?

pakavat · **Reply #17 on:** 12 May 2010, 13:52

พี่เคยเติม วีเพาเวอร์แก๊สโซฮอลกันยังครับ ของเซล มาใหม่ ราคาเท่า 91 เพียว 36 กว่าๆ ผมลองมาแระ 1 ถัง รู้สึกเครื่องสะอาดดีนะ วิ่งดีขึ้นมาระดับนึงไม่เท่า 95 เพียว แต่ว่ามันประหยัดขึ้นมาหน่อย แต่ผมว่า เพิ่มมาก จาก ธรรมดา เกือบ 3 บาท ก็คุ้มดีนะครับ ยังไงลองๆดูหลายๆคันก็ดีครับอยากทราบความเห็น

PeeSard · **Reply #18 on:** 12 May 2010, 14:01

พี่เติมไว้สำรองถังจ้า..
ถ้าโซฮอล 95 ระเหยช้าและไม่ตกตะกอน ก็ไม่มีปัญหาหรอกจ้า
เพราะกว่าจะได้เติมที ก็ 2 เดือนครั้ง.. นี่ตั้งแต่ติดแก๊ส ก็เติม vpower ไป 800
ตอนนี้ก็เหลือติดถังประมาณ 10 ลิตร (+กับโซฮอล95 เก่าด้วย)

Mr.T · **Reply #19 on:** 12 May 2010, 14:05

มันด๊จริงป่าว vpowerเนี่ย พรุ่งนี้จะได้ลอง

kamolwat_t · **Reply #20 on:** 12 May 2010, 14:36

Quote from: Mr.T on 12 May 2010, 14:05

มันด๊จริงป่าว vpowerเนี่ย พรุ่งนี้จะได้ลอง

คำจำกัดความนะ

ดีกว่า โซฮอล 95

แพงกว่าคุณภาพที่จ่าย

แต่ถูกกว่าค่าซ่อม สายน้ำมันหรือถังพังเพราะเน่า

โปรดใช้่วิจารณะยาน ในการอ่านนะครับ

Omega VIP · **Reply #21 on:** 12 May 2010, 15:17

เติม 500 บ. เมื่อ 17 ก.พ.53 แล้วล่าสุดเติม 700 บ. เมื่อ 4 พ.ค. 53 นี้เองครับ ถ้ารถกลับมา เดี่ยวจะเติมอีกสักหน่อย จะลอง V Power + Octane Booter ด้วย

jeabjamiro · **Reply #22 on:** 12 May 2010, 16:28

ซัดมาเต็มถังเซ็ง

airr · **Reply #23 on:** 12 May 2010, 16:34

แก๊สโซฮอลล์ 95 กับ 91 ต่างกันยังไงหรอคะ
แล้วเปลี่ยนมาเติม 91 บ้าง รถจะเป็นไรมะคะ

jeabjamiro · **Reply #24 on:** 12 May 2010, 16:38

อย่าเลยได้ไม่คุ้มเสียนะ ติดแก็สไปถอะ

◄◄★GT★►► · **Reply #25 on:** 12 May 2010, 16:53

Quote from: airr on 12 May 2010, 16:34

แก๊สโซฮอลล์ 95 กับ 91 ต่างกันยังไงหรอคะ
แล้วเปลี่ยนมาเติม 91 บ้าง รถจะเป็นไรมะคะ

:)แก๊สโซฮอลล์ 95 ดีกว่า 91 และก็ แก๊สโซฮอลล์91(ห่วยสุดๆ) เพราะ91ทั้ง2อย่าง ทำให้เกิดคราบเขม่าในห้องเครื่องมากกว่า แก๊สโซฮอลล์ 95 ครับ แนะนำ ให้เติม 95 ของ SHELL V Power (แพงสุดดีสุด) หรือ CALTEX แล้วติดแก๊สคุ้มสุด ถ้าไม่อยากติดแก๊ส ก็เติมแก๊สโซฮอลล์ 95 ที่แนะนำให้เติมก็ SHELL CALTEX PETRONAS PTT ยิ่งถ้าเติมช่วงเช้าๆได้ยิ่งดี ได้น้ำมันเยอะกว่าช่วงบ่ายๆเย็นๆค่ำๆ จ้า..

PeeSard · **Reply #26 on:** 12 May 2010, 17:36

Quote from: ◄◄★GT★►► on 12 May 2010, 16:53

Quote from: airr on 12 May 2010, 16:34
แก๊สโซฮอลล์ 95 กับ 91 ต่างกันยังไงหรอคะ
แล้วเปลี่ยนมาเติม 91 บ้าง รถจะเป็นไรมะคะ
แก๊สโซฮอลล์ 95 ดีกว่า 91 และก็ แก๊สโซฮอลล์91(ห่วยสุดๆ) เพราะ91ทั้ง2อย่าง ทำให้เกิดคราบเขม่าในห้องเครื่องมากกว่า แก๊สโซฮอลล์ 95 ครับ
แนะนำ ให้เติม 95 ของ SHELL V Power (แพงสุดดีสุด) หรือ CALTEX แล้วติดแก๊สคุ้มสุด ถ้าไม่อยากติดแก๊ส ก็เติมแก๊สโซฮอลล์ 95
ที่แนะนำให้เติมก็ SHELL CALTEX PETRONAS PTT ยิ่งถ้าเติมช่วงเช้าๆได้ยิ่งดี ได้น้ำมันเยอะกว่าช่วงบ่ายๆเย็นๆค่ำๆ จ้า..

ทำยังกะว่า จะเติมได้เยอะแระ
ของตั๋ง ต่อให้เหลือ 2 ขีด ล้อก็ติดซุ้มบังโคลนกระจาย..55+

◄◄★GT★►► · **Reply #27 on:** 12 May 2010, 17:53

Quote from: PeeSard on 12 May 2010, 17:36

Quote from: ◄◄★GT★►► on 12 May 2010, 16:53
Quote from: airr on 12 May 2010, 16:34
แก๊สโซฮอลล์ 95 กับ 91 ต่างกันยังไงหรอคะ
แล้วเปลี่ยนมาเติม 91 บ้าง รถจะเป็นไรมะคะ
แก๊สโซฮอลล์ 95 ดีกว่า 91 และก็ แก๊สโซฮอลล์91(ห่วยสุดๆ) เพราะ91ทั้ง2อย่าง ทำให้เกิดคราบเขม่าในห้องเครื่องมากกว่า แก๊สโซฮอลล์ 95 ครับ
แนะนำ ให้เติม 95 ของ SHELL V Power (แพงสุดดีสุด) หรือ CALTEX แล้วติดแก๊สคุ้มสุด ถ้าไม่อยากติดแก๊ส ก็เติมแก๊สโซฮอลล์ 95
ที่แนะนำให้เติมก็ SHELL CALTEX PETRONAS PTT ยิ่งถ้าเติมช่วงเช้าๆได้ยิ่งดี ได้น้ำมันเยอะกว่าช่วงบ่ายๆเย็นๆค่ำๆ จ้า..

ทำยังกะว่า จะเติมได้เยอะแระ
ของตั๋ง ต่อให้เหลือ 2 ขีด ล้อก็ติดซุ้มบังโคลนกระจาย..55+

;)อยากให้รถสวยๆ เท่ห์ๆ ต้องยอมลำบากและใช้ความอดทนสูงครับพี่ คิคิ

ongchai · **Reply #28 on:** 12 May 2010, 18:02

Quote from: ◄◄★GT★►► on 12 May 2010, 16:53

Quote from: airr on 12 May 2010, 16:34
แก๊สโซฮอลล์ 95 กับ 91 ต่างกันยังไงหรอคะ
แล้วเปลี่ยนมาเติม 91 บ้าง รถจะเป็นไรมะคะ
:)แก๊สโซฮอลล์ 95 ดีกว่า 91 และก็ แก๊สโซฮอลล์91(ห่วยสุดๆ) เพราะ91ทั้ง2อย่าง ทำให้เกิดคราบเขม่าในห้องเครื่องมากกว่า แก๊สโซฮอลล์ 95 ครับ แนะนำ ให้เติม 95 ของ SHELL V Power (แพงสุดดีสุด) หรือ CALTEX แล้วติดแก๊สคุ้มสุด ถ้าไม่อยากติดแก๊ส ก็เติมแก๊สโซฮอลล์ 95 ที่แนะนำให้เติมก็ SHELL CALTEX PETRONAS PTT ยิ่งถ้าเติมช่วงเช้าๆได้ยิ่งดี ได้น้ำมันเยอะกว่าช่วงบ่ายๆเย็นๆค่ำๆ จ้า..

ผมก็เติมอยู่ 3 ยี่ห้อนี้แหละครับ

pakavat · **Reply #29 on:** 12 May 2010, 22:58

ผมว่า ที่ผมแนะนำ ก็โอเคนะครับ เชลล์ วี-เพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 มาใหม่ ราคาเท่า เบนซิน 91
ณ ปัจจุบันราคาน่าจาอยู๋ที่ 36+- บาท ซึ่งแพงกว่า โซฮอล 95 เกือบๆ 3 บาท
แต่หลังจากที่ผมได้เติมไปในรถผม ผมเหนสังเกตอาการรถเปลี่ยนแปลง ไปหลายอย่าง เช่น สตาดติดง่าย ปกติตอนสตาดใหม่ๆ มีเสียงวาว แต่ตอนนี้ไม่มี
อัตราเร่งเหนได้ชัดเจนพอสมควรร รู้สึกว่าเครื่องเดินเรียบขึ้นน เนียนขึ้นน แต่ก่อนเติม แก๊สโซฮอล 95 พันบาทวิ่งได้ประมาณ 220-240 โล
ตอนนี้เติม วีเพาเวอร์ แก๊สโซฮอล 95 ผมก็ยังวิ่งได้ จำนวนกิโลประมาณนี้นะครับ แต่แลกมาด้วย อาการของรถที่ดีขึ้นอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น

แต่มันก็เปนความคิดเหนของผมนะครับบบ แต่อยากให้พี่ๆเพื่อนๆ ลองเติมดู ว่าเปนอย่างไร

http://www.shell.co.th/home/content/tha-th/products_services/on_the_road/fuels/shell_vpower_gasohol_95/

News

พรุ่งนี้(13/05/53) บางจาก-ปตท. ลด 40 สต. เบนซิน-ดีเซล