นี่ก้อใกล้จะถึงเทศกาลสงกรานต์แล้ว ทุกท่านก้อคงได้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะออกเดินทางไปเที่ยว ที่ไหนๆชักแห่งกับครอบครัวกัน และแน่นอนครับในหน้าเทศกาลแบบนี้การเดินทางของทุกท่าน จะต้องเจอกับด่านตำรวจ ที่คอยอำนวยความสะดวกและตรวจจับ ตักเตือนผู้ที่ใช้ยานพาหนะในท้องถนน ผมมีเรื่องที่จะบอกกล่าวเล่าให้ทุกท่านได้ฟังกัน เพื่อเป็นข้อเตือนใจในเวลาที่ท่านเจอด่านครับ เป็นเรื่องที่ผมและครอบครัวประสบกันมาเมื่อหลายปีก่อน มันเป็นเหตุการณ์ที่ระทึกขวัญสำหรับผมมาก จนไม่อาจที่จะลืมเลือนไปจากชีวิตได้เลย เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ตรงนี้ของผม ให้ท่านสมาชิกทุกๆท่านได้นึกถึงและเป็นอุทาหรณ์ เตือนใจไว้ครับ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมนี้ เกิดขึ้นเมื่อ4ปีที่ผ่านมา ผมและภรรยาจะเดินทางไปเที่ยวที่ตลาดน้ำอัมพวา สมุทรสงครามชึ่งเป็นช่วงหน้าเทศกาลสงกรานต์ ตอนนั้นผมยังไม่มีรถยนต์ขับ ผมมีเพียงแต่รถมอเตอร์ไชด์รุ่นKR150 ผมและภรรยาจึงเดินทางไปโดยผมเป็นคนขับมอเตอร์ไชด์ภรรยาผมนั่งซ้อนท้าย เดินทางออกจากพระสมุทรเจดีย์ในช่วงสายๆ ขับออกจากบ้านไปชักระยะหนึ่งประมาณ2ก.ม. ผมก้อมาเจอด่านตำรวจของสภอ.พระสมุทรเจดีย์ ทางเจ้าหน้าที่ได้โบกให้ผมขับรถเข้าที่ด่าน เจ้าหน้าที่เรียกขอตรวจใบขับขี่และเอกสารการครอบครองรถ ตรวจสภาพรถ ผมก้อยื่นเอกสารต่างๆให้เจ้าหน้าที่ตรวจโดยสะดวก ผมเองก้อไม่ได้ดับเครื่องและไม่ได้ลงจากรถ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจตราเอกสารต่างเสร็จเรียบร้อย ท่านก้อปล่อยให้ผมขับรถออกไปจากด่าน ผมก้อขับรถออกโดยทันที เนื่องจากมีรถมอเตอร์ไชด์คันอื่นๆรอตรวจอยู่เช่นกัน ผมขับไปอย่างสบายใจ และใช้เส้นทางด่วนวงแหวนตะวันตก ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีด่านเก็บเงิน มีมอเตอร์ไชด์ขับขึ้นไปและใช้เส้นทางนี้บ่อยๆ ผมขับไปเรื่อยๆลงทางด่วนเข้าถนนพระราม2 ใช้ความเร็วประมาณ80-90ก.ม.ต่อชั่วโมง ผมขับไปจนถึงสมุทรสาคร ขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำ ในขณะที่ขับลงสะพานไปนั้น รถมอเตอร์ไซด์ของผมได้ขับไปลงหลุมรถกระโดดขึ้นและลงพื้นถนนอย่างแรง ผมตั้งสติประคองรถไม่ให้ล้มและชะลอความเร็วลงทันทีและหันไปมองดูภรรยาที่นั่งซ้อนท้ายด้านหลังผม ด้วยความเป็นห่วงเกรงว่าจะหล่นจากรถ ผมจิตใจหายว๊าบขึ้นมาโดยทันที ไม่มีภรรยาผมที่เบาะท้าย ผมรีบจอดรถเข้าข้างทางทันที แล้วรีบวิ่งกลับไปบนสะพานที่ขับรถข้ามมาทันที จิตใจผมตอนนั้นมันเต้นระทึก ภาวนาขออย่าให้ภรรยาของผมเป็นอะไรไปเลย เมื่อไปถึงสะพาน ผมมองหาภรรยาของผมสายตากราดตรวจไปทั่วพื่นที่ของสะพาน ใจผมมันเต้นตึกตั๊กๆอย่างแรง มองไปตรงจุดไหนก้อไม่เห็นภรรยาของผมเลย หรือเค้าหลุดหล่นลงในแม่น้ำผมคิดได้เช่นนั้น ผมรีบมองลงไปยังพื้นแม่น้ำในทันที พื้นแม่น้ำว่างเปล่า มองไม่เห็นมีอะไรเคลื่อนไหว น้ำตาของผมมันเริ่มไหล เกิดความรักและคิดถึงเป็นห่วงภรรยาอย่างสุดหัวใจ ผมหันกลับมามองที่บนสะพานอีกครั้ง รถราอื่นๆก้อวิ่งกันอย่างปกติ มองไปทางด้านสมุทรสาครก้อไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ น้ำตาของผมไหลออกมาอย่างมากมาย เดินร้องไห้กับมายังรถมอเตอร์ไชด์ของตนเอง จิตใจเริ่มสับสน ว้าวุ้น มือไม้ แข้งขา ตัวเริ่มสั่น ผมหยิบโทรศัพย์ขึ้นมา ยังคิดอะไรไม่ออกว่าจะโทรไปหาใครดี มองดูเบอร์โทรศัพย์ในมือถือ มันมีเบอร์ของภรรยาผมอยู่ด้วย ผมรีบกดเบอร์ภรรยาผมโทรออกทันที เผื่อมีคนมารับและ อาจจะกำลังช่วยเหลือภรรยาของผมอยู่ด้วยก้อได้ ผมรอทางปลายสายรับอย่างใจเต้นระรัว ทันทีที่ปลายสายตอบรับ เป็นเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาทันที พี่ๆๆตอนนี้อยู่ไหน กลับมารับตุ๊กด้วยที่ด่าน