ปัญหา

SiGn · **on:** 05 Nov 2010, 05:59

วันที่ 25 มิย 53 ตอนที่ได้รถมาใหม่ๆพี่บอมไปดูให้ค่ะ

วันที่ 2 กค 53 พอได้รถมาก็แก้อาการตามที่พี่ๆบอกกันคือถ่ายของเหลวอะไรแบบนั้น จากนั้นก็ขับมาเรื่อยๆก็มีอาการมาตลอดพี่ต้นหน้าจะรู้เพราะว่าโทหาพี่ต้นบ่อยมากทุกครั้งที่มีปัญหาแล้วก็แก้ตามอาการเอง

วันที่ 21 สค 53 แก้อาการต่อเกี่ยวกับโช๊คแล้วก็เบรคอะไรพวกนั้น แล้วก็ได้เจอดุ๊ก ดุ๊กมาดูเครื่องให้เช็คอย่างละเอียด แล้วก็เจอมีน้ำรั่วที่เครื่องท่อนล่าง ดุ๊กเลยให้พี่ชายจากอู่พี่เข้ จัดการเปลี่ยนให้ แล้วก็เปลี่ยนประเก็นท่อรวมไอเสีย

วันที่ 25 สค 53 รถมีปัญหาอีกคือรอบขึ้นค้างวันนั้นเจอพี่บัติครั้งแรกพี่บัติจะเอาไอเดิ้ลมาเปลี่ยนให้แต่อาการคือสายอะไรมันหลุดพี่บัติก็เลยแก้อาการให้ ที่ ปั้ม ปตท พระราม2 ตอน 4ทุ่มวันนั้นฝนตกหนักมาก

***ส่วนใหญ่ตอนนั้นขับอยุ่ที่กทมระยะสั้นๆเองเพราะเพิ่งหัดขับพี่ๆน่าจะทราบกันดี***

วันที่29 สค 53 ขับรถไปอัมพวา ใช้ความเร็วที่ 80-120 กม/ชม

วันที่ 5 กย 53 ขับรถไปสุพรรณตั้งแต่ออกจากบ้านประมาน 10 นาทีได้ อาการของรถตอนนั้นคือรอบเบาอยุ่ดีๆก็ดับ(รถยังไหลอยุ่)ไม่ได้เร่งคันเร่ง ก็ไม่ได้คิดอะไรเปิดฝาโปรงดูพี่เข้สอนมาว่าถ้าสตาดไม่ติดให้ดึงปลั๊กอะไรสักอย่างออกแล้วเสียบดูกลับมาสตาดติดก็ขับไปต่อ
พอถึงขากลับจะเข้า กทม รถติดมากอาการเครื่องดับก็มาอีกแต่ครั้งนี้ดับตอนรถติด ทำแบบเดิม ก็สตาดติดเหมือนเดิมเป็นแบบนี้ประมาน3-4ครั้งได้ พอกลับมาเกือบถึงบ้านมีเสียงดังคล้ายเครื่องจักก็เลยโทหาดุ๊กแต่ดุ๊กอยุ่บนเครื่องบินเลยไม่ได้คุย เลยโทหาน้องเพชร ให้น้องเพชรฟังเสียงจากโทรศัพท์ว่าเกิดจากอะไรแต่น้องเพชรก็ยังไม่ชัวร์เลยนัดไปดูวันต่อมา

วันที่ 6 กย 53 ได้เจอน้องเพชรครั้งแรกขับรถไปหาที่ศรีปทุมเพื่อดูอาการน้องเพชรบอกว่าเสียงเหมือนมาจากเครื่องท่อนล่างแต่ไม่ชัวร์ว่าเกิดจากอะไรวันนั้นน้องเพชรบอกให้ไปที่อู่เฉพาะทางดูเลยไปที่อู่พี่เข้ ไปเจอพี่เต๋าพี่เต๋าบอกว่าสงสัยชาปละลายต้องเปลี่ยนเครื่องหรือฮอลใหม่ตอนนั้นก็ไม่รุ้จะทำยังไงเลยขับรถกลับมาบ้าน

วันที่ 7 กย 53 คุยเอ็มกับพี่จี๊ด โทหาพี่ต้น โทหาพี่บัติพี่บัตินัดมาเจอเพื่อดูรถ แล้วหาอาการเกี่ยวกับเครื่องในเว็ปนี้ล่ะ

วันที่ 8 กย 53 เจอพี่บัติที่ Big C พระราม2 ที่ลานจอดรถโซนE พี่บัติบอกว่าเสียงดังมาแต่ไกลเลยพี่เค้าเปิดฝาโปรงดูแล้วก็ฟังเสียงพี่เค้าบอกว่าอย่างนี้ต้องฮอลเครื่องแล้วล่ะ จากนั้นพี่บัติก็นัดไปหาพี่เอแต่ก็ยังไม่ได้ไปเพราะพี่บัติกลัวขับไปไม่ถึงกลัวเครื่องมันน๊อกกลางทางไม่อยากให้ขับไกล

วันที่ 9 กย 53 เวลาประมาน9โมงกว่าๆขับรถไปหาพี่บัติที่อู่เค้าแถวเกษตร พี่เค้าดูอีกทีแล้วพี่บัติก็บอกว่า"เครื่องเรายังดูใหม่และสะอาดอยุ่เลยนะเนี่ย" แล้วพี่เค้าบอกว่าแบบนี้ต้องไปหาพี่เอแล้วว่าจะเอายังไงก็เลยไปหาพี่เอคุยกับพี่เอเล่าอาการวันที่ 5 กย 53ให้เค้าฟังพี่เอเค้าก็ฟังเสียงเครื่องด้วยเครื่องมือที่ดูแล้วเหมือนหูฟังหมอ(ตอนนั้นดูเค้าเช็คแปปเดียวเองแล้วก็ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือแถวนั้น)พอกลับมาถึงพี่เอบอกว่าคงต้องฮอลเครื่องหรือไม่ก็เปลี่ยนเครื่อง แต่เครื่องเก่าสต๊าดติดปกติความร้อนไม่ขึ้น ขับได้แอร์เย็นปกติ ขับได้ปกตินะค่ะแต่เสียงเครื่องดังเหมือนจักรเย็บผ้า พี่บัติบอกว่า"อยากให้เปลี่ยนเป็นเครื่องญี่ปุ่นเพราะซ่อมไม่แพง...ดูแล้วอนาคตไกลกว่า....ใหม่กว่า....เครื่องดูสดกว่า...." พี่เอให้เลือกระหว่าง 5E กะ 1nz ตอนนั้นเห็นรถพี่ย้ง(มหิงสา)มาวางเหมือนกัน(คิดในใจว่าคันนั้น5Eยังมาวาง1nzเลยใจก็เอียงไปทาง1nzแล้วล่ะ)
ตอนนั้นก็เลยคิดว่าจะเอายังไงดีเพราะว่าต้องกลับไปถามที่บ้านก่อนว่าราคาพอรับได้มั้ย+ไปหาเกียร์M/T Viosเองบอกเค้าว่าวันเสาที่11 กย 53 จะให้คำตอบก่อนว่าหาได้หรือไม่

วันที่ 11 กย 53 แอบไปซื้อเกียร์เอง(ทรายไม่ได้ไปด้วยพี่เคนไปซื้อกะเฮียเค้า)แล้วได้โทรไปหาพี่เอว่าต้องเอากล่องเกียร์ด้วยมั้ยพี่เอบอกว่าไม่ต้องเพราะอะไรจำไม่ได้แล้วแล้วก็บอกเค้าว่าไม่มีคันเกียร์เป็นอะไรป่าวเค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรก็เลยซื้อมาเลยเดินทางไปที่อู่ที่เอประมาน1ชมได้ สิ่งที่ได้เห็นคือยกเครื่องเดิมลงไปแล้วห้องเครื่องว่างป่าว(ตอนนั้นคิดในใจว่าทำมั้ยยกลงเร็วจังถ้าไม่เปลี่ยนเครื่องแล้วตอนนั้นจะทำยังไง)แล้วก็ได้คุยกะพี่เอเรื่องเครื่องแล้วก็จ่ายตังค์ไป 19000บาท บอกพี่เอด้วยว่าจะติดพวงมาลัยเพาเวอด้วยพี่เอบอกว่าไม่มีปัญหามาติดทีหลังก็ได้ไปหาแร็กมาก่อนพี่เอบอกว่าปั้มเพาเวอมันติดที่เครื่องเอามาติดตอนไหนก็ได้

วันที่ 13 กย 53 ตอนเดินทางได้โทรหาพี่บัติพี่บัติบอกว่ากำลังไปดูเครื่องให้เราอยู่ พอทรายไปดูเองที่อู่พี่เอเดินไปดูรถตัวเองเห็นเครื่องมาวางอยุ่ในรถแล้ว ตอนนั้นพี่บัติยังไม่กลับมาจากซื้อเครื่อง ก็รอ!! สักพักนึงพี่บัติก็กลับมาบอกว่าพี่ไปซื้อเครื่องกะพี่เอมาเครื่องนี้ดูสดใหม่กว่าอีกข้างในใสกริ๊ง พอเดินไปถามพี่บัติว่าทำไมรถทรายถึงมีเครื่องวางอยุ่แล้วอะพี่บัติบอกไปถามพี่เอ พี่เอบอกว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาครึ่งวันเลยเอาเครื่องพี่ย้งที่ซื้อวันที่ 8 กย 53 ใส่ให้ก่อน....แล้วรถพี่ย้งต้องรอเฟียงเกียร์(ตอนนั้นรู้สึกแปลกๆแล้วล่ะในใจก็คิดว่าถึงเครื่องจะเหมือนกันก็จริงแต่การใช้งานมันต่างกันพี่บัติก็บอกเองว่าเครื่องที่เค้าไปดูใหม่กว่า)แต่ก็โอเคไม่ได้อะไรมากพอรับได้

***เคยบอกพี่เอแล้วด้วยนะว่าเราไม่รีบเอาให้มันใช้ได้ดีที่สุดสมบูรณ์ที่สุด***

หลังจากนั้นก็ไปดูรถตัวเองตลอดเรื่องแร็กเพาเวอพี่เอบอกว่ากลับจากทริปแล้วจะติดให้ก็เลยไม่ได้ว่าอะไร(ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ติดเลย555)

วันที่ 24 กย 53 พี่บัติซื้อเสื้อแร็กมาให้แล้วฝากไว้ที่อู่พี่เอ จริงๆตอนที่รู้ว่าจะได้แร็กอยากให้พี่เอใส่ให้เลยแต่พี่เอให้เหตุผลว่าถ้าจะติดเลยนะต้องยกเครื่องลงแล้วก็ติดใช้เวลา2วันพี่เอบอกว่าขับๆไปก่อนก็ได้ยังไม่ต้องติดมาติดทีหลังเดี๋ยวประกันเครื่องหมด(เครื่องพี่ย้งซื้อวันที่8 ตค 53)

วันที่ 27 กย 53 ไปดูรถอีกครั้งถามพี่เอว่าต้องทำท่อด้วยหรอพี่เอแนะนำว่าจะทำท่อเค้าจะเดินท่อเลสให้ก็เลยบอกว่าทำก็ทำ...พี่เอนัดวันพุธที่29 กย 53มารับรถ
แล้วก็ได้คุยเรื่องแร็กกันอีกครั้งนึงถ้าจะให้พี่ติดให้ต้องเสียเงินเพิ่มรึป่าวพี่เอบอกว่าถ้าติดอาจจะต้องเสียตังค์เพิ่มนิดหน่อยแล้วก็ค่าสายอะไรพวกนี้ตอนนั้นก็บอกพี่เอไปด้วยนะว่าติดให้เลยไม่ได้หรอพี่เอบอกเองว่ายังไม่ว่างเลยช่วงนี้งานเยอะขับๆไปก่อนเถอะเดี๋ยวประกันมันหมด***หลังทริปจะติดให้***

วันที่ 29 กย 53 โทไปหาพี่เอว่าเสร็จตามนัดแล้วรึยังพี่เอบอกว่ายังไม่เสร็จเลย...ก็ไม่เป็นไรรอ!!

วันที่ 30 กย 53 พี่เอเอาเบอร์พี่กุ้งโทรมาบอกว่ารถเสร็จแล้วเลยไปรับรถเคลียร์บิล
พี่เอพาไปลองรถตอนที่พี่เอลองไม่มีอาการอะไรเลยมีแต่ตบตรงหน้าปัดเข็มรอบไม่ขึ้นพี่เอบอกว่าถ้าหน้าปัดเข็มค้างก็ตบๆมันหน่อยมีเสียงจากห้องเครื่องคือแอร์โฟกระแทรกฝาโปรง ไฟเอ้นจิ้นโชว์พี่เอบอกว่ามันค้างแบบนี้ก็ไม่เป็นไรเพราะเครื่องชนเกียร์ออโต้มาแล้วเราเอามาชนเกีย์M/Tไฟเลยโชว์เด๋วพี่แก้ให้หลังจากกลับมาทริปพร้อมติดแร็กเลย แล้วก็ทำกล่องแอร์โฟว์เดินท่อเลสให้ด้วย แล้วก็ไปเติมน้ำมันเช็คเข็มน้ำมันเติมเต็มถัง พี่เอลอง1รอบแล้วก็ขับรถกลับบ้าน

***อาการตอนที่รับกลับมามีเสียงดังบริเวณคอนโซล+ห้องเครื่อง คันเร่งวอดหนักมาก เข็มน้ำมันไม่ลดลงเลย(คิดในใจมันประหยัดขนาดนั้นเลยหรอ) เข็มความร้อนไม่ขึ้น-ลงเลย แต่เครื่องแรงมากเหยียบได้ถึง140กม/ชม นี้คือตอนขับรถกลับจากอู่พี่เอมาพระราม2

วันที่ 1 ตค 53 ลองเอารถมาขับเล่นดูอาการวอดเริ่มหนักขึ้นเกือบโดนชนหลายรอบเข็มน้ำมันก็ไม่ลงเลยค้างอยุ่ข้างบนตลอดเลย

วันที่ 2 ตค 53 เอารถไปให้น้องเพชรลองดูปรากฎว่าก็วอดเหมือนกันเลยเอากลับไปแก้ที่อู่อีกครั้ง บอกอาการเค้าว่าเป็นแบบนี้พี่เค้าก็เปลี่ยนอะไรให้ไม่รุ้ที่เห็นมีถอดติ๊กกะกล่องอะ พี่เอบอกว่าแก้แล้วลองเอาไปขับดูก่อน

วันที่ 3 ตค 53 ลองขับรถเล่นๆดูทั้งวันมีวอดบ้างแต่น้อยลงหน่อยเก็บอาการที่เกิดขึ้นแล้วนั่งจดว่ามีอาการยังไงมั้งจดได้ประมาน15ข้อที่ต้องแก้ไขแล้วได้ลองจับดูว่ากินกี่โลลิตรตอนนั้นจับได้ประมาน12โลลิตร

วันที่ 4 ตค 53 เข้าไปที่อู่พี่เอเอารายการแก้15ข้อไปหาพี่เอดู(พี่บัติก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยด้วย)พี่เอบอกว่าสงสัยเร็กกูเลเตอร์ในมันเสีย พี่เอเลยแก้อาการโดยการติดเร็กกูเลเตอร์นอกให้ตอนนั้นพี่เอบอกว่าติดของSARDแท้มาให้เลยนะ ราคา4000บาท ติดนี้แล้วอาการ15ข้อนี้หายเลย พอกลับมาถึงบ้านจะจอดมีอาการเกิดขึ้นอีกคือรอบเครื่องตกจาก600รอบลงมา2-300รอบแล้วก็เร่งไม่ขึ้นเข็มตกจนเครื่องดับโทรหาพี่เอบอกอาการให้เค้าฟัง...พี่เอนัดให้เข้ามาดูอีกวัน

วันที่ 5 ตค 53 เข้าไปหาพี่เอพี่เอเช็คแล้วบอกว่าให้ลองเปลี่ยนกรองเบนซิลดูราคา 700 บาท แล้วเย็นวันนั้นก็ไปกินที่ร้านโคขุน-ปลาเผา วันนั้นพวกพี่ๆได้ขอมาดูเครื่องที่วางแล้วมีแต่พวกพี่ๆเค้าถามว่าไอ้ที่เป็นเข็มๆมันคืออะไรพี่เอก็เลยบอกไปว่าเร็กกูเลเตอร์ แล้วพี่วัชรถามว่าตั้งไว้ที่เท่าไหร่พี่เอบอกว่า 3.5 บาร์

หลังจากนั้นก็ขับมาเรื่อยๆจนวันไปทริป

วันที่9 ตค 53 ลองจับดูว่าติดนี้มาแล้วกินได้กี่โล/ลิตร ปรากฎว่าได้12โล/ลิตรเท่ากัน เลย งงๆ ว่าทำไมออกตจว ทำไมกินเท่าในเมืองเลยอะแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าไม่วอดเป็นพอ

ขับมาเรื่อยๆจนเกิดอาการอีก

วันที่ 14 ตค 53 ขับรถลุยน้ำท่วมประมานข้อเท้าแล้วอาการที่เกิดขึ้นคือ รอบต่ำมากแค่2-300รอบ เครื่องดับเอง เร่งไม่ขึ้นคือวอดนั้นเอง

วันที่ 16 ตค 53 เข้าอู่พี่เออีกครั้ง พี่เอแก้อาการที่เกิดขึ้นวันที่ 14 ตค 53 แล้วก็เปลี่ยนปั้มติกใหม่ให้ตอนนั้นก็ได้เจอพี่เจี๊ยบแล้วได้ซื้อล้อพี่เจี๊ยบวันนั้นเลย พอขากลับพี่เชอรี่ติดรถมาด้วยเร่งขึ้นจนถึง160เลยล่ะวันนั้นคิดว่ารถคงจะปกติแล้วเลยแวะไปกินข้าวที่เซ็นทรัลพระราม 2 กินเสดแล้วจะกลับ อ้าว...งานเข้ารถสตาดไม่ติดเลยตอนแรกคิดว่าน้ำมันหมดเลยไปเดินหาซื้อน้ำมันมาเติมพอเติมเสร็จมาสตาดก็สตาดไม่ติดเลยตอนนั้นเวลาประมาน3ทุ่มกว่าๆโทหาพี่เอก็ปิดเครื่องไม่รุ้จะทำยังไงเลยโทหาแบงค์เล่าอาการให้แบงค์ฟังสรุปเลยทิ้งรถไว้ที่เซ็นทรัล1คืน

วันที่ 17 ตค 53 แบงค์มารื้อรถดูอาการให้ แล้วแบงค์ก็บอกมาว่าปั้มติกน่าจะมีปัญหานะเลยถอดออกดูตอนนั้นโทหาพี่เอ พี่บอมบ์ พี่ต้น พี่จี๊ด ถามเกี่ยวกะปั้มติกว่าถอดยังไง อาการแบบนี้ช๊อดรึป่าว สรุปไม่มีพี่คนไหนตอบได้เลยจนแบงค์ลองถอดออกดูได้แล้วก็เอาปั้มติดมาเช็คสรุปปั้มติกก็ไม่เสียพอประกอบกลับสตาดดูติดปกติซะงั้น เลยขับกลับบ้านรอไปให้พี่เอเช็คดูอีกทีพรุ่งนี้

วันที่ 18 ตค 53 เข้าไปที่อู่พี่เออีกครั้ง ช่างเตี้ยมารื้อปั้มติกที่ใส่กลับไม่สมบูรณ์ให้ เค้าถามอาการก็บอกเค้าไปว่าเป็นแบบวันที่17 ตค 53 ช่างเค้าก็ งง บอกว่าตอนนี้ขับได้ปกติแล้วใช่มั้ย เค้าก็ถอดออกดูมีสายไฟ2เส้นหลุดน่าจะมาจากที่วัดลูกลอยเค้าก็เอาไปบักกรีให้ใหม่มาดูๆแล้วก็บอกว่ามันก็ไม่ได้เป็นอะไรนิ แล้วก็ประกอบกลับให้เหมือนเดิม พอจะกลับ สตาดเครื่องเข็มหน้าปัดไม่ขึ้นเลยซะงั้น จะเรียกพี่เอมาดูรอเค้าอยุ่สักพักช่างเตี้ยเดินมาเข็มดันใช้ได้แล้วก็บอกเค้าเค้าก็ทำหน้า งง แล้วบอกว่าเอากลับไปลองดูก่อน

วันที่ 21 ตค 53 เอารถไปขับ...เดินทางเข้าเส้นสารธรถติดมากๆๆๆๆๆขับแบบไม่เปิดแอร์ช่วงนั้นอาการเริ่มเย็นๆแล้ว(ตอน1ทุ่มกว่าๆ)ขับไปติดไฟแดงนานมากรถเคลื่อนตัวช้า แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น มีเสียงดังแกร๊ก...ดังมากจากฝาโปรง 1 ที ตอนนั้นคิดว่าน่าจะมาจากรถคันอื่น พอรถเลื่อนๆ ไปสักพักทีนี้ควันออกจากฝาโปรงเลยเครื่องดับเอง(เข็มวัดความร้อนไม่ขึ้นเลย)เลยจอดเลยแล้วก็เปิดฝาโปรงดูถังพักน้ำสำรองฝาเปิดน้ำเดือดควันออกมาเต็มเลยไม่รุ้จะทำยังไงเลยพยายามจะปิดพอปิดได้แล้วไปสตาดก็ไม่ติดน้ำยังเดือดอยุ่เลยนะ...ก็เลยเปิดฝาโปรงทิ้งไว้ประมาน15นาทีให้เครื่องมันเย็นลงพอมาสตาดติดขับเข้าปั้มโทหาพี่เอ..พี่เอก็อธิบายว่าเคสแบบนี้ไม่เคยเจอเลยนะเค้าให้คำตอบไม่ได้ก็เลยนัดให้เอารถเข้าไปดู...ตอนอยุ่ที่ปั้มเครื่องร้อนมากสตาดเครื่องปิดแอร์แล้วก็เร่งพัดลมหม้อน้ำไม่ทำงานไม่รุ้จะทำยังไงเลยขับกลับบ้าน

วันที่ 22 ตค 53 ตอนเช้ามาเปิดฝาโปรงดูน้ำในถังพักน้ำสำรองหายไปหมดหม้อน้ำก็ไม่มีเลยคงจะเดือดจากเมื่อคืนวันที่21ตค53ก็เลยไปหาน้ำมาเติมใหม่แล้วก็ขับไปอู่พี่เอขับแบบเปิดแอร์มาตลอดทางเลยนะพอถึงอู่พี่เอเปิดฝาโปรงดูน้ำในถังพักน้ำสำรองก็หายหมดอีก...ไม่รุ้ว่าเกิดจากอะไรช่างเตี้ยมาดูให้เค้าก็ งง อีกตามเคยเค้าถามอาการอีกก็บอกเค้าไปเหมือนเดิมว่าปิดแอร์ขับไปที่ๆรถติดหนักๆฝาพักน้ำสำรองเปิดออกเดือดผุดๆ พอลองเร่งพัดลมไม่ทำงาน พอช่างเตี้ยหาน้ำมาเติมลองสตาดปิดแอร์ขยับโน้นนี้นั้นในห้องเครื่องประมาน10นาทีได้แล้วเค้าก็ลองเร่งดูพัดลมดันทำงาน ช่างเตี้ยบอกว่าไม่เป็นอะไรขับกลับได้เลย ในระยะเวลา10นาทีช่างเตี้ยทำอยุ่นั้นพี่เคนก็ได้ไปคุยกะพี่เอ...พี่เอเค้าก็เริ่มบ่นๆแล้วว่ามาทำไมบ่อยๆว่ะเริ่มจะเบื่อขี้หน้าแล้วนะ(คิดว่าเค้าคงจะพูดเล่นไม่ได้คิดอะไรไม่ได้ติดใจจริงๆ)ตอนนั้นพี่เคนเค้าเล่าให้ทรายฟังว่าคุยกะพี่เอแล้วนะว่าอยากให้พี่เช็คให้มันจบที่เดียวเลยได้มั้ยอะทิ้งรถไว้ก็ได้แม่จะให้ขายรถทิ้งแล้วเนี่ยเปลี่ยนเครื่องมามีแต่ปัญหา...ถามพี่เอกะพี่แหม่มได้ว่าพูดจริงรึป่าว ที่บอกว่าไม่ยอมทิ้งรถโน้นนี้นั้นเร่งจะเอารถกลับ ขอถามกลับนะค่ะถ้ารถมันไม่สมบูรณ์แล้วใครเค้าอยากจะขับกัน

วันที่ 24 ตค 53 ได้โอกาสขับไปอัมพวาลองเติมน้ำมันเต็มถังดู1300กว่าบาทได้40กว่าลิตร ขับไปก็เลยลองจับดูเลยว่ากินกี่โลลิตร ปรากฎว่าวัดได้กินที่7โลลิตรกว่าๆ วันนั้นเริ่มตะหงิดๆในใจแล้วว่าทำไมเติมน้ำมันมันวันเว้นวันเลยอะ หรือว่าเราคิดผิด...คิดทางบวกไว้ก่อน วันนั้นเร่งความเร็วได้แค่120กว่าจะขึ้น140ยากอยุ่

วันที่ 27 ตค 53 ถึงกำหนดที่พี่เอบอกว่าจะต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่2000โลก็มาเปลี่ยนกะพี่เค้า พอเปลี่ยนเสร็จก็ได้คุยกะพี่บัติว่ารถเหมือนเร่งไม่ขึ้นอะเหมือนมันไปอั้นที่120จะขึ้น140นานอยุ่พอถึง140ก็ค้างเลยพี่บัติเลยจัดการเอารถไปลองพี่เค้าบอกว่าเร่งปกติดีใช้ได้พี่เคนก็นั่งไปด้วยรอบ2มันก็ปกติ ก็เลย งง ว่าทำไมวันที่ไปอัมพวาเร่งไม่ขึ้นก็ไม่เป็นไรเร่งขึ้นแล้วก็ดีใจแต่เข็มน้ำมันนี้ลดลงไปขีดนึงเลยอะพี่บัติไปวนรอบสั้นๆ2รอบ
พอขับกลับพอดีไปทำธุระที่ศรีปทุมเลยไปเจอน้องเพชร น้องเพชรบอกว่าทำไมปลายท่อพี่มีกลิ่นเหม็นฉุดจนแสบตาเลยอะพี่ ทรายก็ไม่รุ้จะบอกยังไงน้องเพชรบอกว่าเปิดฝาโปรงดูหน่อยได้มั้ยอะพอเปิดให้ดูเร็กกูเลเตอร์มันตั้ง3.5บาร์น้องเพชรตกใจเลยบอกว่าน้ำมันมันหนาไปทำเหมือนกะรถแข่งติดเทอร์โบเลย ก็เลยมาคิดดูว่าเครื่องN/Aจะเป็นต้องใส่เร็กกูเลเตอร์นอกมั้ยพี่เคนไปถามเพื่อนๆเค้าได้คำตอบมาว่าที่กินน้ำมันเพราะเร็กกูเลเตอร์นี้ล่ะเครื่องN/Aไม่ได้เซตโบไม่จะเป็นต้องมีหรอก พอได้คำตอบนั้นยังไม่เชื่อคิดว่าพี่เอทำถูกแล้ว...ตกดึกวันนั้นเกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้รถดับเองสตาดไม่มีเสียงแชะเลยแต่ไฟเปิด-ปิดออนได้ไม่รุ้จะทำยังไงเลยให้ตำรวจมาช่วยเข็น มีตำรวจคนนึงบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้มี2อย่างไม่สายไฟกุญแจหลุดก็ไดสตาดเสีย เค้าเลยบอกว่าเข็นแล้วตบเกียร์ดูก็สตาดติดขับกลับบ้านพอจะจอดดับเครื่องไม่ได้เลยเข้าเกียร์1แล้วปล่อยครัชเลย

วันที่28 ตค 53 เข้าไปที่อู่พี่เออีกครั้งไปให้ช่างเตี้ยดูเค้าก็แกะๆออกมาสรุปกุญแจตรงดูดเตะหักพี่เอบอกว่าถ้าจะซ่อมเด๋วเค้าหาอะไหล่ให้แต่ต้องซื้อมาทั้งคอเลยนะ ส่วนราคาไม่รู้จริงๆพี่เอพูดมาเหมือนพูดเล่นว่าพี่เคยไปซ่อมมาราคา5000บ้าง8000บ้าง13000บ้าง พอเข้าไปคุยกะเค้าจริงๆเค้าบอกว่าถ้าจะเปลี่ยนต้องซื้อมาทั้งคอราคาประมาณ3000กว่าๆได้แต่ไม่มีตังค์แล้วก็เลยยังไม่ทำให้พี่เอต่อตรงมาให้ก่อนเลยพอดีวันนั้นมีธุระด้วยต้องไปแถวอ่อนนุชเลยขับออกมาจากอู่พี่เอ แล้วอาการมันก็เกิดอีกจนได้เร่งแล้ววอดอีกแล้วติดไฟแดงรอบตกดับเองเป็นแถวสะพานใหม่1ครั้งสตาดไม่ติดเลยสตาดก็ยากเพราะไม่มีกุญแจ...555ใช้จี้เอารอจนประมาน10นาทีมาลองสตาดดูก็ติด แล้วก็มาวอดอีกที่รัชดาอาการเดิมเลยเข็มความร้อนไม่ขึ้นด้วยขึ้นค้างที่ครึ่งนึงตลอดเลย(เลยคิดว่าคงจะวัดความร้อนไม่ได้จริงๆ)ทิ้งไว้เหมือนเดิมมาสตาดก็ติดที่นี้พอถึงอ่อนนุชเครื่องมันคงทนไม่ไหวแล้วล่ะสตาดไม่ติดเลยเลยโทรหาดุ๊กว่าเป็นอะไรยังไงดุ๊กก็บอกว่าไม่รุ้เครื่องญี่ปุ่นเลยโทรหาเพื่อนเพื่อนเลยเรียกรถมาลากไปที่อู่

สิ่งแรกที่อู่ถามคือ
1.ติดเร็กกูเลเตอร์มาทำไมอะมันจำเป็นต้องใช้ถึงขนาดนั้นเลยหรอพี่เคนก็เลยอธิบายไปว่าไม่ใส่แล้วมันจะวอดอู่ที่วางเครื่องเค้าเลยใส่มาให้(ที่อู่ถามว่าถอดออกได้มั้ยก็เลยลองดู)
2.ที่อู่วางเครื่องเค้าเอาสายท่อน้ำมันเก่ามาใส่ให้หรอท่อแตกลายงาแล้วจะแตกแล้วเนี่ย
3.ปั้มติกสายแตกในถังปลายสายท่อดูดส่งน้ำมันเปี่อยแล้วฉีกขาดทำไมเค้าไม่เปลี่ยนให้อะ
4.หน้าปัดความร้อน+เข็มวัดน้ำมันใช้งานไม่ได้จริง(ตอนที่เค้าเปิดถังดูน้ำมันมีอยุ่นิดเดียวเองเข็มขึ้นมา1ขีด)
5.ไฟเอ็นจิ้นทำไมโชว์อะเค้าไม่ลบให้หรอ

ที่อู่ที่ไปทำแก้งานคือ
1.ถอดเร็กกูเลเตอร์นอกออกแล้วบอกเราด้วยว่าซื้อมาเท่าไหร่เราก็บอกเค้าไปว่า4000บาทที่อู่บอกว่าของปลอมอะอุดรูที่ท่อต่างๆ
2.เปลี่ยนสายน้ำมันที่แตกลายงใหม่หมด
3.เปลี่ยนปั้มติกแล้วก็ตัดปลายสายที่ฉีกออก
4.เค้าบอกว่าต้องไปหาช่างไฟ
5.เค้าถามว่ากล่องเกียร์อะไรก็เลยบอกเค้าไปว่าออโต้มั้งเค้าก็รื้อเอากล่องออกมาดูว่าก็ดูวงจรข้างในสิ่งที่เห็นคือมีไอซีตัวนึงเหมือนจะไหม้มาล่ะมีจุดดำๆกลางตัวไอซีเลยแล้วช่างเค้าก็เลยอ่านโคดจากไฟเอ็นจิ้นได้โค๊ด 62 ฯลฯ
เอารถไปทิ้งไว้ที่อู่ประมาน2-3วันเพื่อแก้อาการลองเอามาขับดูก็ปกติดี
พอวันที่จะไปรับรถพี่เคนก็เลยถามว่าติดแร็กให้ได้มั้ยเค้าบอกว่าได้แต่เค้าดูแล้วว่าไม่มีปั้มเพาเวอร์นะเราก็คิดว่ามีเพราะพี่เอบอกว่ามันติดมากะเครื่องอยุ่แล้วพี่ไม่ถอดหรอกพี่ให้เราไปหาเสื้อแร็กมาก็ใส่ได้แล้ว เลยจัดการกลับไปเอาปั้มเพาเวอร์กะแร็กแล้วก็สายพานทันทีเมื่อวันที่3 พย 53 ได้เข้าไปเอาของที่อู่พี่เอ...เอาเร็กกูเลเตอร์นอกไปคืนเค้าแล้วก็ถามหาปั้มเพาเวอร์กะแร็กเราทันที พี่เอบอกว่ามีแต่ปั้มนะ แร็กพี่เอาใส่ให้คนอื่นไปแล้ว(ได้ยินแบบนี้เซ็งเลยจากใจเลยนะไม่บอกเจ้าของเลยสักคำถ้าไม่ไปเอาเองไม่รู้เลยนะเนี่ยเครื่องก็ทีนึงแล้ว)เค้าบอกว่าจะหาซื้อแร็กมาคืนให้ เลยบอกเค้าไปว่าไม่เป็นไรพี่งั้นเอาเงินมาก็ได้เดี๋ยวไปหาซื้อเองก็เลยได้มาแต่ปั้มเพาเวอร์มาอย่างเดียว แล้วก็คุยเรื่องไฟเอ็นจิ้นพี่เอบอกว่ามันลบไม่ได้ต้องมีปลั๊กแล้วปลั๊กมันอยุ่ที่คอนโซนของวีออสพี่เค้าบอกว่าจะลบป่าวล่ะเข้ามาที่อู่พี่ดิเดี๋ยวลบให้(มารู้จากพี่กอล์ฟว่าพี่เอลบไม่เป็น)ถ้าลบไม่เป็นพี่ก็บอกตรงๆได้เลยเราไม่ว่าพี่หรอก

สรุปปัญหาจริงๆมีแค่นี้
1.แก้วอดไม่ได้เลยติดเร็กกูเลเตอร์นอก(ปลอม)มาให้แล้วคิดตังเพิ่ม4000บาท ผลลัพธ์คือกินน้ำมันโครต เติมสัปดาห์ล่ะ2000ได้
2.หน้าปัดใช้งานไม่ได้จริงความร้อนไม่ขึ้นเลยต่อให่เครื่องฮีตขนาดไหนก็ไม่ขึ้นเลย เข็มน้ำมันอย่าพูดเลยเสยอารมณ์
3.ท่อน้ำมันในห้องเครื่องเก่าจนแตกลายงาแล้ว
4.ไฟเอ็นจิ้นโชว์ไม่รู้ว่าอันนี้มีผลลัพธ์อะไรป่าวกล่องมันยังมองว่าเป็นเกียร์ออโต้อยู่เลย
5.ช่างเราคอนโทลงานไม่ได้เพราะว่าเราไม่รู้เรื่องแล้วก็ไม่รู้ว่าเค้าอธิบายมาจะถูกรึป่าว
6.คิดว่า(ความคิดเห็นส่วนตัว)การวายริ่งก็น่าจะมีปัญหาด้วยเช่นพัดลมหม้อน้ำเดี๋ยวทำเดี๋ยวไม่ทำ ไม่รู้ว่าใช้รึป่าว

ปัญหาส่วนตัว
1.คอนโทรนช่างไม่ได้เพราะไม่รู้เรื่องบอกอะไรมาก็เอออ่อตามอย่างเดียว(ความคิดส่วนตัว)ถ้าลูกค้าอยากได้อะไรต้องจัดการให้ตามที่ลูกค้าต้องการไม่ใช้ว่าอยากได้อะไรเยอะเลยก็แค่ติดแร็ก แล้วก็มีช่วงนึงที่ถาม ควิกชิพ
2.เคยบอกพี่เอตั้งแต่ตอนวางใหม่ๆเลยว่าไม่รีบทำไปเรื่อยๆเลยพอเข้าไปก็เจอแต่คำว่าลองเอาขับดู...พอวันที่พักน้ำสำรองเดือดก็บอกพี่อีกรอบแล้วนะว่าเอาไปแล้วว่าแก้ให้จบเลยได้มั้ยทิ้งรถก็ได้แม่จะให้ขายรถแล้วแต่ก็เข้าใจว่างานที่อู่พี่เค้าเยอะรถก็เยอะพี่ก็บอกว่าไม่มีเวลา
3.ที่ลองไปหาอู่ใหม่ไม่ใช้ว่าพี่เอทำไม่ดีนะแต่พี่เอทำไม่จบแค่นั้นเองมันเหมือนการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุรู้สึกมันมีปัญหาตลอดก็ลองอ่านดูข้างบนแล้วจะรู้ว่าไปบ่อยแค่ไหน
4.เสียความรู้สึกตอนที่เอาของของเราไปสลับหรือให้คนอื่นโดยที่ไม่บอกเจ้าของ(ถึงมันจะเหมือนกันแต่อายุการใช้งานมันต่างกัน)หรือเอาของปลอมมาขาย(ถ้าไม่รู้จริงๆก็ไม่เป็นไร)ถึงบ้างคนจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยถ้าได้เจอกับตัวเองบ้างจะรู้ว่ารู้สึกยังไง(กะจะไม่ระบายความในใจแล้วนะเนี่ย)
5.ระยะทางไม่ใช้ว่ามันจะไกล้ๆกันเลยมาขับวันเว้นวันลองดูมั้งมั้ยค่ะไม่ได้ทำอะไรเลยวันๆก็นั่งคิดแต่เรื่องรถเนี่ย
6.อุตส่าแอบไปทำเงียบๆแล้วไม่อยากให้ฝ่ายใดเดือนร้อนยังจะเอาให้เป็นเรื่องจนได้อีก ไม่รู้ว่าใครคิดอะไรยังไงนะรู้ว่าพี่ๆหวังดีคนเราก็มีทั้งคนรักและคนเกลียดแต่เมื่อมันไม่จบเข้าไปก็เท่านั้นเสียเวลาบอกตรงๆเลยว่านี้ทำได้นี้ทำไม่ได้ยังง่ายกว่าเลย มารู้ทีหลังว่าเป็นแบบนี้ก็เสียความรู้สึกแล้วล่ะค่ะ

ฝากถึงพี่เอนะค่ะ ทรายกะพี่เคนไม่ได้จะอคติกะอู่พี่เลยนะค่ะแต่ลองปรึกษาเพื่อนพี่เคนดูแล้วแล้วคนในเว็บบางกลุ่มมันมีปัญหาจริงๆถ้าพี่บอกว่าทำไม่ได้ก็จบ พี่เอน่าจะรู้นะค่ะว่าทรายกะพี่เคนยังไงก็ได้มีก็เอาไม่มีก็ไม่เอา ไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลายขอจบเท่านี้ค่ะ ความรู้สึกดีๆที่พี่ๆในเว็บนี้มีให้ก็อบอุ่นมากพอแล้วค่ะอย่ามานั่งด่ากันหรือโกรกันเลยเพราะเรื่องรถทรายเลยนะค่ะ อะไรที่ผ่านไปแล้วมันก็คืออดีต คิดแค่นี้ จบ

เรื่อทั้งหมดนี้ไม่ได้แต่งขึ้นมาหรือโกหกแต่อย่างใดลองถามพี่เอดูได้ว่าปัญหาที่เล่ามาทั้งหมดจริงรึป่าวแล้วก็ลองถามอาการที่แก้มาใหม่จากดุ๊กได้เพราะดุ๊กก็อยู่ในเหตุการณ์รู้ถึงปัญหาว่าเกิดจากอะไร

ถ้าผิดพลาดประการใดขอโทษพี่ๆจากใจจริงเลยนะค่ะไม่ได้จะลบหลู่ดูหมิ่นใครทั้งนั้นแต่เมื่อปัญหามันเกิดรถก็รถเราเดี๋ยวหาวิธีแก้เองค่ะ
ขอโทดที่ต้องเอ้ยชื่อบุคคลที่เจอด้วยนะค่ะ แต่ถ้าใครได้มาเจอปัญหาแบบเดียวกันหรือได้เห็นรถทรายจะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ขอบคุณค่ะที่ให้ระบายทั้งๆที่ไม่อยากจะมีเรื่องถ้าจะแบนด์หรือไล่ออกก็บอกด้วยนะค่ะทำใจไว้แล้ว...555

theone_357 · **Reply #1 on:** 05 Nov 2010, 08:28

ใจเย็นๆนะครับ รถมันจะมีปัญหาให้เราแก้เสมอถ้ามันสมบูรณ์เราก็มีความสุขกับมัน และอู่ซ่อมรถมันไม่มีอู่ไหนที่ 100% หรอกครับเพราะเค้าไม่ได้เก่งทุกเรื่อง ส่วนเรื่อง regulator มีไว้ก็ดีครับเพราะเราจะได้ปรับแรงดันน้ำมันได้แต่ต้องปรับจากอาการในการขับรถนะครับ

jeedz · **Reply #2 on:** 05 Nov 2010, 08:44

Quote from: SiGn on 05 Nov 2010, 05:59

ขอบคุณค่ะที่ให้ระบายทั้งๆที่ไม่อยากจะมีเรื่องถ้าจะแบนด์หรือไล่ออกก็บอกด้วยนะค่ะทำใจไว้แล้ว...555

ทำไมผมต้องแบน หรือ ไล่ใครออกด้วย เพราะคุณเกิดปัญหา??? คิดอะไรกัน ปัญญาอ่อน ไม่เข้าท่าน่ะ

kamolwat_t · **Reply #3 on:** 05 Nov 2010, 08:46

แฮะๆ เช้าที่แสนอบอุ่น... 555

เดี๋ยวขอ เช็คข้อมูล ต่างๆจากทั้ง 2 ฝ่ายนะครับ...

ผมเป็นคนสอนน้องเขาขับรถเองแหละ แฮะๆๆๆ

ตอนที่รถวางเครื่อง ผมไม่ได้ตามข่าว พึ่งมาทราบว่ารถมีปัญหา ก็วันจันทร์ที่ผ่านมาครับ

ขอรวบรวมข้อมูลต่างๆ แล้ว จะมาช่วยอธิบายให้ทุกคนได้ทราบกันนะครับ...

ใจเย็นๆกันก่อนนะฮะ

bost · **Reply #4 on:** 05 Nov 2010, 09:01

มาติดตามครับ เป็นใครมีปัญหากับรถก็ปวดหัวเหมือนกันครับ สู้ๆครับ

jeedz · **Reply #5 on:** 05 Nov 2010, 09:03

เรื่องของอู่กับลูกค้า ครับ พี่เอมาเคลียด้วย ยังไงเนี่ย

optimus · **Reply #6 on:** 05 Nov 2010, 09:07

ใจเย็นๆกันน่ะครับ มีอะไรค่อยๆพูดค่อยๆจากันดีๆ อย่าขี้โมโห อย่าเจ้าอารมณ์ อารมณ์โกรธจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ครับ ถ้าตัดสินกันไม่ได้ก็หาคนกลาง(อาจหลายคนก็ได้)ที่เป็นที่เคารพนับถือ มาช่วยไกล่เกลี่ยครับ
อย่าด่าทอกันน่ะครับ ไม่ดี ไม่ดี

bushsaba · **Reply #7 on:** 05 Nov 2010, 09:09

เห็นใจน้องทรายค่ะ ผู้หญิงเหมือนกัน ไม่รู้เรื่องเครืองยนต์เหมือนกัน

แบงก์ · **Reply #8 on:** 05 Nov 2010, 09:12

ใจเย็นครับ ค่อยๆแก้กันไป

bat · **Reply #9 on:** 05 Nov 2010, 09:13

เบื้องต้น ผมเองก็มีส่วนที่แนะนำน้องเค้า ผมได้เจอะน้องทรายกะเคนบ่อยๆ เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้เบื้องต้นเสนอว่า น้องทรายเอารถพี่ไปใช้ก่อน แล้วทิ้งรถให้อู่แก้ไขให้จบ โดยระหว่างนี้พี่จะใช้รถของทรายเอง ซักระยะ ประมาณ 1 อาทิตย์ เรื่องค่าใช้จ่ายถ้ามีเพิ่มพี่ออกให้เอง

เรื่องเป็นแบบนี้ไม่มีใครสะบายใจหรอก กระทบไปหมดแหละ เดี๋ยวรอเจ้าของอู่มาบอกอีกที

พ่อน้องเก้า · **Reply #10 on:** 05 Nov 2010, 09:23

ตอนนี้เจ้าของอู่เครียดจนเส้นเอ็นสลายแล้วครับ แต่ห้ามไว้ว่าอย่าเพิ่งมาโพสท์ใดๆทั้งสื้น

เพรา่ะอย่างน้อยน้องทรายก็เป็นลูกค้าพี่เค้าจริงไม๊ ทุกอย่างมีเหตุผลในตัวของมันอยู่แล้วครับ

แต่รอหน่อยนะ เจ้าของอูู่่่เค้าก็ไม่ได้สบายใจนักหรอกที่เป็นแบบนี้ ปัญหามันเกิดขึ้นได้

แต่จะทำยังงัยล่ะให้มันออกสวยๆ... ขอเวลาซักแปปนะครับ มีความชัดเจนแน่นอน

ขอให้ใจเย็นๆเอาไว้ทั้ง2ฝ่ายเป็นพอ ส่วนตัวผมก็รู้จักเจ้าของอู่นี้มานานหลายปี

เรื่องความรับผิดชอบ ก็มีไม่น้อยนะครับ ไม่งั้นผม และน้องๆในนี้บางคน

คงไม่ยอมเสียเงินคนละเป็นแสนแสน ให้แกหลอกง่ายๆหรอกจริงไม๊ครับ

แบงก์ · **Reply #11 on:** 05 Nov 2010, 09:26

เป็นกำลังใจให้ทั้งสองฝ่ายครับ

มหิงสา · **Reply #12 on:** 05 Nov 2010, 09:35

ก็ขอเอาใจช่วยนะครับ

ขอพูดในฐานะที่ไปวางด้วยเหมือนกันนะครับ
ของผมเองเอาออกมา ก็มีงานแก้ไขบ้างนะครับ
แต่ทางอู่ก็รับผิดชอบให้ ซึ่งผมก็ ok ในตรงนั้น

ตอนนี้เกี่ยวกับการวางเครื่องทุกอย่าง ok ลงตัวหมดล่ะ
เหลือแต่ช่วงล่างผมที่มีปัญหาตั้งแต่ก่อนเข้า
ก็ค่อยๆแก้ตรงนั้นไป

PeeSard · **Reply #13 on:** 05 Nov 2010, 09:56

ผมไม่ได้อยู่ในโพย.. พี่ไม่รู้...555+

นู๋ทราย พี่จะพูดเป็นกลางๆดีกว่านะ
เรามามอง สาเหตุกันชัดๆก่อนมั้ยว่า ปัญหาหลักอยู่ตรงไหน?
ถ้าจะบอกว่า เกิดจากการเปลี่ยนเครื่อง เราก็ต้องเช็คคนอื่นที่เขาได้เปลี่ยนเครื่องไปว่า
-พวกพี่ๆเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง?
-แล้วองค์ประกอบต่างๆ ของใครเป็นอย่างไร? เราจะได้มาเทียบกับของเรา

การปรึกษา-พูดคุย เป็นสิ่งจำเป็นมากที่สุด แต่เราต้องคุยกับคนที่รู้ปัญหาจริงๆ
เพราะถ้าเราไปคุยกับคนอื่น ที่ไม่ได้เห็นปัญหา มันก็แก้กันไม่ได้ พาลจะเกิดปัญหาเพิ่มมาอีก

งานนี้ อย่าเพิ่งคิดว่า มันจะเป็นอย่างงั้น อย่างงี้ อย่างโง้น บลาๆๆๆๆ
ทุกอย่างมีทางแก้ มันอยู่ที่เราว่า พร้อมที่จะเผชิญหน้าต่อสู้ฟันฝ่าให้มันลุล่วงไปด้วยดีมั้ย

พี่เองตอนเล่นโฟล์คใหม่ๆ ปัญหาก็เยอะ
อะไหล่ราคาแรง เพราะเราไม่รู้แหล่งช้วร์ๆ สอบถามไม่กี่แห่ง ก็ต้องเอาแล้ว
เพราะจำเป็นต้องใช้...อันนี้แระทำให้เราพลาดกันเยอะ เพราะความรีบ เร่งด่วน
สรุป มีหลายสิ่งหลายอย่างให้เราเรียนรู้อีกเยอะ ทั้งด้วยตัวเองและจากการสอบถาม
แต่ก็หมดไปหลายตังค์เช่นกัน กว่าจะรู้จนเอาตัวรอดได้

คอร์ซ่า ก็เช่นกัน แรกๆเอามา (7ปีที่แล้ว) ก็เชื่อเพื่อนว่า อู่นั้นอู่นี้ดี แต่เข้าไปทุกครั้งก็ไม่จบ (เข้าแทบทุกอาทิตย์)
หนีมาอู่สิน จับเท็ค2 เจอตัวการอันเดียว เสียไปแค่พันบาท ขับได้สบายจนถึงทุกวันนี้
อันนี้ถือว่าพี่โชคดี เจออู่อุปกรณ์ครบ

ส่วนกรณ๊ของนู๋ ก็อย่างที่พี่บอก เราลองมาดูตัวปัญหาหลักให้ได้ก่อน
ถ้าเราไม่แก้ให้ถูกจุด มันก็ไม่มีทางจบได้อย่างสบายใจ..

thiratoon · **Reply #14 on:** 05 Nov 2010, 10:11

เข้าใจอารมณ์น้องเคน น้องทรายครับ...เมื่อไม่ได้ดั่งใจ เสียเวลา เสียอารมณ์ มันก็เครียดกันบ้างเป็นธรรมดา..
จะปลดปล่อยอารมณ์เครียด บ้างก็เป็นธรรมดา....ไม่ว่ากันครับ ไม่ใช่เหตุถึงกับต้องมาบง มาแบน อะไรกันครับ

แต่...ขอให้เปิดใจ ทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ...

สำหรับเจ้า DEVADAR ก็มีคิวขึ้นเขียงวันอาทิตย์นี้แล้ว...ไม่เครียดครับ เพราะคาดหวังว่าจะ Smooth เหมือนของน้าย้งเขาหน่ะ เพราะเกียร์ออโต้เหมือนกัน
Lesson learn ที่ดีงานนี้ก็จะไปพัฒนาขึ้นมาอีกในเจ้า DEVADAR หวังว่างั้นนะ

ใจร่มๆ เย็นๆกันนะครับ....

bassoat · **Reply #15 on:** 05 Nov 2010, 11:33

มาเป็นกำลังใจให้เจ้าของรถ

คุณทรายใจเย็นๆ น่ะครับ

เจ้าซ่านั้น พี่ๆในนี้ดูแลให้ได้แน่นอนครับ

jeabjamiro · **Reply #16 on:** 05 Nov 2010, 11:55

http://www.opel.in.th/index.php/topic,6816.0.html อะประมาณนี้นะ อันนี้ผมฝากถามนะนะ เหอะๆ

earth4wd · **Reply #17 on:** 05 Nov 2010, 12:18

เอาใจช่วยคับ เห็นใจ เคยเป็นคับอาการนี้ แก้มาตลอดเหนื่อยก่าจะสำเร็จ บางครั้งท้อ :จุก:แต่ก็คับ เอาใจช่วย

finn-first · **Reply #18 on:** 05 Nov 2010, 13:35

เรื่องที่เกิดขึ้นผมขอชี้แจงดังนี้ :-

- วันที่ 9 กย. ซึ่งเป็นวันที่น้องเค้าเอารถเข้ามาตรวจเช็คอาการเสียงดังของเครื่อง ได้ทำการตรวจเช็คด้วยเครื่องมือเช็คเสียง และวัดกำลังอัด สรุปผลว่าเครื่องชาร์บละลาย ให้น้องตัดสินใจเองว่าจะฟิตหรือจะวางเครื่อง ซึ่งเค้าได้คุยปรึกษากันตกลงว่าวางเครื่อง ซึ่งผมถามซ้ำจนแน่ใจว่าวางแน่และได้สรุปราคาค่าเครื่องและค่าวางให้ตกลงเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเค้าต้องการเป็นเกียร์ธรรมดา ผมได้บอกไปว่า เครื่องนอกส่วนใหญ่เป็นเกียร์ออโต้ เค้าก็บอกว่าจะหาเกียร์มาเองซึ่งผมบอกok. ไม่มีปัญหา

- วันที่ 11 กย. ผ่านไปสองวันช่างเค้าก็ต้องยกเครื่องออกอยู่แล้ว หรือจะให้ผมนั่งเฉยๆไม่ทำอะไร รับค่าเครื่องมา 19000. จริงๆราคาเครื่อง 22000.เนื่องจากไม่เอาเกียร์ เชียงกงหักคืน 3000.เหลือจ่ายจริง 19000.

- วันที่ 13 กย. เนื่องจากต้องรอเฟืองท้ายคุณย้งอีกเป็นอาทิตย์ เพื่อไม่ให้เสียเวลานานเกินไป ผมจึงเอาเครื่องตัวแรกที่ซื้อมาใส่ให้ไปก่อน ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่จะลงรถน้องฯ (มันแตกต่างกันตรงไหน) เครื่องเราไม่ได้ดูกันที่ภายนอก สะอาดเอี่ยมเพราะเค้าล้าง ล้างแล้วมันก็เอี่ยมเหมือนกันหมด สดไม่สดมันอยู่ที่เสียงเครื่อง ท่อน้ำ อุปกรณ์ทั้งหลาย ใหม่แต่เอามาแล้วมันพังคุณก็ว่าผมอีก หลังจากนั้นผมก็ไปซื้อเครื่องมาอีกตัววางให้คุณย้งซึ่งวางแผนเอาไว้พอดีกับเฟืองท้ายที่สั่งไว้ของมาพอดี

ถ้าผมวางเครื่องคุณ 3 เดือน คุณจะรับได้ไหม

- วันที่ 27 กย. การวางเครื่องเป็นการจั้มระบบเข้ากับตัวรถเดิม ท่อไอเสียก็เหมือนกัน ผมก็จั้มเข้ากับท่อเดิม น้องก็เป็นคนบอกเองว่าอยากได้ท่อเลส ผมคิดค่าเดินท่อไป 3500. ซึ่งที่อื่นติดกันเป็น 10000.แต่ไม่ใช่ประเด็น

- วันที่ 29 กย. เนื่องจากรถคุณย้งเข้ามาก่อนก็ต้องเสร็จก่อน มันเป็นเรื่องธรรมดา

- วันที่ 22 ตค. น้องบอกเครื่องมันร้อนพัดลมไม่ทำงาน ขับมาหาผม ได้ทำการตรวจเช็คมันก็ปรกติดี ได้ทำการstartเดินเบาทิ้งไว้ พัดลมก็ทำงานตามปรกติ ซึ่งผมก็ให้น้องดูตรวจสอบด้วย ซึ่งเค้าก็รับรู้ว่ามันทำงานปรกติดี ผมก็งงเหมือนกัน น้องก็งง คืออยากจะบอกว่าอยู่ที่ช่างมันดันไม่เสีย ปรกติดีทุกอย่าง ผมก็ปวดหัวเหมือนกันไม่รู้จะแก้ยังไงในเมื่ออาการมันปรกติ ผมก็เป็นคนถามเองว่าจะทิ้งรถไว้ไหม ซึ่งผมก็เห็นใจเพราะมาไกลจะกลับtaxi ก็ไม่ใช่บาทสองบาท ให้ลองวิ่งดูมันก็ดันปรกติ ช่วยบอกทีเถอะ เรื่องปั้มติ้กผมก็แก้ใขให้ตลอดเปลี่ยนใหม่ให้ สายน้ำมันก็เปลี่ยนทุกครั้ง ไม่เคยคิดเงินเพิ่ม

เรื่อง regulate อ้างถึงวันที่ 4 ตค. ผมเอามาลองใส่เพื่อแก้ปัญหาไม่ใช่จะเอามายัดเยียดให้ ตอนแรกใส่เรกในถังแล้วเปลี่ยนปั้มติ้กมาแล้ว 2 ลูก ก็คิดในใจว่า เรกมันเสียหรือเปล่าเลยใส่ เรก นอกถังเพื่อลองดู ส่วนที่บอกเครื่อง n/a ไม่ได้เซ็ต turbo ไม่จำเป็นต้องมี ถูก แต่ไม่ทั้งหมด รถไม่ว่าอะไรก็ตามจำเป็นต้องมี เรก รุ่นเก่าๆจะอยู่รางหัวฉีด รุ่นใหม่จะอยู่ในถัง ส่วนคันของน้อง ผมได้เรกนอกแล้วลองปรับแรงดันดู ซึ่งตอนแรกตั้งไว้ 2 bar เครื่องสั่น ก็เลยลองไล่ดู ปรับขึ้นไป จนถึง 3 bar รถนิ่งไม่สั่น

วันที่ 28 ตค.น้องได้เข้ามาหาพร้อมเล่าอาการให้ฟังเกี่ยวกับกุญแจ ปรากฏว่าแกนหัก ก็มีทางเลือก 2 ทาง
คือเปลี่ยนคอกุญแจใหม่ กับถอดคอเดิมไปซ่อมซึ่งไม่แน่ใจว่าช่างกุญแจจะทำได้หรือเปล่า 50 50 ซึ่งผมก็ได้อำเล่นแหย่เล่นบ้าง เพื่อไม่ให้เครียด ซึ่งนิสัยผมก็เป็นแบบนี้ ต้องขอโทษด้วย ที่คิดว่าเป็นเรื่องจริง น้องบอกรีบใช้รถผมก็ให้ช่างต่อสวิทนอกไปก่อน เพื่อให้ใช้งานได้ก่อน

เรื่องที่อู่ถาม
1.) ติดเรกเพื่อเป็นการเทสระบบน้ำมันว่ามันใช้ได้หรือเปล่า ไม่ใช่ติดแล้วติดเลย เรกจำเป็นต้องมีแต่จะในถังหรือนอกถังเท่านั้น ถ้าไม่มีเรก แล้วรถวิ่งได้ ผมคงต้องกลับไปเป็นเด็กฝึกงาน

2.) สายน้ำมันเปลี่ยนให้ทุกครั้ง น้องก็เห็นขั้นตอน คงไม่มีใครเอาสายเก่าไปใส่ให้ แต่ทำไมมันแตก บวม คือประเด็น ในเมื่อมันใส่รถคันอื่นมันไม่เป็น แต่ในเมื่อมันเป็นผมรับผิดชอบ

3.) หน้าปัดความร้อน อู่เค้าไม่รู้หรือว่า เครื่อง วีออส มันไม่มีเกร์ความร้อน มันมีแค่ไฟเขียว ไฟแดง ผมเปลี่ยนหน้าปัดเครื่องโตโยต้า โดยฝังอแดบเตอร์แล้วใส่เกร์ความร้อนของโตโยต้า ตอนที่มาหาผมมันก็ขึ้นปรกติ พัดลมทำงานผมก็ชี้ให้ดู น้องก็รับรู้ ok.หน้าปัดเป็นของมือสองอาจจะมีผิดพลาดถ้าเป็นที่หน้าปัดเสียผมรับผิดชอบ

4.) ไฟเอ็นจิ้นโชว์ เคยบอกแล้วมันเป็นเครื่องเกียร์ออโต้ คุณเอาเกียร์ธรรมดามาใส่มันก็ต้องโชว์ ถ้าผมไม่ต่อไฟเช็คน้องจะรู้ไหม ถ้าอยากดับมีทางเดียวคือต่อไฟเข้ากับสวิทน้ำมันเครื่อง หรือเอาเครื่องเทคดับ ซึ่งผมก็มีเครื่องเช็คลองดูในกระทู้ http://www.opel.in.th/index.php/topic,5842.0.html แต่ปัญหาคือ

   1.) คุณต้องมีปลั้ก obd 2 ในตัวรถจึงสามารถต่อกับเครื่องเทคได้
   2.) ปลั้ก obd 2 ไม่มีในชุดสายไฟของเครื่อง มันอยู่ในชุดไฟคอนโซลรถ
   3.) ถ้าคุณไม่แก้ปัญหาถึงคุณสั่งลบ code มันก็จะติดขึ้นมาอีก
   4.) แล้วการที่คุณไปรื้อกล่องโดยไม่บอกผม ถ้ามันมีอะไรขึ้นมา เชียงกงไม่รับผิดชอบ อันนี้ไม่ได้โกหก
   5.) เรื่องเสื้อแร็ค ผมผิดที่เอาไปให้โดยไม่ได้บอกน้องก่อน คือตอนนั้นสั่งมา 2 ชุด ได้มาชุดนึงก่อน พอดี
   มีคนในสมาชิกเรา แร็ครั่ว ผมก็เลยใส่ให้เค้าไปก่อน คิดว่าเดี๋ยวมันมาอีกชุด ก็เก็บไว้ให้น้องเค้า ไม่
   คิดว่ามันจะเป็นเรื่องขึ้นมา กะว่าไปเชียงกง ก็จะเอามาพร้อมกัน ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่อง อันนี้ความผิด
   ผมเองผมขอโทษครับ
   6.) อู่ผม ถึงจะเป็นอู่เล็กๆ เครื่องมือมาตรฐานหรือเหนือมาตรฐานมีครบครับ ขอถามนิดทำไมไม่ปรึกษา
   ผมล่ะครับเรื่องดับไฟเครื่อง
   7.) เรื่อง เรก ตั้งแต่ติดตั้งครั้งแรก ผมบอกน้องแล้วเพื่อลองเทสดู มันใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องเอา แล้วผมก็ไม่
   เก็บเงินค่าเรกสักบาทเดียว ตั้งแต่วันติดจนถึงวันที่คืนของ ประมาณ 1 เดือน ผมรับประกันความพอ
   ใจ คุณไม่ชอบคุณไม่ต้องจ่าย คิดว่าปลอม ไม่ต้องเอา ผมซื้อจากตัวแทนของ บ. .... engineer
   ซึ่งติดต่อกันมาหลายปี คงไม่มาหลอกผมเพราะเงินแค่นี้หรอกครับ ผมคงไม่เอาของจีน หรือ
   ไต้หวัน แล้วมาบอกว่าเป็นของแท้หรอกครับ
   8.) เกร์น้ำมันของ opel มันต้องดัดลูกลอยใหม่ครับ มากกว่า 1 กว่าจะใกล้เคียง น้องไม่เคยถามผม
   เลยครับ เรื่องเกร์น้ำมันเนี่ย ได้ดัดไปแล้วครับตั้งแต่ตอนแรก ถ้าไม่ใกล้เคียงทำไมไม่บอก
   9.) เกร์ความร้อน ตอนที่เอามาดูรถ ทุกครั้งผมให้น้องดูจนกระทั่งพอใจ ว่าไม่มีปัญหา ลองรถจบ
   ไม่ได้ไล่กลับเลยถ้ามีปัญหา
   10.) เครื่องของน้องเป็นเกียร์ออโต้น่ะครับ กล่องเครื่องเป็นกล่องเกียร์ออโต้ เอาเกียร์ธรรมดามาชน
   ไฟมันก็ต้องถามหาสัญญาณเกียร์อยู่ดี เอาเทคดับเดี๋ยวมันก็ติดขึ้นมาอีกผมบอกน้องลองดูก่อน
   เดี๋ยวดับให้ แต่ยังไม่ชัวร์น่ะครับตามเหตุผลที่บอก
   11.) ผมพยายามเข้าใจปัญหาน่ะครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะบอกผิดหรือถูก พัดลมทำงานตามสวิทหัวโต
   หลายท่านเข้าใจการทำงาน สวิทหัวโตแล้วน่ะครับ อาการนี้ สวิทน่ะจะเพี้ยนแล้วครับ
   12.) ผมมีลิมิตในการทำงานน่ะครับ ไม่ใช่ตามใจลูกค้าทุกอย่าง ผมตามใจเฉพาะงานส่วนที่ผมทำแล้ว
   ผมทำงานจบ ผมไม่ทำไดชารต์ ไดสตารท์ ไฟหน้า ไฟภายใน ควิกชิพ ที่คุณว่า เกียร์ปรกติยังเข้า
   เกียร์ 3 เป็นเกียร์ 1 แล้วจะขับควิกชิพได้หรือครับ ขับให้เก่งก่อนครับ รู้รถให้มากกว่านี้ แล้วค่อยแต่งรถครับ

*** ทุกปัญหาผมพร้อมแก้ไขครับ มานั่งคุยกัน ผมพร้อมจะทำให้ ไม่เคยคิดหลอก เพราะเห็นเป็นเด็ก ผมไม่โกรธครับที่มาระบายในเว็บ ยินดีแก้ปัญหา ไม่ซ้ำเติมปัญหาครับ ***

thiratoon · **Reply #19 on:** 05 Nov 2010, 13:48

บุญพาวาสนาส่ง..ให้เธอทั้งสองเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะ มีปัญหาร่วมกันก็ช่วยกันแก้ไข..ทำความเข้าใจในปัญหาให้เยอะ และ ขอให้มีความสุขไปตราบถือไม่เท้ายอดทอง ตะบองยอดเพชร...น๊า.."

ใครเครียด

ขอให้..ตัน...สาตุ๊

ตาผมเครียดมั้ง..ผมจะตันมั้ยเนี่ย.??

PeeSard · **Reply #20 on:** 05 Nov 2010, 14:12

Quote from: thiratoon on 05 Nov 2010, 13:48

ผมจะตันมั้ยเนี่ย.??

ขอให้วิ่งได้แค่ 90 ตาม กม.จราจร กำหนด.. 555

jui2512 · **Reply #21 on:** 05 Nov 2010, 14:28

Quote from: thiratoon on 05 Nov 2010, 13:48

บุญพาวาสนาส่ง..ให้เธอทั้งสองเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะ มีปัญหาร่วมกันก็ช่วยกันแก้ไข..ทำความเข้าใจในปัญหาให้เยอะ และ ขอให้มีความสุขไปตราบถือไม่เท้ายอดทอง ตะบองยอดเพชร...น๊า.."

ใครเครียด ขอให้..ตัน...สาตุ๊

ตาผมเครียดมั้ง..ผมจะตันมั้ยเนี่ย.??

ไม่เป็นไรถ้าตัน เดี๋ยวพาไปต่อท่อให้

หนานมา · **Reply #22 on:** 05 Nov 2010, 15:11

อ่า...

ผมสงสัยข้อเดียวครับ...เรื่องสายน้ำมัน กับน้ำมันที่ใช้

แค่สงสัยนะครับ...ถ้าน้ำมันที่ใช้เป็นโซฮอล์ฯ

รับรองได้ใหม่แค่ไหน แตกกระจุย ยุ่ยกระจายในเวลาอันสั้นครับ

สายที่พอทนได้ ก้อคือสายที่มีมาพร้อมกับรถเท่านั้น

ผมเข้าใจทั้งสองฝ่ายครับ...

เคยเป็นทั้งสองแบบ...แต่ไม่เคยเครียดกับใครนะ

ทุกวันนี้หลายคนยุให้ผมเปิดอู่...คำตอบจากผมคือ...

มะเอาดีกว่า...

แต่ถ้าจะให้ช่วยทำให้...พอทำได้ครับ ไม่รับประกันนะ....

thiratoon · **Reply #23 on:** 05 Nov 2010, 15:38

Quote from: PeeSard on 05 Nov 2010, 14:12

Quote from: thiratoon on 05 Nov 2010, 13:48
ผมจะตันมั้ยเนี่ย.??

ขอให้วิ่งได้แค่ 90 ตาม กม.จราจร กำหนด.. 555

แง....งั้น 1NZ จะมีประโยชน์อันใดเล่า พะยะคับ

Quote from: jui2512 on 05 Nov 2010, 14:28

Quote from: thiratoon on 05 Nov 2010, 13:48

ตาผมเครียดมั้ง..ผมจะตันมั้ยเนี่ย.??

ไม่เป็นไรถ้าตัน เดี๋ยวพาไปต่อท่อให้

อย่าน่าน้า..แค่ลอกท่อ ก็พอฮะ เค้าเสียว...

bat · **Reply #24 on:** 05 Nov 2010, 16:13

จากเรื่องราวทั้งหมดตามที่ได้อ่าน ผม มีส่วนเป็นหมา

แต่ไม่เครียด ใครคิดว่าผมมีประโยชน์พูดคุยได้ก็คุยกันเหมือนเดิม ส่วนอื่นไม่สนใจและพอกับเรื่องราวนี้

ทรายกับเคน เมื่อไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร พี่ยังเหมือนเดิมยังรับสาย โทรมาละกัน เพราะเข้าใจ

jeabjamiro · **Reply #25 on:** 05 Nov 2010, 16:18

เหอะๆ ไม่มีใครสนใจผมเลยง่ะ เรียกร้อง ความสนใจ หน่อยครับ
ล้อผมซ่อมได้ไหม เป็นไงมั่ง ใช้ได้ไหมอะ เดี๋ยวพังผมโดนสวดอีกทั้งเพื่อน ทั้งแฟนฮ่าๆ
แล้วก็เบรคนะ ยังสนอยู่ไหมครับ ของเครื่อง 2.0 8 วาวว์ เวคตรเาเอ ครับแต่ผมยังไม่เห็นสภาพนะ ว่าจานกะผ้ามากน้อยแค่ไหนนะ
เหอะๆ แบบนี้ไม่มีใครสบายใจหลอกครับ ทุกคนป่วยหมดและ เหอะๆ

วันไปหาพี่เอ ก็ชวนดุ๊ก สนเพรชไปด้วยก็ได้ ไปกันให้ ครบๆ จะได้จบเรื่องแบบทุกแง่มุมนะ
ผมอยากรู้ความคิดเห็นทุกๆคนในเวปนะครับ ว่าเรื่องแบบนี้พี่ๆ เพื่อนๆ มีความคิดเห็นกันว่ายังไงบ้าง
เพราะผมไม่สบายใจเลย เหอะๆ

bost · **Reply #26 on:** 05 Nov 2010, 16:19

Quote from: bat on 05 Nov 2010, 16:13

จากเรื่องราวทั้งหมดตามที่ได้อ่าน ผม มีส่วนเป็นหมา แต่ไม่เครียด ใครคิดว่าผมมีประโยชน์พูดคุยได้ก็คุยกันเหมือนเดิม ส่วนอื่นไม่สนใจและพอกับเรื่องราวนี้

ทรายกับเคน เมื่อไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร พี่ยังเหมือนเดิมยังรับสาย โทรมาละกัน เพราะเข้าใจ

สุดยอดลูกผู้ชายตัวจริงนับถือเลยพี่ เพราะผมเคยเจอปัญหาแบบนี้มาแล้วไม่มีใครยอมรับเลย

thiratoon · **Reply #27 on:** 05 Nov 2010, 16:20

Quote from: bat on 05 Nov 2010, 16:13

จากเรื่องราวทั้งหมดตามที่ได้อ่าน ผม มีส่วนเป็นหมา แต่ไม่เครียด ใครคิดว่าผมมีประโยชน์พูดคุยได้ก็คุยกันเหมือนเดิม ส่วนอื่นไม่สนใจและพอกับเรื่องราวนี้

ทรายกับเคน เมื่อไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร พี่ยังเหมือนเดิมยังรับสาย โทรมาละกัน เพราะเข้าใจ

ส่วนไหน..

โทรได้ทุกคนแหละ..ค๊าบ บอกแล้วไงอย่าไปเครียด ค่อยๆแก้ไขกันไปตามปัญหาที่เกิด..

พอเถอะจร้า(ครับ)...งานนี้ คู่กรณีมีสิทธิ พูดได้คนละคราว..พอแล้วครับ
ขืนพูดมากไปกว่านี้...เละ เละกันหมด

หาทางแก้ไขปัญหากันหลังไมค์..ดีก่าครับ

(แต่เออ...กระทู้นี้ ผมเสือกพูดมากที่สุด หุหุ...พอแระ)

RevelCat · **Reply #28 on:** 05 Nov 2010, 17:03

ใจเย็นๆนะคร๊าบ ผมว่าผมพอจะเข้าใจทั้งสองฝ่าย

ในฐานะลูกค้า ผมก็พอจะเข้าใจว่า เมื่อซ่อมไปแล้วเสียตังเสียเวลาไปแล้ว แต่มันใช้ไม่ได้อย่างใจ หรือไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น มันน่าหงุดหงิดแค่ไหน ยิ่งวางใจแล้วไม่ได้อย่างที่คิด ยิ่งเสียความรู้สึก เหมือนยิ่งรักยิ่งเจ็บ(น้ำเน่า $:-\$ )

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องเข้าใจสำหรับรถมือ2คือ มันผ่านการใช้งานมาแล้วระดับนึง ไม่มากก็น้อย ในกรณี คอร์ซ่า ของคุณทราย พอดีผมไม่ทราบว่ารถคุณปีอะไร แต่ที่แน่ๆ ไม่น่าจะต่ำกว่า12-13ปี ซึ่งมันย่อมจะต้องมีการสึกหลอ โดยจะมากหรือน้อยก็ ตามอายุและลักษณะการใช้งานดูแล จากที่อ่านมา คุณทรายได้รถมาใช้แค่2-3เดือนก็ต้อง ฮอลล์เครื่อง น่าจะหมายความว่ารถมีการใช้งานมากพอสมควรแล้ว หรืออาจจะไม่ได้รับการดูแลอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ว่าจะอย่างไหนมันก็พอจะบอกได้ว่า ขนาดเครื่องยังถึงเวลาต้องฮอลใหม่ ชิ้นส่วนอื่นๆก็คงจะใช้งานมาหนักไม่ต่างกัน ว่าง่ายๆก็คือการจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิม คงต้องใช้ทั้งเงินและเวลาค่อนข้างมากกว่าจะใช้งานได้ปกติ ว่ากันแบบง่ายๆและสั้นๆยิ่งกว่าเดิมคือ มันไม่จบง่ายๆครับ สังเกตได้จาก สมาชิกบางส่วนในนี้ค่าทำรถจะเกินค่าตัวรถไปแล้วทั้งนั้น ในด้านของเวลา แรกๆก็เข้าอู่กันเป็นว่าเล่นทั้งนั้นครับ บางคนถึงกับทิ้งรถไว้เป็นปีก็มี บางท่านยังบอกอยู่เสมอว่าเจอมาเยอะเจ็บมาเยอะ แต่ถ้าจบเมื่อไหร่ คุณจะได้รถที่ดีมาใช้ ชนิดที่เรียกว่า รถใหม่ๆอาจไม่แลเลยอีกหลายปี

ขนาดรถผมเองพึ่งได้มาว่า สภาพดีๆใช้งานน้อยๆ ก็ยังต้องมีเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอตามอายุ ตอนนี้คำนวนคร่าวๆทั้งที่ทำไปแล้ว และที่ต้องไปทำเพิ่ม ก็น่าจะที่ประมาณ 25000-30000 เป็นอย่างน้อย และก็ยังต้องหาเวลาเข้าไปให้ช่างตรวจเช็คนุ่นนี่นั่นอีกเป็นพักๆ นี่ขนาดรถใช้งานค่อนข้างน้อยเจ้าของเก่าดูแลค่อนข้างดีนะครับ

รถมือ2 ต้อง พยามทำความเข้าใจและให้เวลากับมันนะครับ(จริงๆรถใหม่ก็ต้องมีพวกนี้เหมือนกัน เห็นว่าเป็นรถใหม่แต่ใช้งานไม่ถูกวิธี ขาดการดูแลที่เหมาะสม ไม่นาน สภาพมันก็จะแย่กว่ารถเก่ากว่าเป็นสิบปี แต่ได้รับการดูแลอย่าและใช้งานอย่างถูกต้องเหมาะสม) ยังไงซะตอนนี้พี่ๆเค้าก็เสนอทั้งความช่วยเหลือและการแก้ปัญหาให้แล้ว ลองพิจารณาดูครับ

ในฐานะช่าง(สายอื่น) ผมค่อนข้างจะเข้าใจเรื่องงานซ่อมและการตามเก็บปัญหา ถ้าอาการมันไม่ชัดเจนมันก็มองยากเหมือนกันครับว่าจะแก้ตรงไหน เพราะอารการบางอาการมันเกิดได้จากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "โรคกลัวช่าง" คือถึงมือช่างแล้วไม่เป็นอะไรเลย อย่างงี้ผมก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน

อย่าหาว่าผมเข้าข้างพี่เอเลยนะครับ อาจเป็นเพราะว่าผมเป็นช่างซ่อมเหมือนกัน แล้วเคสพวกนี้ผมก็เจอเป็นปกติ ลูกค้าบางคนก็เข้าใจ บางคนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน วันที่22-23 ตุลา รถผมก็อยู่ที่พี่เอนั่นแหล่ะครับ ผมก็ไปอยู่นั่นเที่ยงถึงเย็นทั้ง2วัน เห็นท่านสมาชิกแวะเวียนเข้ามาใช้บริการมาพูดคุยช่วยกันก็หลายคน ส่วนใหญ่ก็มีความรู้มากพอที่จะไม่ให้ช่างฟันหัวแบะกันได้ทั้งนั้น บางคนรู้มากกว่าช่างที่ไม่ได้ทำรถโอเปิ้ลอีก ไม่ได้จะเชียร์ว่าอู่พี่เอ ดีหรือเก่งจนขนาด คนที่รู้มากยังพากันเข้าไปใช้ แต่ที่ผมคิดคือ ถ้า อู่พี่เอ หลอกลวงหรือขาดความรับผิดชอบ สมาชิกเหล่านี้จะยังแวะเวียนกันเข้าไปอยู่รึเปล่า

อย่างที่คุณทรายเองก็เคยบอกเองว่า ที่นี่เป็นบ้านที่น่าอยู่ เป็นบ้านที่อบอุ่น ผมเองก็มองเช่นนั้น เพราะสิ่งที่ทุกคนในนี้ชอบเหมือนกันนั่นคือ รถยี่ห้อโอเปิ้ล ซึ่งเจ้าเปิ้ลเนี้ยทุกคนรู้ดีว่าตอนนี้มันอายุมากแล้ว เกิดปัญหา เกิดการสึกหรอได้ เป็นปกติ แต่ปัญหาก็คือ ไม่ใช่ว่าอู่ส่วนใหญ่ช่างส่วนใหญ่ จะซ่อมให้ได้แบบจบๆ บ้านหลังนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือและแบ่งปันข้อมูลกัน เพราะรถแต่ละคันมันไม่ได้เสียเหมือนกันทุกอย่าง ไม่ได้เสียที่เดียวกันทุกครั้ง อาการของบางคันก็ยังไม่จบ ก็ยังช่วยๆกันดูไป เมื่อจบก็จะได้เก็บเป็นข้อมูลให้กบัคนอื่นๆที่อาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาภายหลัง บางอย่างบางท่านก็พยามช่วยเหลือทั้งที่ไม่ได้อะไรเลย และไม่เคยเรียกร้องอะไรด้วย แต่บางอย่างก็ต้องเข้าใจว่าเป็นเรื่องของอาชีพการงาน และมันอาจต้องมีค่าดำเนินการมั่งเช่นกัน

ไม่ได้เชียร์หรือบอกว่าอู่พี่เอดีนะครับ ผมเองก็พึ่งไปใช้บริการมาแค่ครั้งเดียว สิ่งที่พูดถึงก็เป็นแค่มุมมองผมตอนไปคลุกคลีอยู่ที่นั่นพี่เอ แค่ 2วัน ไม่ได้สนิทอะไรเป็นการส่วนตัวครับ

และก็ไม่ได้ว่าคุณทรายแต่อย่างใดนะครับ แต่คิดว่าถ้าจะใช้มันแล้วไม่ว่าจะด้วยความชอบหรือด้วยความจำเป็น คงต้องพยามทำความเข้าใจหลายๆอย่างเกี่ยวกับมันนะครับ เหตุที่มันไม่จบซักที่ ผมเดาว่า ก่อนคุณทรายได้มา รถคงใช้งานมาหนักหรือไม่ก็ดูแลมาไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เลยยังไม่ค่อยชัดเจนว่าอะไรมั่งที่ยังต้องเก็บต้องเปลี่ยน ส่วนจะบอกว่าไม่ไหวแล้ว ไม่เอาแล้ว อันนี้ผมก็ไม่ดึงหรือไม่ค้านแต่อย่างใด คนเราชอบต่างกันครับ

แย่ละ ผมว่าผมคงจะเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้อง ที่พูดมากเกินไปละ

ไม่เหมาะสมอย่างไร บอกกล่าวหรือจัดการได้เลยนะครับ

PeeSard · **Reply #29 on:** 05 Nov 2010, 17:11

นน แกร่ายยาวอีกแระ.. ฮ่วย ปวดตาแล้วเด้อ

น้าโท พรุ่งนี้หาอะไรกินบำรุงสายตากันหน่อยม๊ะ
ไม่ไหวแล้ว อ่านกระทู้นี้แต่ละคน ย้าาาาาวยาว..

News

ปัญหา