การจัดงานต่างๆนั้นจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีครับ ทางผู้จัดจะต้องทำการบ้านมาให้ดี ต้องรู้ว่า อะไรควรทำอย่างไร ต้องมีการประชุมเพื่อจัดการบริหารจัดการปัญหาต่างๆที่จะเกิด มีคำถามมากมายที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า "ถ้า...แล้วจะทำยังไง" เพื่อรับมือกับปัญหา และหาทาง ้องกันปัญหาที่จะเกิดครับ
กรณีส่วนของเรื่องอาหาร
ใครไม่กินอะไร เพื่อที่เราจะได้จัดการเตรียม อาหารต่างๆได้ถูกครับให้เหมาะกับ ปริมาณคน ที่ร่วมงาน การบริหารอาหารของคน40-50 คนที่ไม่ใช่ข้างกล่อง มันยากกว่าการที่มีคน 2-3 คน แล้วไปซื้อหมู๋ทะ มา 1ชุดกินกันเล่นๆมากครับ ถ้าเรารู้ว่า ผู้ร่วมงาน มีข้อจำกัดอย่างไร จะได้แยกการจัดการได้ครับ นับถือเจ้าแม่กวนอิม เป็นอิสลาม บางคนไม่กินเนื้อ ไม่กินหมู ฯลฯ แจ้งมาได้ครับ
ใครแพ้อะไร ตัวนี้ซีเรียสกว่าข้างบนครับ คนที่กินแล้วแพ้ ในขณะที่ อยู่ที่ห่างไกลแบบนั้น มันอันตรายถึงชีวิตนะครับ เช่น ตัวผมเอง แพ้กุ้งกับปู (กินแล้วเป็นผื่น/หอบ/ต้องเข้าโรงบาล) น้องผมแพ้หมูติดมัน(อ็วก) แพ้แอลกอล์ฮอล(พลาดไปกิน) อะไรแบบนั้นครับ จะได้จัดโซนการทำออกไปให้ดีๆครับ ไม่ต้องถึงกับคนที่แพ้เข้าดรงบาลฮะ เอาแค่มีอาการอ่อนๆ ก็ไม่สนุกกันแล้วจริงไหมครับ
ใครมีโรคประจำตัวร้ายแรง อันนี้ซีเรียสที่สุดครับ จะได้ รู้ไว้ก่อนว่า ถ้าเกิดมีอาการแปลกๆจะได้เอ๊ะใจไม่คิดว่า อำกันเล่นๆมีนะครับไม่ขำด้วยนึกว่าอำ ส่งโรงบาลแทบไม่ทันเพราะเพื่อนๆไม่รู้ว่าเป็นอะไร ถ้าเรารู้ไว้ก่อนจะได้ช่วยดูแลได้ทันท่วงทีครับ
3 กรณีที่ว่ามามันเคยมีกรณีตัวอย่างมาแล้วครับ เบาๆก็ทะเลาะก็โกรธ อารมณ์เสีย หนักหน่อยก็แพ้แล้วไม่สนุก เพื่อนๆก็ไม่สนุก หนักเลยก็เข้า ER ครับ
ปรกติจะไม่ค่อยได้มาอธิบาย เหตุผลต่างๆนอกที่ประชุมครับแฮะๆๆ แต่ผมต้องการชี้แจงว่าเรา มีความต้องการให้ทุกๆคนสนุกและงานลุล่วงไปได้ด้วยดีครับ
ขอเอา ประสพการณ์ ทำงาน even 9ปี(43-52) เป็นประกัน ครับ
ป.ล. กรณี แพ้แมวลาย แพ้เสือ แพ้ช้าง แพ้ชาเขียว แพ้ทหาร นั้นม่ะนับนะคับ... อิอิ