ของผม โอ่ท่าจะยาว
ภาค 0
เริ่มจากตอนเด็กๆ ผมจำความได้ รถที่รู้จัก มี แลมโบ คูทัช (เห็นในรูปและมีรถเหล็กตามประสาเด็กทั่วไป) แต่ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไรรู้แต่ว่า แม่งโคตรเท่เลยแบนๆ
เปอร์โย 405 คันนี้ สมัยอนุบาลครับ แม่บอกว่าผมนั่งมองมันตั้งแต่ รร.เลิก ยันเจ้าของรถขับออกกลับบ้าน ร่วมๆ ชั่วโมง ผมรู้จักตอนนั้นว่ามันคือเปอร์โย มีสิงโตหน้ารถ
โอเมก้า B คันนี้ โตมาหน่อยสมัยประถม รู้แต่ว่า หน้ามันโคตรเท่เลย... แต่ไม่รู้จักว่าคืออะไร พึ่งมารู้เมื่อ 5-6 ปีที่แล้วว่าคือ โอเปิลโอเมก้า...
ภาค 1
เริ่มจาก...เรียนจบแล้วก็ จะหารถใช้ (ก่อนนั้นก้ใช้รถของแม่บ้าง รถที่เตนท์ของแม่บ้าง เลยได้ลองๆรถหลายๆครับ (เกือบสอย e-car ตัวต่ำสุดๆๆๆ มาแล้วตอนนั้นเขาขายแค่ 80000)
ในช่วงนั้นก็ดูว่าจะขับอะไรดีน่อ... มีดาวน์แจ๊สตัวแรก มันพึ่งออก 121 punto corsa
มองๆ 121 น่าจะไปไม่รอดเพราะว่า อะไหล่หายากโคตรๆ แถมแม่บอกว่าให้ซื้อรถยุโรป ไม่ก็ เมกาเท่านั้น
punto ก็ อะไหล่หายากอีก
พอดีว่า เพื่อนที่สนิทกัน กำลังจะเปลี่ยนรถใหม่ ไปขับอิม เลยต้องขายคันเก่า เอามาดาวน์ คันใหม่ บอกว่าจะขายให้ผม 80000 ก็ อ่ะน่าสน คันนี้ รู้ประวัติมาเพราะว่าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ม.3
ย้อนกลับไป ผมเคยขับรถ แข่งกับเจ้า corsa 1.2 ของเพื่อนสมัยเด็กๆ(ผมขับรถเป็นตอน ม.3) จำได้ว่าซัดกันในกองพลรบพิเศษเลย ไม่มีรถ ออกตัวพร้อมกัน กับ corora หน้ายิ้มเครื่อง 2000 ปารกฏว่า 0-100 ผมกับ corsa ตีคู่กันเลย... งงแดกครับ รถอะไรฟระเครื่อง 1.2 วิ่งได้เท่ารถเครื่อง 2000 (ตอนนั้นยังไม่มีความรู้อะไร ขับอย่างเดียวแม่ให้ค่าน้ำมันเดือนละ 2000)
มาช่วง ม.ปลาย ไปเที่ยวกันที่บ้านสวนของพี่ที่สนิทกัน ผมก็นั่ง corsa ไปกับเพื่อน เนี้ยแหละ แล้วก็ขอลองขับดู สิ่งที่รู้คือ รถมันเกาะกว่า รถแม่ผมอีก เข้าโค้ง สบายๆเลย ไม่ทำท่าว่าจะหลุดโค้ง ทั้งๆที่ ล้อจิ๊ดเดียว เริ่มรู้ล่ะว่า มันเจ๋งนิหว่า
จนสุดท้ายก็ได้รถเพื่อนมาขับสมใจ ตอนนั้น ยังไม่เข้าเวบอะไรท้งนั้น ช่างก็เอาช่างที่ซ่อมเบนซ์ที่แม่รู้จักช่วยดูให้... จนดวงซวยครั้งแรก...
รถขับๆไป ปรากฏว่า ดับกลางอากาศ แล้วก็ไหลๆ ไปจอดหน้าอู่พอดี เลยให้เขาดูให้ แล้ว ให้แม่มารับไปส่งที่ทำงาน แล้วทิ้งเบอร์ ไว้ให้ว่า เป็นยังไงให้โทรมาบอก...
บ่ายๆ แม่โทรมาว่า ลากรถออกมาจากอู่แล้ว เพราะว่า อู่มัน พยายามจะ ถอดชุดคาบูไฟฟ้า มาแปลงใส่คาบูธรรมดา แทน
เลยลากไปอู่เบนซ์ แล้วก็ไล่เช็คปารกฏว่าคลอย์พัง เปลี่ยนไป แต่ว่า ชุดสายไฟตรงชุดหัวฉีด มันล่อตัดซะเละเลย ชิหายโมะ
แล้วก็ถามเพื่อน เจ้าของรถเก่า เขาบอกว่ามันมีเวบนะให้ลองเข้าไปดู อย่างแรกเลยคือ หาช่างก่อน ก็เลยรู้จักกับช่างเชษ ที่สันทราบ แล้วก็ให้ช่วยดูแลรถให้ ทำเองบ้าง บางเรื่อง เพราะว่า คุณพ่อผมก็ มีอู่เหมือนกัน
อาการที่ซวยที่สุดคือ หัวฉีดละลาย... ไม่รู้อีท่าไหน ต้องสั่งของจาก พี่สิน(ตอนนั้นยังไม่รู้จักเลย) แกก็บอกว่า ส่งขึ้นมาก่อนแล้วค่อยโอนเงินลงไปจ่ายแก (สุดท้ายส่งมาผิดตัว เอาหัวฉีดเครื่องx14 มา เสียเวลาส่งไปกลับอีก 4 วัน) รถก็จอดอยู่ข้าง ถนนนั้นแหละ มันไม่มีใครสนใจรถเล็กๆ โทรมๆอยู่แ้ล้ว
ได้ของมา ช่างเชษ ก็เปลี่ยนให้ แ้ล้วบอกว่า ชุดสายไฟต้องทำใหม่หมดนะ มันตัดซะเละเทะเลย... เริ่มรู้จักเต้ กลอฟ์ จากในเวบ จนหลังๆกลายเป็นแก๊งเด็กเก(ย์)...
ตอนที่ลงมา กทม ก็พอดีว่า มีงานมิตติ้งกันที่ร้านกาแฟพีวิน ก็เลยนั่งแทกซี่ไปหลงๆหน่อย เลยเป็นครั้งแรกที่ได้มามิตติ้งกับคนในเวบกับเขาบ้าง...แฮะๆ
ขับอยู่เชียงใหม่ช่วงนึง ก็ เบื่องาน เลยลง กทมไปทำงาน แล้วเอารถไปด้วย...
ก็รู้จักแต่อู่พี่สินตอนแรกๆ เข้าเวบตลอด เริ่มศึกษาใส่ใจมากขึ้น รู้จักเพื่อนๆหลายๆคน รู้จัก อู่พี่เข้ สมัยอู่เก่า ไปซ่อมรถที่พี่สิน โช้คกลับบ้านเก่า ไปเจอ โช้คสไตท์เมทที่แกถอดออกจากรถพอดี... ราคาไม่แรง เลย ซื้อเลย ตอนนั้นหม้อน้ำก็ใกล้จะพังแล้ว... แต่อยากได้ช่วงล่าง เลย ซื้อก่อน...อิอิสุดท้าย ผ่านไปอีกอาทิตย์ กำลังจะขับรถไปเปลี่ยนหม้อน้ำ ปรากฏว่า รั่วกลางทาง เลยขับประคองๆ เข้าอู่เปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ โดนบ่นนิดๆ อิอิอิ ขับจากเชียงใหม่ไปนอนบ้านพี่จุฟพิโลกเพื่อติดแก๊สเฉยเลย ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แฮะๆ
พอได้ช่างล่างชุดนี้ ก็ เริ่มขับรถไปได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ พอกลับไปเชียงใหม่ ก็ไปหาพี่ คุยเรื่องรถ(แกเป็นคนสอนให้ผมขับรถให้ไปได้เร็วขึ้น) ผมก็บอกว่า รู้สึกว่ารถมันไปได้ไม่ทันใจแ้ล้วเหมือนกับว่า ถ้ารถดีกว่านี้ผมจะไปได้เร็วกว่านี้อีกเยอะเลย คันนี้มันเครื่องแค่ 1200 แกก็ให้ผมขับพาแกวน 1 รอบ แล้วก็สอนว่า ต้องเปลี่ยนนิสัยการขับ แบบนี้ๆๆๆ นะ เริ่มพื้นฐานใหม่ สุดท้ายกลายเป็นว่า ที่ผมรู้ๆมามันเป็นช่วงกลางๆ ถึงปลายๆ ได้พื้นฐานที่มันจะทำให้พัฒนาความสามารถในการขับ ผมไม่รู้อะไรเลย พอปรับใหม่หมด ก็ไปได้เร็วขึ้นกว่าเดิมมากๆ กลายเป็นว่า ขับ corsa รู้สึกว่าเหมือนขับ โกคาท์ ทำได้ทุกท่าเลย ยิ่งได้มาขับโกคาท์ ช่วงแรกๆ พอกลับไปขับรถตัวเอง ก็ขับได้เร็วกกว่าเดิมอีก เริ่มเข้าถึงลิมิตรถจริงไเข้าไปเรื่อยๆ รู้ว่าอะไรควรไม่ควร โชคช่วยก็เยอะ รถช่วยก็เยอะ ทั้งหลุดโค้ง แต่รอด ทั้งขับๆมา รถหมุนกลางเขา 1รอบถ้วน แล้วไม่เป็นอะไรรอดมาได้ สุดท้าย รถเครื่อง 1200 วิ่ง เชียงใหม่-ปาย 2 ชั่วโมง (แม่มาลัย-ปาย 90 นาที) ล้อ13 ยางเดิมๆ สไลท์ทุกโค้ง แก้อาการทุกโค้ง แซงทุกคัน ตอนนี้เลิกแล้ว ไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ขับเนียนขึ้น แต่ว่ายังแซงชาวบ้านอยู่
เจ้าบอมบ์ ตอนนั้นเห็นผมใช้ corsa แล้ว ถึกทน ไม่พัง(เพื่อนๆสนิทๆจะรู้ว่า อะไรที่ผมใช้แล้วไม่พังแปลว่ามันทนโคดๆ) จะหารถใหม่พอดี ก็เลยให้ช่วย หาให้บ้าง พากันขับไปดูที่เตนท์ ไปสอย น้องม่วงมาคันนึง ใช้จนทุกวันนี้
พี่นกยักษ์ ช่วงที่ ยังไม่ได้ไปลาว ก็ขับรถมาที่บ้านสวนมากินกาแฟ เอาคาลิบร้า sr20det มา สุดโคตรๆ แล้วก็มีนัด พวก เจี๊ยบ น้าขาว น้าจรณ์ กับอีกหลายๆคน มาทานกาแฟที่บ้านสวน แต่ละคนเอา มือถือออกมาวาง SE ทั้งนั้น 555 มันช่าวเป็นมือถือของคนทำงานออกแบบเสียจริงๆช่วงนั้นนะครับ
ภาค 2
ตอนนั้น ที่บ้านกำลังหารถคันใหม่ ผมเลยยุเอาโอเมก้าเลย แล้วช่วงนั้น ผมผ่าตัดหลังด้วย ไปไหนมาไหนไม่ได้ งานมิตติ้ง 6 ปี ก็ให้พี่เล็กขับรถมารับแล้ว นอนไปที่งาน แฮะๆๆ(ได้สปริงหน้ามา 1คู่และล้อ17ใส่โอเมก้าทุกวันนี้) แต่ว่า ให้พี่หนุ่ยช่วยดูรถให้แทน ทั้งๆที่ตัวเดี้ยงอยู่ แต่ก็มี โอเมก้ามาเกยที่บ้าน... แล้วก็ส่งให้ไปจัดการที่อู่พี่สิน (ช่วงนั้นนอนพักฟื้นใกล้จะไปไหนมาไหนได้แล้ว) พอซ่อมเสร็จก็ส่งรถกลับไปเชียงใหม่ให้พ่อใช้แล้วผมก็ ใช้ corsa ตามเดิม... ตอนชับกลับเชียงใหม่ ทำให้ได้รู้ว่า โอเมก้าเดิมๆ มันเร้วกว่า corsa ผมทุกอย่าง นุ่มกว่า เร็วกกว่า สบายกว่า
ช่วงนั้น เริ่มหาทางทำให้ corsa 1.2 มันไปได้เร็วขึ้น
จะเปลี่ยนยางให้ใหญ่ขึ้น ใส่ล้อ 14 ก็กลายเป็นว่า วิ่งได้แค่ 120 ทั้้งๆที่เมื่อก่อน 120 ผมวิ่งที่เกียร์ 2
จะใส่เครื่องใหม่ ให้แรงขึ้น ก็ต้องทำเบรค ให้ใหญ่ขึ้น
จะเปลี่ยนเบรค ให้ใหญ่ขึ้น ก็ต้องเปลี่ยน ล้อให้ใหญ่ขึ้น...
สรุปว่า ต้องทำหมด...
ก็เลย ช่างมัน ไม่ทำก้อด้าย....
สุดท้าย ขับอยู่เกียร์ 5 จะลงมาเกียร์ 4 แล้ว บุชคันเกียร์มันไม่ค่อยดี ยัดไม่เข้า ผมเลยกระแทกยัดมันลง มาจนหลุดไปเกียร์ 2 กระเดื่องวาวล์หัก ซ่อมที่พี่เข้แล้วแต่ว่ายังมีอาการกินน้ำมันเครื่องอยู่ แต่ก็ใช้ๆไปไม่ได้สนใจอะไรมันมาก...
ช่วงนั้น รู้จักจี๊ดจาก มิตติ้ง ร้านพี่เจต รู้จักกันจี๊ดบอกว่า รถวิ่งได้แค่ 160 ก็ไปลองกันที่ทางด่วนเลย เหอๆๆ มันได้ 160 จริงๆด้วยอ่ะ... แฮะๆๆ
แล้วก็ย้ายงานพอดีไปอยู่แถวๆ อุดมสุข ตอนงานมอเตอร์โชว์ ก็มีนัดกันไปเที่ยว จอดรถกันที่ เซ็นทรัลบางนาแล้วขึ้นแทกซี่กันไป ก็รู้จักเจ้าดุ๊ก กลอฟ์ตอนนั้นก็เป็นดาวหางสีฟ้าไปแล้ว กับอีกหลายๆคน เป็นแก๊งชายโฉดเดินงานมอเตอร์โชว์ด้วยกัน เหอๆๆ
ตอนที่สนิทกับจี๊ดมากขึ้นคือตอนที่ อยู่ดีๆ ดึกมากแล้ว จี๊ดโทรมาบอกว่า รถจอดตายอยู่ราชพฤษ ผมอยู่ สวนหลวง บอมบ์อยู่ นวมินทร์13 ก็ขับรถกันไปช่วยดู... สุดท้ายรู้ว่า ปั้มติกพังแต่ทำอะไรไม่ได้ รอรถมาลากเข้าอู่พี่สิน ขับรถไปส่งจี๊ดที่บางใหญ่ แล้วก็แยกย้ายกลับบ้าน ดึกๆๆๆ ทีเดียวเชียว...
ยาวจัง ได้ครึ่งทางยังเนี้ย.. ดึกล่ะ เดี๋ยวมาต่อวันหลังดีกว่า...เหอๆ