Wheel Spacer

aor · 6121

Offline aor

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 2,164
on: 29 Dec 2010, 11:10
- “Wheel Spacer คือแผ่นโลหะ (รองล้อ) ที่ช่วยเพิ่มระยะห่างให้ล้อยื่นออกจากตัวรถมากขึ้น ผลที่ได้คือ รถทรงตัวและเกาะถนนดีขึ้น
เนื่องจากจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง (เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนกับระยะห่างของล้อซ้าย-ขวาที่เพิ่มขึ้นด้วยการรองสเปเซอร์แล้ว) แม้จุดศูนย์ถ่วงจะไม่
ได้ต่ำลงจริงเท่ากับการโหลดลงด้วยสปริงโหลด ซึ่งการโหลดเตี้ยมีข้อเสียในเรื่องของแรงสะเทือนจากสภาพพื้นถนนที่คนขับและผู้โดยสารจะรู้สึกได้ และความสะดวกสบายในการขับขี่ลดลง แต่การเสริมสมรรถภาพการขับขี่ด้วยการรองสเปเซอร์ยังคงไว้ซึ่งด้วยสะดวกสบายใน
การขับขี่อยู่ (ระดับความสูงของรถจากพื้นถนนคงเดิม) และน่าจะเป็นการเพิ่มสมรรถนะ (การทรงตัวและเกาะ) ของรถด้วยงบประมาณที่
ประหยัด” เท่า ๆ ที่ลองอ่านมา ไม่รุจะเข้าใจถูกหรือเปล่า (ถ้าผิดก็ช่วยแก้ไขเพิ่มเติมกันด้วยนะครับ) แต่มันก็น่าสนใจ โดยเฉพาะสเปเซอร์
ที่สามารถสั่งทำได้ในบ้านเรา แต่ก็คงต้องคำนึงเรื่องเนื้อโลหะที่ใช้ทำด้วย มิใช่ดูแค่เรื่องราคาอย่างเดียว เพราะจุดสำคัญอยู่ที่ความแข็งแรง และปลอดภัยในการขับขี่
- คือปกติแล้ว ล้อมันจะหุบเข้าไปในซุ้มล้อ คือถ้าไม่ใช้แม็คที่มีค่า Offset เป็น + น้อยลง (ยื่นออกนอกตัวรถมากขึ้น) แต่ยังคงใช้ล้อ
กระทะหรือแม็คที่มีค่า Offset มาตรฐานเดิมที่ติดรถมา (ET43-49) ก็สามารถใช้สเปเซอร์ช่วยเพื่อให้ค่า Offset เป็น + น้อยลงได้
แค่ผิวล้อด้านนอกยื่นออกมาอยู่ในระดับเดียวกับตัวถังรถ (ตามรูปข้างล่าง) ก็น่าจะช่วยเรื่องการเกาะถนน ทรงตัวดีขึ้นพอสมควร บางท่าน
เข้าใจผิดว่ามันยื่นออกมามากน่าเกลียด แต่จริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับขนาดความหนาของสเปเซอร์ที่รองเข้าไป อย่างหนาข้างละ 20 มม.
(1 Axis ก็ 40 มม.) ก็แทบจะไม่เห็นความแตกต่าง ถ้าไม่สังเกต แต่สมรรถนะการทรงตัวและเกาะถนนน่าจะดีขึ้นพอสมควร
- ประเด็นของผมคือมันถูกกว่าการโหลดลงด้วยชุดสปริงโหลด (ซึ่งชุดสปริงโหลดจะต้องใช้โช้คแก๊สด้วย) แต่เห็นพวกฝรั่งที่แต่งกันจริงจัง ต้องการเค้นสมรรถนะออกมากันจริง ๆ เขาใช้ทั้งชุดโช้คสปริงโหลด และรองด้วยสเปเซอร์
- ผมขอเอาสเปเซอร์ของ H&R มาเป็นตัวอย่างละกัน (ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใดนะครับ) สเปเซอร์ H&R มีหลายระบบได้แก่ DR,
DRA, DRM และ DRS ที่น่าสนใจน่าจะเป็นระบบ DRA ซึ่งจะยังใช้น๊อตล้อเดิมได้ต่อไป ไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้น๊อตที่ยาวขึ้น



Offline อับดุล

  • หนึ่งในใต้หล้า
  • ****
    • Posts: 820
  • ชอบใช้ Opel
Reply #1 on: 29 Dec 2010, 14:06
กำลังอยากรู้อยู่พอดี เป็นข้อมูลที่ดีมากเลย

คนเราทุกคน  ผมเชื่อว่า ไม่มีใครที่จะดีไปซะทุกอย่าง  ทุกๆคนต้องมีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้นแหละ  แต่การที่พวกเรามาอยู่รวมกันได้  คบกันได้  พูดคุยกันได้ และสนิทกัน ก็เป็นเพราะว่า  เรานั้นต่างรับข้อเสียของกันและกันได้ก็เท่านั้นเอง   แต่เหนือสิ่งอื่นใด   เราจะต้องจริงใจและคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามที่พวกของเราต้องการความช่วยเหลือ  และทำให้พวกของเรานั้นมีความสุขที่สุดเวลาที่อยู่กับเรา เท่านั้นพอ


Offline PeeSard

  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 9,159
  • DIY ไม่ทำไม่รู้..*v*
  • No.: 3
  • รุ่นรถ: Corsa GSi
  • สีรถ : แดง
  • เครื่องยนต์: X16XE 16V 105Hp
Reply #2 on: 29 Dec 2010, 15:01
ข้อดี และข้อเสีย SPACER

ข้อดี
-ใช้ล้อเดิมได้
-ได้ฐานความสมดุลย์กว้างขึ้น ตามขนาดที่เราต้องการ

ข้อเสีย
-ต้องเปลี่ยนน็อตล้อใหม่
-วงเลี้ยว (น่าจะ)กว้างขึ้น*
-การรองรับน้ำหนักดุมล้อ ผิดจากเดิม

วิธีอื่นที่เปรียบเทียบได้ ก็คือการขยับ ET  หรือหาล้อ ET ต่ำๆ
ข้อดี
-ฐานสมดุลกว้างขึ้น
-ไม่ต้องรองสเปเซอร์
-การรองรับน้ำหนักของดุมล้อ ไม่ต่างจากเดิมนัก

ข้อเสีย
-หาล้อใหม่
-วงเลี้ยวอาจจะกว้างขึ้น*

*เป็นแค่สมมุติฐานนะครับ เอาไว้ผมเอาล้อไปขยับ ET 1-2นิ้วก่อน
แล้วจะแจ้งให้ทราบครับ



+นู๋แดง GSi ไปได้ทุกที่+

เกี่ยวกับนู๋ซ่า มีปัญหาอะไร โทรมาได้เลยครับ
ส่วนตัว GSM : 0 89 0 31 55 99

NCStyle Mobile Kiosk
ซุ้มขายของสำเร็จแนวคลาสสิต





Offline Tanu

  • หนึ่งในใต้หล้า
  • ****
    • Posts: 516
  • ผมว่า คนขับรถโอเปิ้ล เป็นคนฉลาด...ครับ
  • No.: ...
  • รุ่นรถ: Vauxhall Astra Cesaro 2.0i Hatchback
  • สีรถ : White
  • เครื่องยนต์: C20NE
Reply #3 on: 29 Dec 2010, 17:07

เป็นความรู้ที่มีประโยชน์ มากครับ....

การเพิ่มระยะของฐานล้อ..จะช่วยเรื่องการทรงตัวได้ดียิ่งขึ้น....

1 รองสเปเซอร์....เซฟเงินกว่า..แต่ควรให้ความสำคัญกับขนาด และวัสดุ...

2 เปลี่ยนล้อ...ที่มีออฟเซ็ท ต่ำลง...เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกทางกว่า...

กรณีรถผม..อยากได้ฐานล้อกว่ากว่านี้ แต่ ไม่อยากเปลี่ยนแม๊กซ์..

รองสเปเซอรน่า..จะเป็นทางออก...ที่น่าสนใจ



วิธีหา ขนาดของสเปเซอร์จะรองเข้าไปได้...คือวัดระยะ..ช่องว่างระหว่างล้อและ..ซุ้ม..

เอ..... :มั้ง: ความแตกต่างระหว่าง

1 ใส่ 4 ล้อ
2 ใส่เฉพาะ ล้อหน้า
3 ใส่เฉพาะ ล้อหลัง

มันจะเป้นยังไงบ้างครับพี่...

http://www.opel.in.th/index.php/topic,1053.0.html

1993 Vauxhall Astra 2.0 Cesaro Hatchback.

The Cesaro was a limited edition model of the third generation Astra, not entirely sure what the specific details of it were, but it does appear different from the regular models, note the rather nice alloy wheels. Funnily enough, this shape Astra has really survived quite well into this decade, they are slightly thinner on the ground, but still very frequent sights. I didn't used to like them, but they


Offline aor

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 2,164
Reply #4 on: 29 Dec 2010, 17:21
รู้สึกว่าเขาไม่ใส่เฉพาะล้อหน้านะครับท่าน Tanu
ขนาดที่กำลังสวยสำหรับ Astra น่าจะเป็นหน้า 30 มม. (หนาข้างละ 15) และหลัง 40 มม. (หนาข้างละ 20) หรือหนากว่านั้นอีกนิด
ส่วนตัวผมกำลังเล็ง H&R ระบบ DRA อยู่ เพราะในระบบนี้จะมีน๊อตสำหรับยึดสเปเซอร์เข้ากับจานเบรคมาให้ด้วยเลย ส่วนน๊อตของเดิม
ก็ใช้ยึดล้อเข้ากับสเปเซอร์ โดยไม่ต้องไปหาน๊อตที่มีความยาวมากกว่าเดิมมาใช้ เช่นในสเปเซอร์แบบธรรมดา
ราคาของ H&R แพงอยู่ คู่นึงประมาณ 100 ยูโร แต่แลกกับของคุณภาพ



Offline Tanu

  • หนึ่งในใต้หล้า
  • ****
    • Posts: 516
  • ผมว่า คนขับรถโอเปิ้ล เป็นคนฉลาด...ครับ
  • No.: ...
  • รุ่นรถ: Vauxhall Astra Cesaro 2.0i Hatchback
  • สีรถ : White
  • เครื่องยนต์: C20NE
Reply #5 on: 29 Dec 2010, 17:51
รู้สึกว่าเขาไม่ใส่เฉพาะล้อหน้านะครับท่าน Tanu
ขนาดที่กำลังสวยสำหรับ Astra น่าจะเป็นหน้า 30 มม. (หนาข้างละ 15) และหลัง 40 มม. (หนาข้างละ 20) หรือหนากว่านั้นอีกนิด
ส่วนตัวผมกำลังเล็ง H&R ระบบ DRA อยู่ เพราะในระบบนี้จะมีน๊อตสำหรับยึดสเปเซอร์เข้ากับจานเบรคมาให้ด้วยเลย ส่วนน๊อตของเดิม
ก็ใช้ยึดล้อเข้ากับสเปเซอร์ โดยไม่ต้องไปหาน๊อตที่มีความยาวมากกว่าเดิมมาใช้ เช่นในสเปเซอร์แบบธรรมดา
ราคาของ H&R แพงอยู่ คู่นึงประมาณ 100 ยูโร แต่แลกกับของคุณภาพ

ขอบคุณมากครับ...เดี๋ยวไปทำพร้อมเปลี่ยนยางเลย...

จริงอยากได้เพระาความสวยงาม เป็นประการแรก....


http://www.opel.in.th/index.php/topic,1053.0.html

1993 Vauxhall Astra 2.0 Cesaro Hatchback.

The Cesaro was a limited edition model of the third generation Astra, not entirely sure what the specific details of it were, but it does appear different from the regular models, note the rather nice alloy wheels. Funnily enough, this shape Astra has really survived quite well into this decade, they are slightly thinner on the ground, but still very frequent sights. I didn't used to like them, but they


Offline moimoi

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 1,211
Reply #6 on: 29 Dec 2010, 21:07
มีความรู้มาให้ตลอดเลยครับ เยี่ยมจริงๆ  :D :D



Offline aor

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 2,164
Reply #7 on: 30 Dec 2010, 10:35
- ขอบคุณครับพี่ ๆ จริง ๆ แล้วผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่อาศัยว่าชอบของแปลก ๆ ใหม่ ๆ เข้าไปอ่านตามเว็ปต่าง ๆ แล้วเอามาปะติด
ปะต่อกัน คิดเอาเองบ้าง (ซึ่งอาจไม่ค่อยถูก) ยังไงคงต้องรอให้ผู้รู้จริง หรือมีประสบการณ์เคยใช้ช่วยเข้ามาอธิบายเพิ่มเติม จะได้กระจ่าง
กันต่อไป
- ร้านแม็คประจำที่ผมมักเอาแม็คเข้าซ่อมคือ automagwheel เขาก็รับทำสเปเซอร์ด้วย เห็นว่ามี 3 แบบ ได้แก่ 1) สเปเซอร์แบบ
ทั่วไป ตามค่า PCD 2) Spacer with Hub อันนี้แบบเป็น made to order ดีที่มีดุมกลางขนาดที่เราต้องการ (ของคอร์ซ่า แอสตร้า
ก็ 56.6 มม.) กันสั่นไปด้วยในตัว (แน่นอนว่าแพงกว่าแบบที่ 1) และ 3) Spacer with Stud แปลงค่า PCD อาทิ แปลงจาก 114.3
เป็น 100 (4 รูเหมือนเดิม) ทำจากอลูมิเนียม น้ำหนักเบา เขาว่างั้น



Offline kamolwat_t

  • I'm Gayray's
  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 12,856
  • โปรดขับรถอย่างมีความรับผิดชอบ
    • I'm Gayray's
  • No.: Shiroro : Corsa 40 , Tama : Omega 04
  • รุ่นรถ: Corsa B 3 Door , Omega B Sedan
  • สีรถ : คันแรกเขียวๆ คันหลังเทาๆ
  • เครื่องยนต์: Shiroro : X16XE , Tama : 2jz vvti
Reply #8 on: 01 Jan 2011, 23:09
อืม

จริงๆ เป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ครับ ใช้กันในระดับการแข่งขัน เซอร์กิต...

แปลว่ามันต้องมีผลในการใช้งานได้จริงๆ

แต่...

ตามหลัการ แลกเปลี่ยน ครับไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ต้องเสียไป แน่นอน...

เรามาดู ก่อนว่ามันจะได้อะไรขึ้นมาบ้าง

1. ระยะความกว้่างของล้อเราจะกว้างขึ้นครับ ทำให้

-การเกาะถนนเพิ่มขึ้นในโค้งและเลี้ยว

-การตอบสนองพวงมะลัยไวขึ้น

-การตอบสนองของช่วงล่างโดยรวม ตรงไปตรงมาขึ้น

2. ล้อจะขยับออกมาใกล้ซุมล้อมากขึ้น

น่าจะประมาณนี้นะครับ ผมง่วงๆอยู่ นึกได้จะบอกอีกรอบ

ข้อเสียที่เราต้องแลกกับการเกาะถนนคือ

-เพิ่มภาระให้ช่วงล่าง โดยเปล่าประโยชน์ งง ไหมครับ ตามหลักคานดีดคานงัดครับ ง่ายๆ

ลอง ทดลองดังนี้ ลองยกกำมือข้างขวาเหยียดตรงขนานพื้น แล้วเอานิ้วมือซ้ายมากดดู(ท่าเดียวกับโดนทำโทษหน้าเสาธง) ลองอีกครั้ง เอาต้นแขนแนบลำตัว แล้วยกขึ้นมาเฉพาะปลายแขน(ข้อศอกติดเอวอยู่ ท่าเดียวกับเวลาที่พิมพ์งานนั้นแหละ) ดูครับ จะเห็นว่า การออกแรงต่างกัน

ยิ่ง นน. กระทำที่ปลายของคานยาวมากเท่าไร แรงกระทำยิ่งจะไป ทำให้ ระบบเกี่ยวข้องรับภาระหนักขึ้นเท่านั้น (เหล็กลูกหมากปีกนก โช้ค ปีกนก น๊อตล้อ) ในระยะยาวนะครับ

ผมบอกว่าในสนามแข่งเขาใช้กัน เพราะว่า ช่วงล่างเขาเซ็ตได้เต็มที่ ใช้งาน ในสนามครั้งละ 2-3 ชั่วโมง ประมาณ 50-100 กม. แบบเต็มที่ แล้วก็กลับมาเช็คว่ามีอะไรเสียหายหรือไม่ ต้องเปลี่ยนอะไรหรือไม่ ไม่เหมือนกับเราๆ ที่ ปีนึง จะได้เช็ค ช่วงล่างสักกี่ครั้งกัน ขับไปตั้งปีละ หลายหมื่น กม.

อีกอย่าง ในสนามแข่งมันไม่ได้มีหลุมดักควาย คอสะพานทำลายแม๊ก ร่องถนนทำลายยาง แบบบนถนนบ้านเราครับ

มันคงไม่ได้น่ากลัวอะไรมากครับ ถ้าไม่ได้ลูกหมากปีกนกขาดแบบ พี่วิน corsa ไข่ดำ (ขนาดคาตาเลย ตอนที่ กำลังจอดรถ ดีที่ไม่ขาดกลางถนน) แต่เป็นส่วนน้อยครับ  ตอนนั้นแกใส่ ล้อ 17 สเปเซอร์ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะ ประมาณ ข้างละ 25mm แกทำเพราะว่า ให้มันใส่กับล้อที่ซื้อมาได้ครับ ให้ยืดออกมาพอดีซุ้มล้อ

-การเกาะถนน ถ้าไม่ได้ขับแบบเต็มที่ ช่วงล่างเดิมๆ อาจจะไม่รู้สึกอะไร เป็นเรื่องเป็นราวนะครับ เพราะว่า ถ้าช่วงล่าง ไม่ได้ทำ แล้วยืดล้อออกไป ข้างละ 20 mm (เยอะนะนั้นเกือบ นิ้ว รถแข่งจริงๆ แค่ 10 mm เอง แต่ไม่เสมอไปครับอยู่ที่การเซ็ต) จากเดิม มันกว่าอยู่ 1400 mm กว่าๆ เพิ่มมา 40 mm ก็ร่วมๆ 2% หน่อยๆ ขับ 10000 โล จะได้ใช้ประโยชน์ จากไอ้ 2 % นี้ กี่เมตร กี่วินาที(ปรกติโค้งโหดๆ เลี้ยวประมาณ 2-3 วินาที) กี่โค้ง(ถ้าในกทม ต้องเข้าแรงจนเสียงยางดัง) ผมไม่แน่ใจครับ (ถ้าเป็นผม อาจจะเยอะหน่อย)

-พวงมะลัยจะ วอกแวกขึ้น เพราะว่า แขน 2 ข้างมันโดนขยายนี่แหละครับ เวลาที่ตกหลุมบ่อพวงมะลัยจะดึงแรงขึ้นนิดหน่อย เวลาที่ขับความเร็วสูง จะต้องมีสมาธิมากขึ้นครับ(ถ้าเกิดว่า ขยายจนมันมีผลเรื่องการเกาะถนนนะครับ ถ้านิดหน่อย ก็คงไม่เป็นไร แต่หมายความว่า มันก็เกาะถนนในโค้งไม่ค่อยต่างจากเดิม)

โดยรวม...

มันไม่ได้เป็นอุปกรณ์เทพ ขนาดที่จะทำให้ รถเราเกาะถนน มากขึ้นเท่ากับการทำช่วงล่างให้ดีขึ้นครับ ตัวละ 3-500 1คันก็ใช้เงิน 1200-2000 บาท ไม่้รวมค่าน๊อตล้อใหม่

เอาเงินไปลอง อัดโช้คเล่นๆ(อันเก่าที่มันพังไปแล้วนั้นแหละครับ อัดเล่นๆ) ที่ พี่ใหม่พรเทพ บอกว่า 1.เจ้าต้นแนะนำมา 2.เอาหนืดกว่าปรกติ 2 ระดับ ไม่ก็บอกว่า เอาแบบสนามเลย คู่ละ 800 บาทรวมถอดใส่ เป็น 1600 บาท ใช้สปริงเดิมๆ ติดรถนี่แหละครับ เห็นผลต่างแน่นอน แต่ว่า อายุโช้คอาจจะประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพแกนโช้คเดิมๆของเรานะครับ ว่า เน่ามากแค่ไหน ถ้ามันเละมากๆ แกก็ไม่ทำให้ฮะ

แต่มัน ก็ไม่ได้เลวร้ายมากนักครับ เป็น อุปกรณ์ชิ้นนึงที่ ผมเรียกว่า ทำออกมาขายเพื่อกินตังผุ้บริโภคโดยไม่จำเป็น ครับ ไม่ใช่ว่าไม่มีผลจริงครับ แต่ว่ามันน้อยไปหน่อย เมือเทียบกับราคาที่จ่ายเมื่อเทียบกับลักษณะการใช้งาน

คือ ถ้าใส่เสริมน้อยๆ 3-7 mm ก็เห็นผลน้อยหน่อย แต่ก็ทารุนช่วงล่างไม่มาก เสริม 10-20 mm ก็เห็นผลมากหน่อย แต่ก็ทารุณช่วงล่างหนักเอาการ

หลังๆ ในสนามแข่งเขาใช้ชุดปีกนกแต่ง คอม้าแต่ง กันแล้วครับ ถ้าเอาให้ปลอดภัยแข็งเรงชัวร์  ;) (แต่ของเรามันไม่มีเนี้ยสิ  :เครียด:)

แต่ไม่ได้เบรคตัวโก่งนะครับว่า อย่าเอามาใส่เลย ไม่ใช่ อุปกรณ์ที่ ทำให้เกิดอันตราย ครับ แค่บอกว่า มันจะมีผลอย่างไรเท่านั้นเอง ถ้ามันมีอุปกรณ์ที่ อันตรายกับตัวรถหรือผู้ขับ ผมจะเบรคตัวแดง ก่อนแน่นอนครับ อันนี้ แค่เตือนตัวเหลือง เท่านั้นเอง  :bye:

ชื่อ ต้น นะครับ อายุ 31 ครับ

opel corsa คันเล็กๆ ชุดแต่ง Std.แท้จากโรงงาน เครื่อง 16v ล้อ 15 ยางแตนๆ ท่อดังๆ

www.opel.in.th

ผมไม่ใช่อู่ ไม่ใช่คนขายอะไหล่นะครับผมเป็น "ผู้ประสานงานทางด้านเทคนิคทั่วไป" ไม่ได้รู้ทุกอย่างแต่พวกเยอะครับ มีปัญหาอะไรพวกเราจะช่วยกันครับ

lap Time
Kaeng Krachan Circuit wet 1.55 dry 1.49.8
Bira Circuit Dry 1.32 (เบรคพังฮะ)


Offline Tanu

  • หนึ่งในใต้หล้า
  • ****
    • Posts: 516
  • ผมว่า คนขับรถโอเปิ้ล เป็นคนฉลาด...ครับ
  • No.: ...
  • รุ่นรถ: Vauxhall Astra Cesaro 2.0i Hatchback
  • สีรถ : White
  • เครื่องยนต์: C20NE
Reply #9 on: 04 Jan 2011, 11:16
 :มั้ง: :มั้ง: :มั้ง:>>>

ถ้าเสริม นิด หน่อย....10 mm.  คงไม่เป็นไรใช่มั๊ยคุณต้น....แค่อยากให้ซุ้มมันดูเต็มๆ เท่านั้น....

และขอบคุณสำหรับ...ข้อมูลเพิ่มเติมครับ....(เรื่องแรงกระทำที่เพิ่มขึ้นที่เชียงคาน....>>>....ปลายคาน)

http://www.opel.in.th/index.php/topic,1053.0.html

1993 Vauxhall Astra 2.0 Cesaro Hatchback.

The Cesaro was a limited edition model of the third generation Astra, not entirely sure what the specific details of it were, but it does appear different from the regular models, note the rather nice alloy wheels. Funnily enough, this shape Astra has really survived quite well into this decade, they are slightly thinner on the ground, but still very frequent sights. I didn't used to like them, but they


Offline kamolwat_t

  • I'm Gayray's
  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 12,856
  • โปรดขับรถอย่างมีความรับผิดชอบ
    • I'm Gayray's
  • No.: Shiroro : Corsa 40 , Tama : Omega 04
  • รุ่นรถ: Corsa B 3 Door , Omega B Sedan
  • สีรถ : คันแรกเขียวๆ คันหลังเทาๆ
  • เครื่องยนต์: Shiroro : X16XE , Tama : 2jz vvti
Reply #10 on: 05 Jan 2011, 20:38
10 mm ต้องเปลี่ยน น๊อตยาวใส่นะครับ ไม่ได้ขับเร็วขับโหด ก็ไม่มีปัญหามากครับ....

ออ น๊อตยาว เป็นของเบนซ์ ครับ ตัวละ 100 ถ้าจำไม่ผิดฮะ อาจซื้อได้ถูกกว่านั้น :)

ปรกติ ใส่กัน แค่ 3-5 mm ครับ :)

ชื่อ ต้น นะครับ อายุ 31 ครับ

opel corsa คันเล็กๆ ชุดแต่ง Std.แท้จากโรงงาน เครื่อง 16v ล้อ 15 ยางแตนๆ ท่อดังๆ

www.opel.in.th

ผมไม่ใช่อู่ ไม่ใช่คนขายอะไหล่นะครับผมเป็น "ผู้ประสานงานทางด้านเทคนิคทั่วไป" ไม่ได้รู้ทุกอย่างแต่พวกเยอะครับ มีปัญหาอะไรพวกเราจะช่วยกันครับ

lap Time
Kaeng Krachan Circuit wet 1.55 dry 1.49.8
Bira Circuit Dry 1.32 (เบรคพังฮะ)


 





Opel Vauxhall Corsa B Astra Vectra B Omega Kadett Kapitan Olympia C14NZ C12NZ X14XE X16XE X16XEL X18XE X18XE1 X20XEV Z22SE C20NE C20SE C20XE C2OLET X25XE C25XE X30XE imcher stiemetz zifira


รถยนต์ ขับรถ Opel in Thai โอเปิล อิน ไทย สนาม ซ่อม แต่ง คลับ club love lover modify talk host server online network game เกมส์ colocation co-location ล้อ ยาง ช่วงล่าง เครื่อง