ไม่รุจะตรงเป้าหรือเปล่านะ แต่กระทู้แบบนี้ของชอบครับ 555
- เมื่อก่อนผมก็คิดเหมือนกับคุณว่า รถญี่ปุ่นมันห่วย เหล็กบาง ส่วนโอเปิ้ลของเราดีสุด ๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ก็เปลี่ยนความคิดไปโดยสิ้นเชิงครับ อาจเป็นเพราะอายุที่เพิ่มขึ้น เลยค่อนข้างจะยืดหยุ่นให้กับผู้อื่นมากขึ้น
- ปัจจุบัน ผมจึงคิดว่า รถจะดีหรือไม่ดี ทั้งหมดทั้งปวงมันขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้และเจ้าของรถน่ะครับ เจ้าของรถทุกคน รถแม้จะเป็นยี่ห้อไหน ของประเทศไหนก็ตาม เขาก็ย่อมรักรถของเขาเป็นธรรมดา ทีนี้ ลองมาเปรียบเทียบกันดูว่า ระหว่าง รถญี่ปุ่นที่เจ้าของดูแลรักษาอย่างดี กับรถเบนซ์ที่เจ้าของปล่อยละละเลยไม่ค่อยใส่ใจดูแลรักษารถ ถ้าจะต้องเลือกนั่งเพื่อใช้ในการเดินทาง ผมก็จะเลือกรถญี่ปุ่นคันนั้นครับ
- ที่ว่าซ่อมมาเยอะเนี่ย ซ่อมขนาดไหนครับ คอร์ซ่าผมเอาเงินไปลงกับการปรับปรุงสภาพ (เฉพาะเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ไม่รวมการตกแต่ง) ไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทแล้วนะครับ อะหลั่ยที่ราคาแพง หายากในไทย อย่างจานจ่าย ผมก็ดั้นด้นไหว้วานเพื่อนในเยอรมันให้เป็นธุระหิ้วมาให้ โช้คแก๊สดี ๆ อย่างของ Bilstein ก็ให้หิ้วมาอีก ตัวไหนที่หาไม่ได้ในไทยก็พยายามสั่งจากนอกเข้ามา ผมว่าเรื่องปัญหารถยนต์เนี่ย มันต้องวิเคราะห์กันจริง ๆ จัง ๆ ว่าตรงจุด แก้ตรงปัญหาหรือไม่ เพราะในปัจจุบัน ก็มีหลายอู่ที่แก้ไขปัญหาได้จบครับ
- ลองปรับเปลี่ยนมุมมองดูนะ ว่าจริง ๆ แล้ว ปัญหามันอยู่ที่รถ หรืออยู่ที่ตัวคนเจ้าของรถกันแน่ และจริง ๆ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับที่ผมกล่าวมาข้างต้น คิดตามวิธีของคุณนั่นแหละ เพียงแต่จะคิดอย่างไรให้มัน happy เปลี่ยน negative เป็น positive ลองมองว่าปัญหาต่าง ๆ มันเป็นเรื่องท้าทาย เป็นเรื่องที่จะนำประสบการณ์ ความรู้ มิตรภาพใหม่ ๆ มาให้แก่เรา
- โชคดีครับ