จริงๆผมก็จำไม่ค่อยได้ว่าเคยบอกไปหรือยังฮะ... เพราะว่าเคยทำตอบเวบเก่าด้วย..แฮะๆๆ
เริ่มใหม่แล้วกันนะฮะ...
อาการที่ซ่อมง่ายๆก่อนฮะ.. รถความร้อนขึ้นตอนจอดหรือรถติดๆ..
อาการนี้เดาง่ายครับ ตามในรูปเลย... หลักการคือ...
หม้อน้ำเราจะใช้วิธีแลกเปลี่ยนอุณหภูมิ ด้วยการนำลมมาช่วยระบายความร้อน... ตอนรถวิ่งก็เป็นลมจากความเร็ว ตอนรถจอดก็ลมจากพัดลมหม้อน้ำ...
ทีนี้ ถ้าเราเจอว่ารถเวลาจอดแล้วความร้อนมันขึ้น.. ก็เดาง่ายครับ ให้ดูเอาว่าถ้ารถวิ่ง ความร้อนยังขึ้นไหม แล้วแบ่งเป็น 2 ประเด็นของสาเหตุครับ
:ปลิว:1. ถ้ารถวิ่งแล้วความร้อนลดลง... แปลว่า พัดลมทำงานไม่พอต่อความต้องการครับ อาจจะ ช๊อตจนดับไป หรือว่าโดนแปลงมา หรือว่าตัวสั่งทำงานพัดลมทำงานช้าไป หรือว่าหม้อน้ำมันมีฝ่นไปจับที่แผ่นครีบระบายความร้อนเยอะ จนลมผ่านได้ยากครับ ก็เข้าไปให้ช่าง opel ดูครับว่าพัดลมมันโดนแปลงมาหรือเปล่าครับ หรือว่าหม้อน้ำโดนแปลงมาแล้วมันเล็กไป หรือว่ามันตันในระบบครับ (ดูได้จากสีน้ำถ้ามันเหมือนโคลน..ก็ล้างซะครับ)
:ปลิว:2. ถ้าวิ่งแล้วความร้อนไม่ลด..(หรือลดลงช้าแต่ว่าไม่สูงขึ้น) ก็น่าจะมาจากวาลว์น้ำ ทำงานช้าไปครับ เช็คว่าเราเปลี่ยนมันครั้งสุดท้ายเมื่อไรครับ ใช้ไปนานๆอาจจะตันก็ได้ฮะ เวลาน้ำหม้อน้ำมันร้อนมันโดนต้มมันจะเกิดตะกรันขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเวลาต้นน้ำจากกาครับ ผมเองเคยเปลี่ยนวาวล์ ก็เจอว่าตะกรันมันเล่นมาจับซะเยอะเลย... เปลี่ยนดีกว่า...แฮะๆๆ แล้วก็ค่อยไล่ระบบอื่นๆต่อครับ
เรื่องความร้อนขึ้นสูงตอนจอด จบง่ายๆครับ มีแค่ วาวล์น้ำ และพัดลมหรือสวิต์พัดลมเท่านั้นเองครับ โดยพื้นฐาน แต่อย่าไว้ใจครับ ไหนๆทำแล้วก็เช็คเรื่องการอุดตันของระบบไปด้วยครับ...
:หึหึ:มาเรื่องซีเรียสครับ.. ถ้ารถวิ่งแล้วความร้อนขึ้น...
อย่างแรกที่ต้องทำครับ จอดเลย..และดับเครื่อง ตั้งแต่มันขึ้นไป แตะ 95 ครับ อย่าปล่อยให้มันสูงเกิน 98 หรือปล่อยจนดับเองครับ ฝาอาจจะโก่งได้(เรื่องฝาโก่งวิธีซ่อมและทางเลือกผมจะสร้าง FAQ มาให้ใหม่นะครับ) เสียงินหลายบาทแน่ๆครับ ถ้ามันเป็น..
อย่างที่ 2 เปิดฝาโปงครับ เช็ค ด่วนเลยว่า มันรั่วออกทางไหนครับ
:ใบเหลือง:ส่วนมากน้าเป็นหม้อน้ำอลูมิเนียม มันอาจจะรั่วออกด้านข้างที่เป้นพลาสติกครับ สังเกตุดูว่ามันจะมีคราบน้ำเป้นทางครับ...
:ใบเหลือง:จุดอ่อนอีกจุดคือ ท่อน้ำหลังเครื่องครับ ปรกติมันจะเป็นพลาสติกครับ ใช้นานๆอาจจะแตกหักได้ครับ ดูดีๆมองไปตรงใต้ท่อร่วมไอดีนะครับ...
:ใบเหลือง:จุดที่มองง่ายต่อไปคือ ท่อยางต่างๆครับถ้าหน้าตาไม่ดี...ก็เปลี่ยนซะครับ.. ไม่ใช่ให้เปลี่ยนเองเลยนะครับ..
ไปเปลี่ยนที่อู่ครับ
ต่อไปก็รอ..ครับ รอสัก 15 นาทีอย่างต่ำแล้วหมุนสวิตกุญแจ on ครับเพื่อกูว่ามันอุณหภูมิเท่าไรแล้วครับ ถ้าลงมาที่ 90 ค่อยเปิดฝาหม้อน้ำมาดูนะครับว่าน้ำหายไปมากแค่ไหน...กรณีที่น้ำมันหายไปในระบบเกิน500 cc ถือว่ายังไม่ร้ายแรงคัรบ..
(เกือบหมดขวดขุ่น) แต่ถ้าเกินกว่านั้น ยัน 2-3 ขวดขุ่น... แปลว่ารั่วหนักเลยครับ.....
ซวยแย้ว... แต่คาดว่าเวลาที่เติมไปน่าจะเห็นจุดที่น้ำรั่วแล้ว.. ถ้ามันรั่วออกนอกระบบนะครับ
ห้ามเติมน้ำในขณะที่เครื่องยังร้อน หรือเอาน้ำราดฝาสูบเด็ดขาด... ความร้อนสะสมมันมากครับ... เวลาเราเอาน้ำเย็นเติมลงไป...เหล็กจะหดตัวอย่างรุนแรง... ฝาโก่งได้ครับ.. งานเข้าแน่นอน...
การแก้ปัญหาเฉพาะหน้่าหมดไป
รีบเข้าอู่ซะนะครับ
กรณีที่มันดันมองไม่เห็นรั่วออกตรงไหน... ก็
ครับ งานอาจจะเข้า..เพราะว่า..มันอาจจะไปที่...
1. ปะเก็น เสื่อมหรือแตก สังเกตุดูครับ ถ้าเครื่อเรามันมีรอยน้ำมันเครื่อง ไหลซึมๆอยู่ แปลว่าปะเก็นอาจจะหมดอายุแล้วครับ
2. ฝาผุ อันนี้ ไม่มีทางรู้ครับ ต้องให้ผู้ชำนาญ ถอดหัวเทียนออกมาดูครับ ถ้ามันมีน้ำเข้ามันจะเป็น รอยขาวๆวาวๆ หรือไม่ก็เห็นเป็นโคลน... เลยครับ... แถมๆ :หึหึ:โดยปรกติถ้าหัวเทียนมีสีเหมือนน้ำมันเครื่องแปลว่าแหวนอาจจะหลวม หรือตาย ทำให้น้ำมันเครื่องเข้ามาในระบบเผาไหม้จากด้านล่างกระบอกสูบครับ
ทีนี้เรามาดูครับว่าเวลาเราใช้งานรถ... เราต้องสังเกตุอะไรบ้าง..
1. สีของน้ำหล่อเย็๋นครับ ดูว่ามันมีสีแปลกๆหรือไม่ อาจมีสีโคลน(แปลว่ามีสนิมในระบบ)
มีสีดำๆ (แปลว่าน้ำมันเครื่องเข้ามาในระบบด้วย...)
2. น้ำหล่อเย็นหาย หรือว่าต้องเติมบ่อยครั้งแค่ไหนครับ... ถ้าระบบสมบูรณ์แม้จะติดแก๊ส ก็อาจจะน้ำไม่พร่องเลยครับ แต่ถ้าเติมอาทิตย์ละขวดขุ่นก็ แปลว่าเริ่มมีอาการแล้วครับ ว่างๆไปเช็ค ถ้าเติมมากกว่านั้น... แปลว่า อาการหนักครับ หาโอกาสเช็คอย่างด่วนฮะ...ให้ถึงมือช่างที่ไว้ใจได้ก่อนครับ...
3. คราบของโคลนหรือคราบน้ำ ตามจุดต่างๆครับดูดีๆว่ามันมีไหลเป็นทางไหมครับ เช็ดดีๆ อาทิตย์ละครั้ง.. หรือเดือนละครั้งครับ.. จะลดการเสียเงินก้อนใหญ่ได้ครับ
4. ดูท่อยางต่างๆว่ายังหน้าตาดีหรือไม่..หรือว่ามันพองๆบวมๆจะลาโลกแล้วครับ... เปลี่ยนซะครับ ราคาไม่แพงมากถ้าเที่ยบกับ พังทั้งระบบจนฝาโก่ง แล้วจ่ายเงินก้อนใหญ่
5. ดูว่าพัดลมทำงานดีหรือไม่ อาจจะสตาท์รถหน้าบ้านแล้ว เปิดแอร์ดูว่า พัดลมทำงานแรงดีไหม หรือว่า พังหรือเปล่าครับ
6. สังเกตุเสียงแปลกๆให้ดีๆครับ... มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ ฮะ...
นึกไม่ออกล่ะ... ใครมีอะไรเสริมช่วยเติมด้วยนะครับ เผื่อผมพลาดอะไรไปเพราะว่าชักง่วงแย้ว...