เดา ๆ เอาว่ามี 2 ปัญหาคือ น้ำมันเครื่องซึม (ยังไม่ได้รับการแก้ไข จากรูป-ละอองน้ำมันเครื่องที่ซึมออกมันไปจับตามเครื่องยนต์แล้วมี
ฝุ่นไปเคลือบอีกที เห็นเป็นคราบ ๆ สกปรกสีน้ำตาล) และปัญหาน้ำรั่ว
"ส่วนน้ำมันเครื่องช่างเติมให้เยอะกว่าปกติ เพราะมันซึมอะค่ะ"
อันนี้งงเลยครับ ไหงช่างเขาคิดอย่างนี้หล่ะ แทนที่จะไปหาจุดที่น้ำมันเครื่องมันซึมแล้วรีบแก้ไข และคงไม่ได้ซึมจากฝาครอบวาล์วข้าง
บน เพราะ (จากรูป) ฝาครอบวาล์วเป็นพลาสติกและประเก็นเป็นยาง ซึ่งดีกว่าประเก็นที่ทำจากไม้ก๊อก
ท่อยางบวมน่ากลัวมากครับ แล้วท่อเหล็กที่ต่อกัน ไหงมันมีคล้าย ๆ ตะกรันติดอยู่เต็มเลย (จะเป็นผลมาจากน้ำรั่วซึมมานานหรือเปล่า)
ในรูปข้างล่างคือจากกระทู้ในโชว์รูมที่คุณครูโพสต์ไว้ ยังไม่เห็นตะกรันที่ว่าเลย แต่ในรูปปัจจุบันมันเยอะมากเลย ลองเทียบกันดูนะครับ
เห็นคุณครูท่าจะชอบถ่ายรูป น่าจะถ่ายรูปห้องเครื่องแบบเต็ม ๆ ด้วยนะครับ เผื่อเพื่อน ๆ ได้ช่วยกันส่อง
เวลาเปลี่ยนอะหลั่ยต่าง ๆ ควรจะขอใบเสร็จรายละเอียดมาด้วย แล้วถ้าเป็นไปได้ (หากไม่แน่ใจ) ขอดูของใหม่ก่อนที่จะเปลี่ยน และ
ของเก่าที่เปลี่ยนออกมา ขอคืนจากช่างด้วยครับ อย่าเชื่อเพียงแค่เขาบอกมาครับ (ถ้ายังไม่แน่ใจอู่ที่ไปใช้บริการนะครับ) เอาใบเสร็จ
ต่าง ๆ เก็บเข้าแฟ้มเป็น record ด้วยนะครับ
เวลาคุณครูล้างรถเสร็จ แนะนำให้เปิดกระโปรง (รถ) เช็ดในห้องเครื่องด้วย ล้วงเช็ดให้ลึกสุดจะทำได้ แล้วสังเกตว่ามันมีอะไรผิดปกติ
หรือไม่ ถึงจะไม่รุว่าชิ้นส่วนอะไรเป็นอะไรก็ไม่เป็นไรหรอกครับ เป็นการสร้างความคุ้นเคยและสังเกต สภาพท่อยาง มีคราบน้ำมันซึม
หรือไม่ สายไฟ ปลั๊กต่าง ๆ หลุดหรือเปล่า กันไว้ดีกว่าแก้แน่นอนครับคุณครู
อีกนิดครับ ดูจากรูปนะครับ เหมือนกับตอนคุณครูได้รถมาใหม่ ๆ เจ้าของเดิมเขาจะทำความสะอาดห้องเครื่องไว้ด้วย แต่หลังจากนั้น
(จากรูป) มันเหมือนกับไม่ค่อยมีการเช็ด ทำความสะอาดเลยนะครับ ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ไฟไม่ดูดเอาแน่นอน เมื่อก่อนผมก็กลัว
แต่ลงมือทำแล้วจะติดใจ หลังล้างรถทีไรเป็นต้องเอามือล้วงเช็ดเครื่องยนต์ทุกที (ตอนนี้ถึงขนาดมุดไปเช็ดใต้เครื่องแล้ว)