บันทึกของมิจัง

bushsaba · 13141

Offline chanat

  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 1,607
  • Tel 0896762564
Reply #60 on: 05 Dec 2010, 22:28
ตอนนี้ ยังไง ต้องทำให้ระบบ อากาศ สมบูรณ์ก่อนนะครับ ถ้าใช้แก็ซ แล้ว อากาศไม่สมบูณ์  เช่นท่อแตก รั่ว หรือเวคคั่ม ไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าระบบไหน ก้แบ็คไฟค์ กระจายเหมือนกันครับ แก็ซมัน อ่อนไหวกับอากาศมากครับ แก้ไขเรื่องท่อแตก หาท่อมาเปลี่ยนนะครับ ถ่ายรูปมาลง แล้วสั่ง จากกทมไปก้ได้ครับ  อย่าตกใจไปครับ  ไม่ยากๆ ครับผม



หนทางไกล นับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรก  "เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"

www.opel.in.th


Offline หนานมา

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 3,127
  • luangsu_m@hotmail.com
  • No.: 34
  • รุ่นรถ: แอสตร้าแวน
  • สีรถ : สีเทา
  • เครื่องยนต์: พันหกอีโคฯ
Reply #61 on: 06 Dec 2010, 09:12
เมื่อเช้าเอาไปจ้างร้านจูนแก๊สให้หมดไป 300 แฟนจะขับไปนาเกลือขับดีชลอไม่ดับ แต่พอไปใกล้ถึงนาเกลือติดไฟแดงดับอีกแล้ว ต้องสับเป็นน้ำมัน พอเป็นแก๊สก็ชลอดับอีก แต่น้ำมันไม่เป็น แฟนเลยไปจูนเองที่บ้านน้าที่นาเกลือ พอจูนเสร็จก็ขับพาน้าวนดูทางเพราะเพื่อนน้าจะขับกลับกรุงเทพพรุ่งนี้แต่ไม่คุ้นเส้นทางเลยจะให้แฟนบุษพาขับดูเส้นทางก่อน ปรากฎว่าแฟนบุษอยากลองเครื่องคงลืมว่าท่ออาศมันขาดเอากาวแปะเหล็กแปะไว้อยู่ทีแรกบุษก็เข้าใจว่ามันคือซิลิโคน เลยขับซะ 140 เลย พอชลอความเร็วลงมาแล้วจะเร่งใหม่แบคไฟร์ท่อขาดที่เดิม โชคดีขาดอยู่หน้าร้านค้า เลยไปซื้อน้ำขวดขุ่นเอาน้ำออกเช็ดแล้วตัดหัวท้ายเอาขวดสวมทับท่ออากาศแล้วเอาสายรัด รัดไปก่อน จากนั้นเลยยังไม่กล้าใช้แก๊ส น้ากลัวมากเลย น้าบอกให้ใช้น้ำมันเถอะนะ พอเสร็จจาก พาน้าวนดูเส้นทางเสร็จก็ไปเที่ยวตลาด 4 พัทยาแล้วไปส่งน้ากลับนาเกลือโดยใช้น้ำมันตลอด ขากลับแฟนไม่ห่วงชีวิตลูกเมียเลยกลับไปวิ่งแก๊สอีกก็เป็นเหมือนเดิมชลอดับ แต่ไม่มีแบคไฟร์ จะแก้อาการนี้ยังงัยดี :please: :please:

เหอะๆๆๆ....ท่อผมก้อขาดแบบพี่...

แต่คนที่ทำขาดคือแฟนผมอ่ะ :red:  แล้วผมก้อต่อมันด้วยการเอาขวดพลาสติกที่ใสน้ำยาล้างห้องน้ำ

มาสอดใส่เป็นใส้ต่อแทน...มันก้อยังเหยียบได้ 160 ให้จูนแก๊สใหม่ครับ...นอกนั้นไม่มีไรต้องเป็นห่วง :ปลิว:

    “คำฮักน้องกูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลั๋วหนาว  จักเอาไว้พื้นอากาศ กล๋างหาว ก็กลั๋วหมอกเหมยซอนดาวลงมาขะลุ้ม  จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลั๋วเจ้าป๊ะใส่แล้วลู่เอาไป  ก็เลยเอาไว้ในอกในใจ๋ตัวจายปี้นี้  จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้ ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา”
- สมเจตน์ วิมลเกษม


Offline Ton_Oo

  • ผู้เยี่ยมยุทธ
  • ***
    • Posts: 291
  • """Tomorrow Never Come""" 080-0914411
Reply #62 on: 06 Dec 2010, 09:23


นู๋...ถูกใส่ร้าย อ่ะ

 :ตาย: :ตาย: :ตาย: :ตาย:

อุปสรรคที่ทานทน จะสร้างคนให้ทนทาน
### มื่อใหม่ ใจปลาซิว แต่วิ่งฉิวไม่เคยรอใคร...###
E-mail : oo_sukanya@hotmail.com
            oo_sukanya@yahoo.com


Offline bushsaba

  • นักรบพเนจร
  • **
    • Posts: 169
  • บุษ 0875350138
Reply #63 on: 06 Dec 2010, 11:02
ของบุษขาดตรงปลายท่ออากาศไอ้ย่น ๆ วงรองสุดท้ายอ่ะ เลยเอาขวดน้ำขุ่นตัดหัวท้ายมาสวมแล้วล๊อกด้วยเข็มขัดพลาสติก ส่วนอีกด้านก็เอาเทปสายไฟพันกับกับท่ออากาศไอ้ย่นๆ ไว้ เดี๋ยววันหลังถ่ายรูปมาให้ดู



Offline ZeaBiscuit

  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 3,952
  • ปากหมา ใจไม่หมา
    • ZB's Photos...
Reply #64 on: 06 Dec 2010, 18:15
ผมตามอ่านมานาน ขอพูดตรงๆนะครับ

ผมว่าพี "ซน" ครับ รวมถึงแฟนพี่ด้วย

ระบบรถยังไม่สมบูรณ์ ทำไมไปลองรถด้วยความเร็วสูงขนาดนั้นครับ

ที่ความเร็วขนาดนั้น ถ้าแบ๊คขึ้นมา สนุกสนานแน่นอนครับ ขนาดผมเคยแบ๊คตอนกำลังจะเลี้ยวเข้าบ้าน กรองอากาศยังกระจาย แล้วที่ความเร็วเป็นร้อน แก๊สที่พร้อมติดไฟค้างอยู่ในท่อไอดีตั้งเท่าไหร่ บึ้มขึ้นมา ผมไม่อยากคิดว่าอะไรจะพังบ้าง

จูนแก๊ส Fix Mix ถ้าช่างไม่มีเครื่องมือ ก็วัดใจกันไป เพราะถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่า "หนา" หรือ "บาง" (บางคนบอกดมเอา เยี่ยม !!)

ตัวกันแบ๊คผมแนะนำอย่างจริงใจว่า ถ้าไม่มีอยู่ ไม่ต้องดิ้นรนไปหามาติดครับ ผมติดไว้สองตัว แบ๊คตอนกำลังเลี้ยวเข้าบ้าน (ความเร็วไม่เกิน 20) กรองอากาศแตกกระจาย !!

เคยไปถามพี่ๆที่อู่แก๊ส เค้าก็บอกว่าไม่ช่วยอะไร แต่ลูกค้าอยากได้ เค้าก็ติดให้ เพราะเวลามันแบ๊ค ไอ้รูแค่สองเซ็นมันระบายอะไรไม่ทันหรอกครับ แต่ถ้าอยากติดเพื่อความสบายใจ อันนี้สุดแล้วแต่พี่ครับ

อีกเรื่องนะครับ ยางปี 06 ต่อให้ดอกยังเหลือ เนื้อยางก็ไม่น่าใช้การอะไรได้มากแล้วครับ ผมว่าเรื่องวิ่งเร็วๆแล้วสั่นเนี่ย ลองเปลี่ยนยางแล้วตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่ดูก่อน อาจไม่มีอะไรในกอไผ่

ว่าแต่ยางแบบนั้น พี่ยังกล้าวิ่ง 140 อีกเหรอครับ ?




ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาเจอกัน !!
Life Start at 6,000 rpm !!!
www.dekgayray.com


Offline ZeaBiscuit

  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 3,952
  • ปากหมา ใจไม่หมา
    • ZB's Photos...
Reply #65 on: 06 Dec 2010, 18:26
5 พ.ย. 53
พามิจังไปเที่ยวงานสหพัฒน์ อากาศร้อนค่ะรถก็เยอะมากบางช่วงก็ติด แอร์มิจังก็เลยไม่เย็นต้องเปิดกระจกเป็นพัก ๆ ความร้อนของมิจังขึ้นไปประมาณ 98 ค่ะ แต่สามีบ่ยั้นค่ะสามีบอกว่า "ก็เป็นงี้แหละเธอ 100 มันอุณหภูมิน้ำเดือดไม่ใช่เหรอ รถมันต้องใช้ระบบไอน้ำเดี๋ยวพอความร้อนถึงมันก็ลงเอง " ตัวบุษเองไม่รู้หรอกค่ะแต่เห็นขึ้น 98 ก็กังวลเพราะเห็นคุณบัติกับคุณนัทบอกที่เค้าเคยขับมาขึ้นไม่เกิน 95 แต่ก็จริงดังสามีบุษว่านะ พอมันขึ้นไปซักพักมันก็ค่อย ๆ ลงมาที่ 95 เอง บุษสังเกตดูแล้วว่ามิจังชอบความเร็วค่ะ เพราะถ้าขับมิจังไม่เกิน 100  หรือเริ่มออกตัว หรือช่วงรถติดรถเยอะต้องใช้ความเร็วต่ำมิจังชอบอุณหภูมิขึ้นค่ะ แต่ถ้าขับเร็วอุณหภูมิของมิจังจะประมาณ 92-95 นี่แหละค่ะ ยิ่งตอนกลางคืนหรืออากาศเย็นความร้อนยิ่งไม่ขึ้นเลยค่ะแอร์ของมิจัง ถึงได้หนาวมากค่ะตอนกลางคืน ไปและกลับสหพัฒน์อย่างปลอดภัยไม่มีปัญหาใด ๆ ค่ะ ขับดีรอบไม่ตกด้วยค่ะ :D :D

อันนี้ผมแก้นิดนึงครับ 100 องศาคือจุดเดือดของน้ำ ในแรงดันบรรยากาศ หรือ 1 ATM แต่ในระบบหม้อน้ำมันเป็นหม้อแรงดันครับ คือมัน Under Pressure ผมจำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ว่ากี่ Bar ( 1 Bar = 14.7 psi , 1 psi เพิ่มจุดเดือดน้ำได้ 1.8 องศา) แต่จำได้เลาๆว่าจุดเดือดในระบบน้ำของรถพวกเรา อยู่ราวๆ 122 องศา ถ้าระบบไม่รั่วครับ

แต่จะว่าไปแล้ว 100 องศาผมก็มองว่ามันเยอะไปหน่อย มันไม่ควรเกิน 95 โดยปกติครับ (ยกเว้นหัวโตและวาล์วน้ำของโรงงานสเปกยุโรป ซึ่งไม่ค่อยเหมาะกับบ้านเรา)




ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาเจอกัน !!
Life Start at 6,000 rpm !!!
www.dekgayray.com


Offline aor

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 2,164
Reply #66 on: 06 Dec 2010, 19:02
- เพิ่งจะเห็นว่ายางปี 06 เนี่ยมันสิ้นปี 2010 แล้วนะครับ ยางมันแข็ง เอาเล็บกดก็รู้ นั่นแปลว่ามันหมดสภาพแล้วครับ เปลี่ยนด่วนเลยครับ
ถึงหน้าตามันจะดูดีอยู่ ต่อให้ดอกยังมีเต็ม ๆ แต่ 4 ปีเนี่ย ต้องโยนทิ้งสถานเดียว (ยางไม่ใช้ แต่มันเสื่อมตามเวลา) บางยี่ห้อ 2 ปีก็
กลับบ้านเก่าแล้ว
- แล้วยังอัดไปถึง 140 อีกหรือครับเนี่ย ประมาทชีวิตมาก ๆ ถ้าเป็นแฟนผมนะ ตบกระบาลคว่ำเลย ลูกเล็กก็นั่งอยู่ในรถด้วย
(ขออภัยที่แรง) แต่คุณคิดไหม เกิดยางมันระเบิดในความเร็วที่ 140 จะเกิดอะไรขึ้น ผมเชื่อว่าน้องหนูก็คงไม่ได้ให้นั่ง baby seat ด้วย
- ดูระบบเครื่องยนต์ทั่วไปให้สมบูรณ์ก่อนด้วยนะครับ คอร์ซ่าผมไม่ติดแก๊ส ความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ก็ไม่เป็นรองใคร ยังไม่ขับเกิน
120 เลย รถผมกินน้ำมันเพรียว ๆ ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กหน่อย เป็นต้องเข้าอู่ ขนาดเงี่ยหูฟังแทบจะไม่ได้ยิน ก็รีบเอาเข้าไป overhaul แล้ว
- ไม่ใช่ว่าได้รถมาถูก แล้วจะไม่ต้องลงทุนอะไร แล้วคิดว่าจะอัดได้เหมือนรถป้ายแดง อันนี้ก็ไม่รุจะว่ายังไงแล้ว
- รถมันจะดี ขับไม่มีปัญหา มันขึ้นอยู่กับเรื่องเดียว คือการเอาใจใส่บำรุงรักษาของเจ้าของ บางคนได้คอร์ซ่า (เก่า) มาใหม่ ๆ บอกว่า
เอาไปวิ่งทดสอบ อัดซะ 140-150 พอเครื่องมีปัญหา ก็บอกว่ารถห่วย ผมว่าไอ้คนขับนั่นแหละห่วย ไม่รู้เรื่อง รถเก่าจะยี่ห้อไหนก็แล้วแต่
เมื่อได้มาต้องปรับปรุงสภาพให้พร้อมใช้งาน เปลี่ยนถ่ายของเหลว สายพานราวลิ้น ลูกรอก ตรวจเช็คระบบเกียร์ ยาง ผ้าเบรค ระบบกันสะเทือน ให้เรียบร้อยซะก่อน ก่อนที่จะเอาไปใช้งานในชีวิตประจำวัน

- เข็มวัดความร้อนขึ้นไปถึง 100 เนี่ย ระบบหล่อเย็นมีปัญหาแล้วหล่ะครับ ถ้าคิดว่ามันปกติ ก็คนนั่นแหละที่ผิดปกติ คอร์ซ่าผมก็เคยเป็น
ต้องรีบจอด และต้องรีบแก้ปัญหา แสดงว่าระบบการหมุนเวียนของน้ำหล่อเย็นมันติดขัด ก็ต้องไล่เช็คระบบ แก้ไขให้มันดี



Offline bushsaba

  • นักรบพเนจร
  • **
    • Posts: 169
  • บุษ 0875350138
Reply #67 on: 06 Dec 2010, 20:17
บุษซื้อรถต่อมาจากชนัตถ์ ก็คิดว่าก่อนที่ชนัตถ์จะซื้อมาชนัตถ์เค้าก็คงดููมาดีพอสมควรแล้วอ่ะค่ะ บุษเชื่อว่าชนัตถ์ก็มีความชำนาญรถโอเปิ้ลมากพอสมควร เพราะชนัตถ์เล่าให้ฟังว่าเคยใช้มาหลายรุ่นแล้วทั้งคอร์ซ่า เวคบี แล้วก็แอสตร้า คันที่ขายให้บุษเนี่ยแหละค่ะ แล้วเหตุผลที่ขายก็คือจะเอาเงินไปซ่อมคอร์ซ่าที่ชนมาเพราะเป็นรถที่เค้ารักมาก ชนัตถ์บอกว่าเคยขับมิจังถึง 170 และตอนที่คุณบัติเอามิจังไปดูแล คุุณบัติบอกว่าเครื่องเพิ่งเปลี่ยนครัชมาก็เลยยังไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร เปลี่ยนแต่น้ำมันเครื่อง กับกรอง แล้วก็สายพรานราวลิ้ง ลูกรอกราวลิ้ง โชค ยางรองเบ้าโชค ติดฟิล์มกรองแสงมาให้ แล้วอย่างอื่นก็ไม่เกี่ยวกับตัวเครื่องแล้วมั้งค่ะที่จำได้ ส่วนปั้มน้ำก็ยังไม่ได้เปลี่ยนค่ะเพราะคุณบัติบอกว่าตอนอยู่กับคุณบัติ มันร้อนไม่เกิน 95 ชนัตถ์ขับรถไปส่งบอกว่าขับไป 180 ความร้อนก็ ไม่เกิน 92 มั้งคะถ้าจำไม่ผิด  แฟนบุษเห็นเค้าขับกันไว ๆ ก็เลยลองมั่งมั้ง บุษเองก็กลัวนะนั่งไปด้วยน่ะ บอกก็ไม่ค่อยอยากจะฟัง :ตาย: (อยากให้คุณออมาช่วยจัดการเหมียนกัน ;D ) แต่อย่างที่บุษเคยบอกรถมันเก่าแล้วเราก็ต้องเข้าใจ ตอนมันอยู่กับชนัตถ์ กับคุณบัติอาการมันยังไม่ออก แต่พอมันมาอยู่กับเรามันก็คงถึงอายุขัยของมันอ่ะค่ะ ก็ซ่อมกันไป เรื่องยางบุษก็ว่าจะไปเปลี่ยนยางหน้าอยู่วันสองวันนี้แหละเพราะ ยางหลังมันปี 08 เปลี่ยนยางหน้าไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ใช้น้ำมันไม่มีปัญหา ส่วนแก๊สก็กำลังหัดจูนอยู่ ตามที่คุณนพเคยสอนแฟนบุษมา แล้วก็หาอ่านจากอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมด้วย ขอบคุณคุณออ กับคุณ ZeaBiscuit  (ใช่บอมรึเปล่าไม่แน่ใจ) ค่ะสำหรับความห่วงใยค่ะ  :) และทุกท่านที่ให้กำลังใจและคำแนะนำดี ๆ



Offline jeabjamiro

  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 8,623
  • ผมมันเสือ ไม่ใช่เซียน เหอะๆ
  • No.: in 05
  • รุ่นรถ: ASTRA VAN
  • สีรถ : ขาวโบ๊ะ
  • เครื่องยนต์: x20xev AT------เครื่องตัดหญ้า
Reply #68 on: 06 Dec 2010, 20:39
 :o ต้องเข้าใจ นิดนึงนะครับ ว่ารถเก่า กะรถป้ายแดงมันไม่เหมือนกันครับ และ เรื่องผี สาง เทวดา มีจริงๆครับ กลัวช่างก็มีจริงๆ
เอาเป็นว่า ลองดูว่า รถมันนิสัย ยังไง และก็ลองคุยกะมันดูครับ ส่วนเรื่อง ว่าขับได้เท่าไหล่ มันหลายๆปัจจัยครับ เอาเป็นว่าเอาอยู่ที่เท่าไหร่
ขับเท่านั้นดีกว่า ครับ ปลอดภัย สบายชีวิตและ กระป๋าครับเหอะๆและอยากจะบอกว่าบนถนนไม่ได้มีเราคนเดียวครับ มีรถอีกบาน
บางทีเราอยู่เฉยๆ ก็โดนชนได้ ฉะนั้น อย่าประมาทครับ เหอะๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
***ประสพณ์การตรงครับ ปกติผมขับรถค่อนข้างประมาท ครับ เจอไป 1 ตุ้มหายบ้าเลยครับ เหอะๆ ผมชอบขับให้มันสุด คือเน้นสะใจ
ปัจจุบัน 120 ก็เร็วแล้ว เหอะๆ สนุกไม่เกิน 5 นาที เกือบตายไปใน 2 วิ เหอะๆ
 :bye:

หน้าไม่ให้แต่ใจพระครับ
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม และวาระ เฮ้อ.....แต่กว่าจะถึงวันนั้นคนดีต้องเจ็บกันอีกเยะ เหอะๆ
jeabjaMIro : OPEL ASTRA VAN 8V 1.6 GL 1993
                   : FIAT 850 SPORT COUPE'


Offline aor

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 2,164
Reply #69 on: 06 Dec 2010, 21:17
- ต้องขอโทษด้วยครับ ผมอาจจะพูดแรงไปบ้าง แต่ก็ด้วยหวังดี ไม่อยากให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในนี้ต้องประสบอุบัติเหตุเพราะประมาท
ขับเร็วเกิน ยางหน้ามันทำงานหนักครับ เพราะรับน้ำหนักเครื่องยนต์ และขับหน้า ส่วนยางหลังที่ว่าปี 08 ก็ดูเลยนะครับว่ายี่ห้ออะไร
ถ้าเป็นยี่ห้อดีหน่อย อย่าง Michelin หรือ Bridgestone ก็อาจรอไปสักพักได้ แต่ยี่ห้อแปลก ๆ ไม่เคยได้ยินชื่อเนี่ย อาจเป็นยาง
ราคาถูกและคุณภาพถูก บางที 2 ปีก็อาจกลับบ้านเก่าแล้วก็ได้ ลองเอาเล็บกดดู ถ้ามันแข็งขนาดกดไม่เข้าไม่ลงแล้ว ก็เปลี่ยนไป
พร้อมกับยางหน้าเลยครับ (ถ้าไม่ติดขัดเรื่องงบประมาณ) อย่าลืมเช็คพวกผ้าเบรคด้วยนะครับ
- ถ้าเจ้าของเดิมเขาให้ใบเสร็จค่าใช้จ่าย บำรุงรักษาต่าง ๆ มาด้วยก็มั่นใจได้เลยครับ แต่ถ้าเขาไม่ได้ให้มา (ไม่ได้หมายความว่า เจ้าของ
เดิมเขาจะดูแลไม่ดี) เพื่อความสบายใจของตัวคุณเอง ผมว่านับ 1 ใหม่เลยดีกว่าครับ และต้องจดไว้ด้วย ทุกอย่างเลยที่ทำมา (เก็บใส่
แฟ้มเฉพาะไว้) ว่าทำที่ระยะกี่ กม. เมื่อใกล้ ๆ เวลา จะได้รู้ อย่างสายพานราวลิ้น ลูกรอก (+ปั๊มน้ำ) เปลี่ยนทุก 40,000 กม. หรือ 4 ปี
น้ำมันเกียร์ออโต้ทุก 10,000 กม. เป็นต้น
- รถแต่ละคัน เขามีบุคคลิกลักษณะเฉพาะของเขา ต้องค่อย ๆ ทำความรู้จักกันไป เราดูแลเขาดี เขาก็ดูแลเราดีนะครับ โอเปิ้ลหลายคัน
ถึงขนาดสละชีพแทนเจ้าของเลย มีมานักต่อนักแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นว่าเลย คนปลอดภัย แต่เห็นสภาพรถที่หมดหวัง
จะกู้ชีพได้ เห็นแล้วน้ำตามันจะไหลให้ได้



Offline bat

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 3,554
  • bat
Reply #70 on: 06 Dec 2010, 22:05
 :)  ไม่รู้จะตอบยังไง แต่ก็ยังยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่ารถคันนี้ดี ดีมากๆด้วย  :D (ไม่งั้นขนาดรถที่ว่าเสีย ยังขับจากบางแสนมาหาพี่เข้ได้หรอก ;D) คุณบุต ระวังเรื่องความเร็วนิดนึง และ หาหมอให้ถูกับโรคหน่อย เอาใจด้วยครับ และดีใจที่คุณบุต เข้าใจในเจตนาดีของพี่อ้อและบอม



Offline ZeaBiscuit

  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 3,952
  • ปากหมา ใจไม่หมา
    • ZB's Photos...
Reply #71 on: 07 Dec 2010, 00:01
ตอนนี้ผมเดาเอาว่าแก๊สน่าจะ "หนา" นะครับ

ที่แบ๊คน่าจะมาจากระบบจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ แนะนำเปลี่ยนสายหัวเทียน โดยพลันครับ

รถผม Fix Mix Lamda ใช้มาสามปี ไม่เคยเข้าไปจูนใหม่ซักครั้งเลยครับ (ผมติดที่พี่สิน)




ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาเจอกัน !!
Life Start at 6,000 rpm !!!
www.dekgayray.com


Offline หนานมา

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 3,127
  • luangsu_m@hotmail.com
  • No.: 34
  • รุ่นรถ: แอสตร้าแวน
  • สีรถ : สีเทา
  • เครื่องยนต์: พันหกอีโคฯ
Reply #72 on: 07 Dec 2010, 09:03
เอออ....เรื่องจูนแก๊ส....

ผมบอกให้จูนแต่ตัวกลางสายดูอัตราการตอบสนองต่อคันเร่งเท่านั้นนะครับ...

ค่อยๆเข้า ค่อยๆ ออก แต่ถ้าจะจูนใหม่ ให้ติด A/F มีเตอร์เพื่อดูลักษณะการเผาไหม้

มันจะได้ไม่แบ๊คฯ กระจายอะ...

แล้วก้อเวลาเร่งเครื่องขณะจูน ถ้าไม่มี A/F มิเตอร์ อย่าเร่งผ่อนๆ แบบทันทีทันใด

เพราะว่าถ้าส่วนผสมมันไม่สมบูรณ์ (บาง) รับรองแบ๊คกระจาย..

ซึ่งมันเกิดขึ้นแล้วกับกระผมอ่ะ...
 :-X

    “คำฮักน้องกูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลั๋วหนาว  จักเอาไว้พื้นอากาศ กล๋างหาว ก็กลั๋วหมอกเหมยซอนดาวลงมาขะลุ้ม  จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลั๋วเจ้าป๊ะใส่แล้วลู่เอาไป  ก็เลยเอาไว้ในอกในใจ๋ตัวจายปี้นี้  จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้ ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา”
- สมเจตน์ วิมลเกษม


Offline teeracha

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 1,557
  • มีอะไรให้ช่วยก็โทรมา 081 2667768
Reply #73 on: 07 Dec 2010, 09:24
5 พ.ย. 53
พามิจังไปเที่ยวงานสหพัฒน์ อากาศร้อนค่ะรถก็เยอะมากบางช่วงก็ติด แอร์มิจังก็เลยไม่เย็นต้องเปิดกระจกเป็นพัก ๆ ความร้อนของมิจังขึ้นไปประมาณ 98 ค่ะ แต่สามีบ่ยั้นค่ะสามีบอกว่า "ก็เป็นงี้แหละเธอ 100 มันอุณหภูมิน้ำเดือดไม่ใช่เหรอ รถมันต้องใช้ระบบไอน้ำเดี๋ยวพอความร้อนถึงมันก็ลงเอง " ตัวบุษเองไม่รู้หรอกค่ะแต่เห็นขึ้น 98 ก็กังวลเพราะเห็นคุณบัติกับคุณนัทบอกที่เค้าเคยขับมาขึ้นไม่เกิน 95 แต่ก็จริงดังสามีบุษว่านะ พอมันขึ้นไปซักพักมันก็ค่อย ๆ ลงมาที่ 95 เอง บุษสังเกตดูแล้วว่ามิจังชอบความเร็วค่ะ เพราะถ้าขับมิจังไม่เกิน 100  หรือเริ่มออกตัว หรือช่วงรถติดรถเยอะต้องใช้ความเร็วต่ำมิจังชอบอุณหภูมิขึ้นค่ะ แต่ถ้าขับเร็วอุณหภูมิของมิจังจะประมาณ 92-95 นี่แหละค่ะ ยิ่งตอนกลางคืนหรืออากาศเย็นความร้อนยิ่งไม่ขึ้นเลยค่ะแอร์ของมิจัง ถึงได้หนาวมากค่ะตอนกลางคืน ไปและกลับสหพัฒน์อย่างปลอดภัยไม่มีปัญหาใด ๆ ค่ะ ขับดีรอบไม่ตกด้วยค่ะ :D :D

อันนี้ผมแก้นิดนึงครับ 100 องศาคือจุดเดือดของน้ำ ในแรงดันบรรยากาศ หรือ 1 ATM แต่ในระบบหม้อน้ำมันเป็นหม้อแรงดันครับ คือมัน Under Pressure ผมจำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ว่ากี่ Bar ( 1 Bar = 14.7 psi , 1 psi เพิ่มจุดเดือดน้ำได้ 1.8 องศา) แต่จำได้เลาๆว่าจุดเดือดในระบบน้ำของรถพวกเรา อยู่ราวๆ 122 องศา ถ้าระบบไม่รั่วครับ

แต่จะว่าไปแล้ว 100 องศาผมก็มองว่ามันเยอะไปหน่อย มันไม่ควรเกิน 95 โดยปกติครับ (ยกเว้นหัวโตและวาล์วน้ำของโรงงานสเปกยุโรป ซึ่งไม่ค่อยเหมาะกับบ้านเรา)

ที่ความดันบรรยากาศ 101.3kPa น้ำเดือดที่ 100 องศา ถ้าความดันสูงกว่าบรรยากาศ จุดเดือดจะสูงขึ้นนะครับ แต่ถ้าความดันต่ำกว่ายรรยากาศ จุดเดือดจะต่ำลง ที่นี้ under pressure คืออะไรครับ ถ้านำ้้้ำเดือดที่ 122 องศา ความดันจะต้องประมาณ 230 kPa ตรงนี้ชี้แจงให้เข้าใจจ้า อย่างซีเรียส



Offline teeracha

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 1,557
  • มีอะไรให้ช่วยก็โทรมา 081 2667768
Reply #74 on: 07 Dec 2010, 09:37
บุษซื้อรถต่อมาจากชนัตถ์ ก็คิดว่าก่อนที่ชนัตถ์จะซื้อมาชนัตถ์เค้าก็คงดููมาดีพอสมควรแล้วอ่ะค่ะ บุษเชื่อว่าชนัตถ์ก็มีความชำนาญรถโอเปิ้ลมากพอสมควร เพราะชนัตถ์เล่าให้ฟังว่าเคยใช้มาหลายรุ่นแล้วทั้งคอร์ซ่า เวคบี แล้วก็แอสตร้า คันที่ขายให้บุษเนี่ยแหละค่ะ แล้วเหตุผลที่ขายก็คือจะเอาเงินไปซ่อมคอร์ซ่าที่ชนมาเพราะเป็นรถที่เค้ารักมาก ชนัตถ์บอกว่าเคยขับมิจังถึง 170 และตอนที่คุณบัติเอามิจังไปดูแล คุุณบัติบอกว่าเครื่องเพิ่งเปลี่ยนครัชมาก็เลยยังไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร เปลี่ยนแต่น้ำมันเครื่อง กับกรอง แล้วก็สายพรานราวลิ้ง ลูกรอกราวลิ้ง โชค ยางรองเบ้าโชค ติดฟิล์มกรองแสงมาให้ แล้วอย่างอื่นก็ไม่เกี่ยวกับตัวเครื่องแล้วมั้งค่ะที่จำได้ ส่วนปั้มน้ำก็ยังไม่ได้เปลี่ยนค่ะเพราะคุณบัติบอกว่าตอนอยู่กับคุณบัติ มันร้อนไม่เกิน 95 ชนัตถ์ขับรถไปส่งบอกว่าขับไป 180 ความร้อนก็ ไม่เกิน 92 มั้งคะถ้าจำไม่ผิด  แฟนบุษเห็นเค้าขับกันไว ๆ ก็เลยลองมั่งมั้ง บุษเองก็กลัวนะนั่งไปด้วยน่ะ บอกก็ไม่ค่อยอยากจะฟัง :ตาย: (อยากให้คุณออมาช่วยจัดการเหมียนกัน ;D ) แต่อย่างที่บุษเคยบอกรถมันเก่าแล้วเราก็ต้องเข้าใจ ตอนมันอยู่กับชนัตถ์ กับคุณบัติอาการมันยังไม่ออก แต่พอมันมาอยู่กับเรามันก็คงถึงอายุขัยของมันอ่ะค่ะ ก็ซ่อมกันไป เรื่องยางบุษก็ว่าจะไปเปลี่ยนยางหน้าอยู่วันสองวันนี้แหละเพราะ ยางหลังมันปี 08 เปลี่ยนยางหน้าไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ใช้น้ำมันไม่มีปัญหา ส่วนแก๊สก็กำลังหัดจูนอยู่ ตามที่คุณนพเคยสอนแฟนบุษมา แล้วก็หาอ่านจากอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมด้วย ขอบคุณคุณออ กับคุณ ZeaBiscuit  (ใช่บอมรึเปล่าไม่แน่ใจ) ค่ะสำหรับความห่วงใยค่ะ  :) และทุกท่านที่ให้กำลังใจและคำแนะนำดี ๆ
คงได้อ่านกระทู้ผมแล้วอย่างละเอียด ไม่ต้องบอกหรือ link แล้วมั้งครับสำหรับกระทู้นั้น
อาการที่เสียและควรทำมันไม่เท่าไหร่เลยครับ ถ้าให้ผมแนะนำ
1. งดใช้แก๊ส ใช้แต่น้ำมัน ซักระยะนะครับแล้วลองดูว่ามีอาการอะไรเกิดขึ้นอีกบ้างไหม ถ้ามีซ่อมให้จบกับน้ำมันก่อน เรื่องความร้อนรีบแก้ครับ เรื่องยางรีบเปลี่ยนเอา 4 เส้นเลยนะ
2. เมื่อข้อที่ 1 มันเข้าที่แล้ว ปัญหาจะเหลือแต่ระบบแก๊สครับ ค่อยมาว่ากันต่อมันไม่ยากแล้ว
รถ opel มันเลือกเจ้าของครับ อดทนเอาใจมันหน่อย อย่าใช้มันโหดนัก เดี๋ยวมันก็ยอมอยู่กับเรา ตอนนี้เค้าคงยังคิดถึงชนัตถ์อยู่นะครับ



Offline kamolwat_t

  • I'm Gayray's
  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 12,856
  • โปรดขับรถอย่างมีความรับผิดชอบ
    • I'm Gayray's
  • No.: Shiroro : Corsa 40 , Tama : Omega 04
  • รุ่นรถ: Corsa B 3 Door , Omega B Sedan
  • สีรถ : คันแรกเขียวๆ คันหลังเทาๆ
  • เครื่องยนต์: Shiroro : X16XE , Tama : 2jz vvti
Reply #75 on: 07 Dec 2010, 09:48
เรื่อง น้ำเดือด....

คนมักจะเ้ข้าใจว่า เดือดที่ 100 องศาC

จริงๆ สักประมาณ60-70 น้ำมันก็เริ่มทำท่าจะเดือด ปุดๆ แล้วครับ ไม่ต้องรอถึง 100 ฮะ... ทางที่ดี เผื่อเอาไว้ อย่าให้มันเกิน 95 ครับ... อาจจะยังไม่ต้อง 100 เพราะว่า ท่อทางเก่าๆ จากเยอร์มัน(ถาไม่ได้เปลี่ยน) อาจจะลตายไปก่อนแล้วครับ...  :dead:

ชื่อ ต้น นะครับ อายุ 31 ครับ

opel corsa คันเล็กๆ ชุดแต่ง Std.แท้จากโรงงาน เครื่อง 16v ล้อ 15 ยางแตนๆ ท่อดังๆ

www.opel.in.th

ผมไม่ใช่อู่ ไม่ใช่คนขายอะไหล่นะครับผมเป็น "ผู้ประสานงานทางด้านเทคนิคทั่วไป" ไม่ได้รู้ทุกอย่างแต่พวกเยอะครับ มีปัญหาอะไรพวกเราจะช่วยกันครับ

lap Time
Kaeng Krachan Circuit wet 1.55 dry 1.49.8
Bira Circuit Dry 1.32 (เบรคพังฮะ)


 





Opel Vauxhall Corsa B Astra Vectra B Omega Kadett Kapitan Olympia C14NZ C12NZ X14XE X16XE X16XEL X18XE X18XE1 X20XEV Z22SE C20NE C20SE C20XE C2OLET X25XE C25XE X30XE imcher stiemetz zifira


รถยนต์ ขับรถ Opel in Thai โอเปิล อิน ไทย สนาม ซ่อม แต่ง คลับ club love lover modify talk host server online network game เกมส์ colocation co-location ล้อ ยาง ช่วงล่าง เครื่อง