ถามเรื่อง " ตัด " ปั๊มติ๊กครับ

tun20 · 4813

Offline tun20

  • นักรบพเนจร
  • **
    • Posts: 76
อยากทราบว่ารถที่ติดแก๊สต้องตัดปั๊มติ๊กหรือเปล่าครับ  แล้วตัด กับ ไม่ตัด มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไรครับ  รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ  :ice:สำนึก:



Offline khomsan

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 1,155

มันเป็นบทความอยากให้ลองอ่านและพิจารณาดูเอาเองครับ   ผมเองก้อไม่ได้เก่งหรือมีความรู้ความชำนาญในเรื่องนี้ชักเท่าไหร่นักนะครับ   รู้เท่าที่รู้  บอกเท่าที่รู้   ไม่รู้ก้อคือไม่รู้จริงๆครับ   แต่อันไหนที่พอจะช่วยเหลือให้คำแนะนำกับสมาชิกไม่ว่าโดยตรงหรือทางอ้อม  ผมก้อยินดีช่วยเหลือครับ   ลองๆอ่านแล้วตัดสินใจเองนะครับ :เครียด: :เครียด: :drink: :drink: :drink:


- บางคนบอกว่า...ถ้าไม่ตัด ปั๊มจะพังเร็ว

- บางคนบอกไม่จำเป็น เพราะมีระบบไหลวนกลับ และฝรั่งต้นตำหรับก็ไม่ตัด อ่านบทความนี้แล้วจะเข้าใจชัดเจนว่า   ตัด...ดีกว่าไม่ตัด!

• มีค ำ ถ า ม แ ล ะ ความสับสนในแวดวงรถยนต์ติดแก๊สทั้งแอลพีจี หรือเอ็นจีวี ว่าขณะใช้แก๊ส ควร หยุดการทำงานของปั๊มน้ำมันเบนซินหรือไม่



         ปั๊มน้ำมันเบนซิน FUEL PUMP ถ้าเป็นปั๊มกลไกติดตั้งอยู่ริมๆ เครื่องยนต์คาร์บูเรเตอร์ เรียกว่า ปั๊มเอซี หากเป็นปั๊มไฟฟ้า เรียกปั๊มติ๊ก เพราะขณะทำงานจะมีเสียงดังติ๊กๆส่วนปั๊มแรงดันสูงสำหรับเครื่องยนต์หัวฉีดขณะทำงานมีแค่เสียงคราง จากการหมุนข้างในแต่ผู้คนทั่วไปกลับเรียกกว่า ‘ปั๊มติ๊ก’ เพราะเรียกติดปากมาจากปั๊มไฟฟ้าสำหรับเครื่องคาร์บูฯแม้ตัวปั๊มจะมีเสียงไม่ดังติ๊กๆ และถือว่าเป็นการเรียกผิด แต่คงไม่ง่ายที่จะแก้ไขในสังคมวงกว้าง ใครไปซื้อปั๊มติ๊กแล้วบอกว่า ขอซื้อปั๊มส่งน้ำมันเชื้อเพลิงหรือ FUEL PUMP คงงงกันทั้งร้านเครื่องยนต์คาร์บูเรเตอร์ที่ติดตั้งแก๊ส แน่นอนว่า ต้องตัดการส่งน้ำมัน ถ้าเป็นปั๊มไฟฟ้าก็ตัดไฟฟ้า หากเป็นปั๊มเอซีก็ใส่โซลินอยด์บล็อกการไหลของน้ำมัน ไม่ให้เข้าคาร์บูฯ ขณะใช้แก๊สเครื่องยนต์หัวฉีด จำเป็นต้องตัดไฟสั่งหรือเลี้ยงหัวฉีด เพื่อไม่ให้หัวฉีดยกเปิดขณะใช้แก๊สเพื่อไม่ให้น้ำมันฉีดเข้าไปขณะใช้แก๊สแต่ประเด็นที่สับสนคือ ควรตัดปั๊มติ๊ก หรือไม่ เพราะในเมื่อหัวฉีดไม่เปิด น้ำมันเบนซินก็ไม่ถูกฉีดออกไปอยู่แล้ว

ฝ่ายที่...ตัด

• เข้าใจผิดว่า “ถ้าไม่หยุดหรือตัดการทำงานของปั๊ม แล้วปั๊มจะพังเร็ว เพราะมีการอั้น จนแรง - ดันเกิน หรืออั้นจนท่อน้ำมันแตก”

ฝ่ายที่...ไม่ตัด

• อ้าง 2 เหตุผลว่า “ฝรั่งต่างชาติต้นตำหรับการติดแก๊สอย่างอิตาลีหรือยุโรป ไม่ได้มีวงจรหรือแนะนำให้ตัดไฟฟ้าที่จะส่งเข้าปั๊มเลย” ระบบท่อทางเดินน้ำมันในรถ มีการไหลวนกลับถัง และควบคุมด้วยเรกูเลเตอร์อยู่แล้ว ยังไงแรงดันในระบบก็ไม่เกิน แม้ปั๊มจะทำงาน แต่หัวฉีดไม่ยก หรือในรถรุ่นใหม่ๆ ที่ไม่มีท่อไหลกลับ ถึงจะไม่ตัดปั๊มติ๊ก แรงดันในระบบก็ไม่เกิน เพราะมีตัวควบคุมแรงดันให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลาไม่ตัด ไม่อั้น ไม่พังเร็วแต่พังที่กิโลเมตรพอๆ กับคันที่ใช้น้ำมัน ! ทั้งที่เราใช้แก๊ส

• ฝ่ายที่สนับสนุนการไม่ตัดปั๊ม คิดว่าถูกต้องและไม่มีวิธีที่ดีกว่า เพราะฝรั่งก็ทำ และเมื่อไม่ตัดปั๊มก็ไม่พังเร็ว ใช้งานได้หลายปี เหมือนรถที่ใช้น้ำมันเบนซินล้วนๆหลายอู่ติดตั้งแก๊ส เลือกไม่ตัด เพราะเข้าใจดีว่ามีการหมุนวนและไม่พังเร็ว ซึ่งก็มีส่วนจริงแต่จริงไม่ที่สุด นอกจากนั้นยังเกี่ยวข้องกับการลดเวลาทำงานของช่าง หรือขี้เกียจนั่นเองตัด พังชั่วโมงเดิม แต่กิโลเมตรไกลขึ้น• เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า จริงๆ แล้วปั๊มติ๊กมีอายุการใช้งานเป็น...ชั่วโมง ไม่ใช่กิโลเมตรหรือปี เช่น สมมุติ ใช้งานได้ 8,000 ชั่วโมงแล้วพัง รถที่ขับทางไกลบ่อย ปั๊มมักจะเสียที่กิโลเมตรบนหน้าปัดรถมากกว่าคันที่ขับในเมืองที่การจราจรติดขัด

หลักการจริง  ตัดปั๊ม...แล้วจะดี

• ไม่ได้ทำให้อายุปั๊มยาวขึ้น ยังยาวนานเท่าเดิม แต่ปั๊มไปเสียที่กิโลเมตรไกลกว่าไม่ตัดการไม่ตัดปั๊มติ๊ก ไม่ได้อั้น ไม่มีแรงดันเกิน เพราะระบบมีการไหลวนหรือควบคุมแรงดันปั๊มติ๊กจะเสียที่ชั่วโมงการทำงานเท่าเดิม แต่จะไปตรงกับที่ตัวเลขเท่าไรบนหน้าปัดรถ ขึ้นอยู่กับ...ตัดหรือไม่ตัด!



คนไทยเก่ง หรือ เข้าใจดีกว่าฝรั่ง

        ผมเคยเถียงกับฝรั่งที่ชำนาญการติดตั้งแก๊สจนหน้าดำคร่ำเครียด ท้ายสุดผมสรุปว่า เรื่องแรงดันเกินน่ะไม่ใช่ แต่อายุปั๊มมีหน่วยเป็น...ชั่วโมง การตัดปั๊มจะทำให้ชั่วโมงสุดท้ายตรงกับกิโลเมตรบนหน้าปัดที่มากขึ้นในทางวิศวกรรม เมื่อไม่ได้ใช้อุปกรณ์อะไร ก็ไม่ควรปล่อยให้ทำงาน โดยเสียชั่วโมงไปเปล่าๆ โดยมีข้อด้อยบ้างเล็กน้อย คือ แรงดันน้ำมันในระบบจะตกลงบ้างเมื่อใช้แก๊ส หากกดปุ่มหรือระบบ ตัดกลับมาเป็นระบบน้ำมันเบนซินเมื่อแก๊สหมด จังหวะเปลี่ยนอาจมีการกระตุกมากกว่าการไม่ตัดปั๊ม ที่มีแรงดันสูงรออยู่หลังหัวฉีดตลอดเวลา แต่ลองคิดดูว่า วันหนึ่งจะมีไหมที่ผู้ขับจะกดปุ่มสลับเป็นน้ำมันหลายครั้ง หลายวันไม่ได้ทำเลย และกี่วันจะใช้แก๊สจนหมดแล้วตัดกลับน้ำมัน และอาการกระตุกก็จะน้อยลงไปหากสลับระบบตอนที่รอบสูงกว่ารอบเดินเบา กระตุกนิดหน่อยนานๆ ครั้ง แต่ถนอมปั๊มติ๊กไว้ดีกว่า และอาการกระตุกนี้ สามารถแก้ไขได้ หากมีโปรแกรมในกล่องควบคุมแก๊สที่ดี ก็แค่สั่งฉีดแก๊สต่ออยู่ 0.2 – 1 วินาที หลังจากปล่อยให้หัวฉีดน้ำมันเริ่มทำงานรถรุ่นใหม่ บางรุ่นหลังปี 2000 ขึ้นมา (ไม่มากรุ่น) ที่ไม่มีท่อน้ำมันเบนซินไหลกลับ บางรุ่นมีการตรวจสอบแรงดันในระบบอย่างละเอียด ถ้าแรงดันตก ไฟเตือนรูปเครื่องยนต์บนหน้าปัดจะสว่างขึ้น จึงไม่สามารถตัดการทำงานของปั๊มติ๊กในขณะใช้แก๊สได้ในรถเครื่องยนต์หัวฉีดทั่วไป ไม่ว่าจะติดแก๊สระบบใด มิกเซอร์หรือหัวฉีด การตัดปั๊มติ๊กในขณะใช้แก๊ส ไม่ได้ทำให้อายุปั๊มยาวขึ้น เพราะมีชั่วโมงการทำงานเท่าเดิม แต่ชั่วโมงสุดท้าย จะเกิดพร้อมกับตัวเลขกิโลเมตรบนหน้าปัดที่มากกว่าไม่ตัดปั๊มติ๊กของใหม่ตัวละหลายพันบาท ของเก่าำหรับรถญี่ปุ่นหลายร้อยบาท การตัดปั๊มติ๊กขณะใช้แก๊สช่วยชะลอเงินคนไทยที่ไหลออกนอกประเทศเป็นค่าปั๊มติ๊ก

        ถ้างง...อ่านประโยคนี้ซ้ำๆ “การไม่ตัดปั๊ม ไม่ทำให้ปั๊มมีอายุชั่วโมงสั้นลง แต่การตัดจะทำให้ชั่วโมงสุดท้ายของปั๊มที่เท่าเดิม ไปตรงกับตัวเลขกิโลเมตรบนหน้าปัดที่ไกลขึ้น”

----------------------------------------------
บทความจาก • เรื่อง : วรพล สิงห์เขียวพงษ์
หนังสือ : THAIDRIVER AUTO GAS

ขับแอสตร้าชีดาน 4 ประตู  จอดมากว่าเข้าอู่


Offline kamolwat_t

  • I'm Gayray's
  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 12,856
  • โปรดขับรถอย่างมีความรับผิดชอบ
    • I'm Gayray's
  • No.: Shiroro : Corsa 40 , Tama : Omega 04
  • รุ่นรถ: Corsa B 3 Door , Omega B Sedan
  • สีรถ : คันแรกเขียวๆ คันหลังเทาๆ
  • เครื่องยนต์: Shiroro : X16XE , Tama : 2jz vvti
ส่วนตัวนะครับ แนะนำให้ ทำสวิตสำหรับตัดการทำงาน แยกเอาไว้ครับ แต่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้... ขึ้นอยู่กับ...

1. ความขี้เกียจในการเปลี่ยน  :-\

2. ถ้าเกิดท่อน้ำมันแตก หรือว่ามีกลิ่น น้ำมันผิดปรกติ จะได้ตัดระบบเพื่อเช็คและใช้แก๊สวิ่งไปเข้าอู่ได้  :หึหึ:

ข้อ 2 เนี้ย ผมเจอมาหลายคันแล้วครับ ใช้แก๊ส แล้วน้ำมันไม่ค่อยได้ใช้ อีท่าไหนไม่รู้มัน ทำท่อน้ำมันแตกหรือยุ้ย ถ้า มีสวิจท์ตัดเอาไว้ จะได้ไม่เป็นอันตรายมากครับ จริงๆจะเปิดเบาะแล้วแกะปลั๊กออกมาก็ได้เหมือนกันนะครับ แต่ลำบากกว่านิดนึง...

ทำเอาไว้ก็ไม่เสียหลายครับ ราคาไม่แพง ตัดที่สายกราด์นะครับ  :)

ชื่อ ต้น นะครับ อายุ 31 ครับ

opel corsa คันเล็กๆ ชุดแต่ง Std.แท้จากโรงงาน เครื่อง 16v ล้อ 15 ยางแตนๆ ท่อดังๆ

www.opel.in.th

ผมไม่ใช่อู่ ไม่ใช่คนขายอะไหล่นะครับผมเป็น "ผู้ประสานงานทางด้านเทคนิคทั่วไป" ไม่ได้รู้ทุกอย่างแต่พวกเยอะครับ มีปัญหาอะไรพวกเราจะช่วยกันครับ

lap Time
Kaeng Krachan Circuit wet 1.55 dry 1.49.8
Bira Circuit Dry 1.32 (เบรคพังฮะ)


Offline tun20

  • นักรบพเนจร
  • **
    • Posts: 76
ขอบคุณทั้ง 2 ท่าน ที่ช่วยให้ความรู้ครับ  ขอบคุณครับ  8)



Offline PeeSard

  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 9,159
  • DIY ไม่ทำไม่รู้..*v*
  • No.: 3
  • รุ่นรถ: Corsa GSi
  • สีรถ : แดง
  • เครื่องยนต์: X16XE 16V 105Hp
ผมเลือกตัดดีกว่า อย่างน้อยก็เข้าใจว่า ปั๊มมันจะได้ไม่ทำงานตลอดขณะใช้แก๊ส
และอย่างน้อย น้ำมันก็จะได้ไม่ระเหยทิ้งอย่างไร้คุณค่า..ยิ่งแพงๆอยู่ด้วย

+นู๋แดง GSi ไปได้ทุกที่+

เกี่ยวกับนู๋ซ่า มีปัญหาอะไร โทรมาได้เลยครับ
ส่วนตัว GSM : 0 89 0 31 55 99

NCStyle Mobile Kiosk
ซุ้มขายของสำเร็จแนวคลาสสิต





Offline teeracha

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 1,557
  • มีอะไรให้ช่วยก็โทรมา 081 2667768
ผมเคยเจอรถ opel astra ติดแก๊สคันหนึ่ง  regulator พังครับ
พอไล่ระบบน้ำมันพบว่าไม่ตัดปั๊มติ๊ก ครับ
 :please:



Offline หนานมา

  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 3,127
  • luangsu_m@hotmail.com
  • No.: 34
  • รุ่นรถ: แอสตร้าแวน
  • สีรถ : สีเทา
  • เครื่องยนต์: พันหกอีโคฯ
ติดแก๊ส....ควร....

ตัดการทำงานหัวฉีด....ตัดการทำงานของปั๊มฯ

เหตุผลสั้นๆง่าย....เมื่อไม่ใช้แล้วจะให้มันทำงาน(ฟรี+เหนื่ีอย+บั่นทอนอายุ)ไปทำไม....

....มันต้องมองให้ลึก...มองให้ถึงแก่น....แล้วจะเข้าใจ...

ตัดหัวฉีดมันของตาย...

แต่ตัดปั๊มฯ หรือไม่ตัดยังถกเกียงกันอยู่....

ในมุมมองผม....ตัดครับ...ถ้าไม่อยากเสียตังค์ ก่อนเวลาอันควร

ต่อให้มันมีระบบไหลกลับก้อตาม...

...มองในมุมลึก...มองในแบบของผมเอง....

ขณะปั๊มทำงาน...ไม่ไ้ด้ตัดหัวฉีด...แรงดันมีการระบายออกเป็นช่วงๆตามจังหวะการเปิด ของหัวฉีด

ปั๊ม...ได้พักหายใจบ้าง....

แต่ถ้าปั๊มทำงานขณะหัวฉีดไม่ทำงาน...หน้าที่หรือภาระหนักไปตกอยู่กับเรคกูเลเตอร์

ต้องทำงานหนัก...ถูกดันให้เปิดน้ำมันไหลกลับถังตลอดเวลา(ไม่มีเวลาพัก)

มันส่งผลย้อนไปถึงปั๊มฯ จากที่เคยทำงานคล่องๆ แต่ต้องมาเจอแรงต้าน....

ทำให้ปั๊มต้องออกแรงมากกว่าเก่า....เหมือนคนยืนเฉยๆพอถูกพลัก ก้อต้องออกแรงต้านเพื่อให้ตัวเองยืนอยู่ได้

การที่ต้องออกแรงมากๆอยู่ตลอดเวลา มันทำให้เหนื่อยไว พอเหนื่อยไม่ได้พักมันก้อตายไวขึ้นครับ...

    “คำฮักน้องกูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลั๋วหนาว  จักเอาไว้พื้นอากาศ กล๋างหาว ก็กลั๋วหมอกเหมยซอนดาวลงมาขะลุ้ม  จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลั๋วเจ้าป๊ะใส่แล้วลู่เอาไป  ก็เลยเอาไว้ในอกในใจ๋ตัวจายปี้นี้  จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้ ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา”
- สมเจตน์ วิมลเกษม


Offline jannybunny

  • นักรบพเนจร
  • **
    • Posts: 109
  • ืnewbie
  • No.: #149
  • รุ่นรถ: vectra a 5door AT
  • สีรถ : น้ำเงิน
  • เครื่องยนต์: c20ne
ตัดปั้มติ๊กเห็นผลตอนวิ่งทางไกลๆครับ เกจน้ำมันไม่ลดลง
ถ้าลดลงหนึ่งขีดก่อนถึงแดงหมายถึงเงิน300-500 ทีเดียวนะครับ
เติมแก๊สวิ่งได้ไกลอยู่  :alone

ของที่รัก เป็นยังไงก็รัก
เหนือคำว่ารัก คือความเข้าใจ


Offline tun20

  • นักรบพเนจร
  • **
    • Posts: 76
ติดแก๊ส....ควร....

ตัดการทำงานหัวฉีด....ตัดการทำงานของปั๊มฯ

เหตุผลสั้นๆง่าย....เมื่อไม่ใช้แล้วจะให้มันทำงาน(ฟรี+เหนื่ีอย+บั่นทอนอายุ)ไปทำไม....

....มันต้องมองให้ลึก...มองให้ถึงแก่น....แล้วจะเข้าใจ...

ตัดหัวฉีดมันของตาย...

แต่ตัดปั๊มฯ หรือไม่ตัดยังถกเกียงกันอยู่....

ในมุมมองผม....ตัดครับ...ถ้าไม่อยากเสียตังค์ ก่อนเวลาอันควร

ต่อให้มันมีระบบไหลกลับก้อตาม...

...มองในมุมลึก...มองในแบบของผมเอง....

ขณะปั๊มทำงาน...ไม่ไ้ด้ตัดหัวฉีด...แรงดันมีการระบายออกเป็นช่วงๆตามจังหวะการเปิด ของหัวฉีด

ปั๊ม...ได้พักหายใจบ้าง....

แต่ถ้าปั๊มทำงานขณะหัวฉีดไม่ทำงาน...หน้าที่หรือภาระหนักไปตกอยู่กับเรคกูเลเตอร์

ต้องทำงานหนัก...ถูกดันให้เปิดน้ำมันไหลกลับถังตลอดเวลา(ไม่มีเวลาพัก)

มันส่งผลย้อนไปถึงปั๊มฯ จากที่เคยทำงานคล่องๆ แต่ต้องมาเจอแรงต้าน....

ทำให้ปั๊มต้องออกแรงมากกว่าเก่า....เหมือนคนยืนเฉยๆพอถูกพลัก ก้อต้องออกแรงต้านเพื่อให้ตัวเองยืนอยู่ได้

การที่ต้องออกแรงมากๆอยู่ตลอดเวลา มันทำให้เหนื่อยไว พอเหนื่อยไม่ได้พักมันก้อตายไวขึ้นครับ...



สรุปแล้ว ต้องตัดทั้งหัวฉีด และ ปั๊มติ๊ก ใช่มั๊ยครับ  :มั้ง:



Offline kamolwat_t

  • I'm Gayray's
  • DekGayRay's
  • ยอดฝีมือแห่งแค้วน
  • *****
    • Posts: 12,856
  • โปรดขับรถอย่างมีความรับผิดชอบ
    • I'm Gayray's
  • No.: Shiroro : Corsa 40 , Tama : Omega 04
  • รุ่นรถ: Corsa B 3 Door , Omega B Sedan
  • สีรถ : คันแรกเขียวๆ คันหลังเทาๆ
  • เครื่องยนต์: Shiroro : X16XE , Tama : 2jz vvti
หัวฉีดมันต้องตัดอยู่แล้วฮะพี่...  :)

ส่วน ปั๊ม ติ๊ก ตัดด้วยสวิทต์ ก็ดีครับ เลือกได้ว่าจะเปิดหรือเปิด..  :)

ชื่อ ต้น นะครับ อายุ 31 ครับ

opel corsa คันเล็กๆ ชุดแต่ง Std.แท้จากโรงงาน เครื่อง 16v ล้อ 15 ยางแตนๆ ท่อดังๆ

www.opel.in.th

ผมไม่ใช่อู่ ไม่ใช่คนขายอะไหล่นะครับผมเป็น "ผู้ประสานงานทางด้านเทคนิคทั่วไป" ไม่ได้รู้ทุกอย่างแต่พวกเยอะครับ มีปัญหาอะไรพวกเราจะช่วยกันครับ

lap Time
Kaeng Krachan Circuit wet 1.55 dry 1.49.8
Bira Circuit Dry 1.32 (เบรคพังฮะ)


Offline tun20

  • นักรบพเนจร
  • **
    • Posts: 76
ครับขอบคุณครับ 8)



 





Opel Vauxhall Corsa B Astra Vectra B Omega Kadett Kapitan Olympia C14NZ C12NZ X14XE X16XE X16XEL X18XE X18XE1 X20XEV Z22SE C20NE C20SE C20XE C2OLET X25XE C25XE X30XE imcher stiemetz zifira


รถยนต์ ขับรถ Opel in Thai โอเปิล อิน ไทย สนาม ซ่อม แต่ง คลับ club love lover modify talk host server online network game เกมส์ colocation co-location ล้อ ยาง ช่วงล่าง เครื่อง