รวมปัญหา และข้อมูล ที่พบบ่อยของ Opel Corsa นะครับ
Q: คอซ่าในเมืองไทยมีกี่รุ่น
- Corsa City เครื่อง 1200cc 45 แรงม้า มีทั้ง 3/5 ประตู เกียร์ MT พวงมาลัยธรรมดา กระจกมือหมุน
- Corsa Swing เครื่อง 1400cc 59 แรงม้า มีทั้ง 3/5 ประตู เกียร์ AT/MT สำหรับเกียร์ AT จะได้พวงมาลัยเพาเวอร์กับปรับกระจกมองข้างไฟฟ้า (เกียร์ธรรมดาไม่มี) ส่วนกระจกมองข้างเป็นไฟฟ้าแบบ Jam Protection (เลื่อนลงครึ่งหนึ่งเมื่อพบสิ่งกีดขวาง)
- Corsa Joy เหมือน Swing ต่างกันที่ Option เล็กน้อยเช่น หน้าปัดเและลูกบิดแอร์ป็นสีเดียวกับตัวรถ ลายผ้าที่ประตูไม่เหมือนกับ Swing และมีกล่องเก็บของใต้ที่นั่ง
- Corsa GSi เครื่อง 1600cc DOHC Ecotec 106 แรงม้า เกียร์ MT ล้วนๆ Option ครบ เพาเวอร์,กระจกไฟฟ้า,ABS,Airbag เป็นรุ่นท๊อปของคอซ่าในเมืองไทย
Q: เติมโซฮอลได้ไหม
เติมได้ทั้งโซฮอล 91 และโซฮอล 95 แต่แนะนำโซฮอล 95 มากกว่า เพราะประหยัดและแรงกว่า 91 แบบรู้สึกได้ ถ้าเติม 91 ควรกลับปลั๊ก Octane ในห้องเครื่องด้วยทุกครั้ง (ปลั๊ก Octane อยู่บริเวณเบ้าโช้คซ้ายมือ ในกรณีหันหน้าเข้าตัวรถ สำหรับรุ่น GSi ไม่มีปลั๊กตัวนี้ เพราะกล่อง ECU จะจัดการเองทั้งหมด)
Q: รถถอยหลังไม่ได้
อาการเกียร์ AT ใกล้พังครับ เป็นอาการเริ่มต้น แนะนำเปลี่ยนเกียร์ AT มือสอง ค่าใช้จ่ายอยู่ราวๆ 20000 บาท หรือโอเวอร์ฮอลเกียร์ ค่าใช้จ่ายราวๆ 25000 บาท
Q: มีปัญหาเรื่องตัว S กระพริบ
เป็นอาการแสดงให้เจ้าของรู้ว่า ระบบเกียร์มีปัญหา สาเหตุเกิดได้หลายอย่าง เช่น ฟิวส์ที่จุดบุหรี่ขาด(เอากะมันสิ ไม่เห็นเกี่ยวกับระบบเกียร์เลย) , ซีเล็กเตอร์เกียร์สกปรก(ถ้าแค่นี้ ล้างก็หาย ไม่กี่ตัง) หรืออย่างเลวร้ายที่สุด เกียร์พัง (กำตังไว้หมื่นห้าได้เลยครับ)
Q: ติดแก๊สได้ไหม
ได้ทั้ง LPG และ NGV แต่แนะนำ LPG จะเหมาะกว่า เพราะถัง NGV หนักมาก ท้ายรถจะห้อย สำหรับการแก้อาการท้ายห้อย ให้เปลี่ยนสปริงหลังเป็นของรถรุ่นอื่นๆ (ต้องนำไปเทียบดู แนะนำของ BMW E36 หรือ Opel Vectra A )
Q: อาการเครื่องฮีต แก้ไขยังไง
แนะนำให้เปลี่ยนสวิตพัดลม (สวิตหัวโต) เป็นแบบทำงานเร็วขึ้น และเปลี่ยนวาล์วน้ำเป็นแบบ 87/92 หรือต่ำกว่า เปลี่ยนสองอันน่าจะหายขาด ถ้าพัดลมและตัวหม้อน้ำสภาพสมบูรณ์ แต่เนื่องจากหม้อน้ำของเดิมเป็นอลูมิเนียม เวลารั่วจะไม่สามารถซ่อมได้ แนะนำให้ร้านตีใหม่เป็นทองแดงจะเหมาะกว่า (ในกรณีหม้อน้ำเดิมรั่ว ถ้าไม่รั่วก็ปล่อยไป)
Q: ระยะทางบำรุงรักษาต่างๆ
- สายพานไทมิ่ง เปลี่ยนทุกๆ 40000 km (สำคัญมาก ถ้าขาดค่าเสียหายหลักหมื่น) ควรเปลี่ยนลูกรอกสายพานและปั้มน้ำ ทุกครั้งที่เปลี่ยนสายพานไทมิ่ง (สายพานราคา 800-1000 , ปั้มน้ำ 900-1600 , ลูกรอกราวๆ 2600+ ค่าแรกอีกนิดหน่อย)
- สายพานหน้าเครื่อง เปลี่ยนตามสภาพหรือ ตามสายพานไทมิ่ง (ไม่กี่ร้อยบาท)
- น้ำมันเครื่อง เปลี่ยนตามเกรดของน้ำมันที่ใช้ ธรรมดา 3000km เซมิ 5000km หรือฟูลี่ 10000km
(เลือกตามแนวทางการขับรถของตัวเองครับ ลองดูกระทู้เกี่ยวกับน้ำมันเครื่อง ที่นี่ :
http://www.opel.in.th/index.php/topic,1811.0.html และ
http://www.opel.in.th/index.php/topic,2621.0.html )
- น้ำมันเบรค เปลี่ยนปีละครั้ง
(DOT4 เท่านั้น ถ้าอู่ไหนบอก DOT3 ก็ใช้ได้ อย่าไปใช้บริการอู่นั้นครับ)- น้ำมันเกียร์ AT ส่วนมากเปลี่ยนกันที่ 10000km หรือ 20000km เกียร์ MT 40000km (ตามสายพานไทมิ่ง) สำหรับเกียร์ AT ใช้พวก Fully Synthetic จะดีกว่าด้วยประการทั้งปวงครับ
- น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ อันนี้ไม่มีข้อมูล แต่เปลี่ยนตามไทมิ่งก็ได้ เพราะราคาไม่สูง ใช้น้ำมันเกียร์ AT พวก Dextron II หรือ Dextron III
Q: ใส่แม็กได้ไหม
ใหญ่สุดโดยไม่ดัดแปลงคือ 15x7" 4 รู 100 Offset +38 ถึง +42 ยางขนาด 195/50/15 ถ้าใหญ่กว่านี้ต้องตัด/แปลงตัวถัง ถ้าไม่เน้นสมรรถนะมาก ขอบ 14 กับยาง 185/60/14 กำลังดีกับเครื่อง(เดิมๆ)
Q: อัตราการกินน้ำมันโดยทั่วไป ประมาณเท่าไหร่
ในเมืองเกียร์ MT 9-11 โลลิตร เกียร์ AT 6-8 โลลิตร แปลผันตามสภาพการจราจร
นอกเมืองความเร็วคงที่แถวๆ 90-100 เกียร์ MT 12-14 โลลิตร เกียร์ AT 10-11 โลลิตร แปลผันนิดหน่อย
Q: ถ้าต้องการเปลี่ยนเครื่อง เอาตัวไหนลงได้บ้าง
ถ้าของ Opel แบบไม่ดัดแปลงก็พวก X14XE หรือ X16XE (เครื่องเดิมไม่นับ) ถ้าดัดแปลงนิดหน่อยก็ X18XE , X20XEV หรือ C20NE ก็ได้ เครื่อง 8 Valve จะเน้นการดูแลรักษาง่าย ทนทาน สำหรับพวก 16 Valve จะได้แรงม้ามากกว่า การบำรุงรักษาโดยรวมสูงกว่า และจุกจิกกว่าตัว 8 Valve
สำหรับวางเครื่องข้ามสายพันธ์ที่เคยเห็นก็พวก 4E-FTE , 5E-FE , 4A-FE (เคยเห็น 4A-GE ด้วย แต่ไม่รู้วิ่งเป็นไง เลี้ยวสุดไหม) การวางเครื่องข้ามสายพันธ์ อู่ที่วางเครื่องจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้งานดีหรือไม่ดี (อาจเสียรถไปเลย ถ้าอู่ไม่เก่ง)